หลังจากเงาร่างเล็กสีเขียวถูกดูดเข้าไปในฟองอากาศลึกลับแล้ว โซ่อาญาสิทธิ์ก็สูญสิ้นอานุภาพทันที พลังของมันลดลงจนไม่สามารถรัดพันราชาปีศาจสมุทรได้อีก
แต่ขณะนั้นเอง ‘หลิ่วหมิง’ ก็กลายเป็นเงาร่างสีม่วงพุ่งมาถึงตรงหน้า และคว้านิ้วทั้งห้าเข้ามาจนเกิดเสียงแหลมดัง
แม้การฝึกฝนของราชาปีศาจสมุทรจะเหนือกว่าหลิ่วหมิงมาก แต่ก็ต้องรู้สึกขนลุกชันจนไม่อาจสนใจเจียหลานได้ เขาได้แต่พุ่งถอยหลังออกไปอย่างรวดเร็ว ถึงพอจะหลบการโจมตีนี้ได้ ในระหว่างนั้นมีเสียงมังกรคำรามดังออกมา แสงสีฟ้าเปล่งประกายไปทั่วร่าง จากนั้นราชาปีศาจสมุทรก็กลายเป็นมังกรที่มีเกล็ดสีฟ้าปกคลุมเต็มตัว และมีขนาดยาวสิบกว่าจั้ง
ที่ราชาปีศาจสมุทรทำเช่นนี้ ก็เพราะไม่มีทางเลี่ยงใดๆ อีกแล้ว
เดิมทีคิดว่าหากระดับแก่นแท้อย่างเขา มีพลังเวทย์อยู่ในขั้นสมบูรณ์ ต่อให้ฝ่ายตรงข้ามจะร้ายกาจแค่ไหน เขาก็ไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย
ขณะนี้เขาไม่เพียงแต่บาดเจ็บสาหัส แต่ยังถูกพิษร้ายแรงด้วย จำเป็นต้องพลังเวทย์กว่าครึ่งหนึ่งระงับพิษในร่างไว้ และการต่อสู้กับหัวปีศาจยักษ์ในป่าหินในก่อนหน้านั้น ก็สูญเสียพลังเวทย์ไปส่วนหนึ่งแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงได้แต่คืนร่างต่อสู้กับ ‘หลิ่วหมิง’
แต่จะว่าไปแล้ว ก็นับว่าราชาปีศาจสมุทรผู้นี้โชคร้ายเป็นอย่างมาก หากอาวุธเวทย์เพียงหนึ่งเดียวที่สามารถพึ่งพาได้อย่างเข็มหยินลึกลับ ไม่อยู่ในขั้นตอนสำคัญของการยกระดับ จนทำให้ไม่สามารถนำมารับมือกับศัตรูได้ ทั้งยังต้องบ่มเพาะอยู่ในร่างอยู่ตลอดเวลาล่ะก็ การต่อสู้กับเผ่าเจ้าสมุทรในวันนั้น คงยังไม่รู้ผลแพ้ชนะอย่างแน่นอน
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ด้วยพลังระดับแก่นแท้ของราชาปีศาจสมุทรบวกกับร่างมังกร ก็ทำให้กายเนื้อของเขาแข็งแกร่งจนยากที่จะจินตนาการได้
‘หลิ่วหมิง’ โจมตีผ่านความว่างเปล่า เมื่อเผชิญหน้ากับมังกรสีฟ้าตรงหน้า เขากลับไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย พอลวดลายสีม่วงบนตัวเปล่งประกายออกมา เขาก็กลายเป็นเงาสีม่วงประชิดเข้าไป ฝ่ามือทั้งคู่ที่ดูคล้ายกับกรงเล็บอันแหลมคมคว้าลงบนร่างมังกรสีฟ้า
บังเกิดเสียงดังติดต่อกัน!
มังกรสีฟ้ายกขาหน้าขึ้น จากนั้นกรงเล็บแวววาวทั้งสองก็ต้านทานไว้ตรงหน้า
“เต๊ง!” “เต๊ง!”
อากาศบริเวณรอบๆ ตัวทั้งสองสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แม้กรงเล็บมังกรจะสามารถต้านทานการโจมตีร่างปีศาจของหลิ่วหมิงได้ แต่กลับถูกเล็บอันแหลมคมของฝ่ายตรงข้ามกรีดจนเกิดเป็นรอยเลือดที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน!
ภายใต้การคำรามของมังกรสีฟ้า หางที่ปกคลุมด้วยเกล็ดก็ฟาดออกไปจนกลายเป็นเงา ขณะเดียวกัน มันก็อ้าปากปล่อยลำแสงสีฟ้าขนาดเท่าปากถ้วยพุ่งมาทางร่างแปลงหลิ่วหมิงทันที
แต่ลวดลายสีม่วงบนตัว ‘หลิ่วหมิง’ หมุนวนอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นร่างของเขาก็ค่อยๆ สั่นไหว และบิดตัวแบบแปลกๆ จนทำให้ลำแสงกระพริบผ่านอากาศไป
ส่วนมืออีกข้างก็ยื่นไปด้านหน้า ทันใดนั้นกรงเล็บก็เปล่งประกาย หางมังกรที่สะบัดเข้ามากระเด็นออกไปสิบกว่าจั้ง ราวกับถูกโจมตีอย่างรุนแรง
หลังจาก ‘หลิ่วหมิง’ คลายนิ้วทั้งห้า เกล็ดมังกรสีฟ้าจางๆ จำนวนมาก รวมถึงชิ้นเนื้อก้อนใหญ่ก็ตกลงบนพื้น
ขณะที่มังกรสีฟ้าเพิ่งจะตั้งตัวได้ ก็รู้สึกเจ็บปวดตรงหางเป็นอย่างมาก ในที่สุดก็เผยสีหน้าหวาดกลัวออกมา
ขณะที่เงาร่างสีม่วงกระพริบหายไป ‘หลิ่วหมิง’ ก็ปรากฏตัวออกมาด้วยสีหน้าดุร้าย เขายกแขนทั้งสองโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง และคว้ากรงเล็บเข้ามาด้วยเสียงอันดัง
มังกรสีฟ้าส่งเสียงร้องออกมาด้วยสีหน้าอึมครึม มันไม่สนใจกรงเล็บที่คว้าเข้ามาเลยแม้แต่น้อย แต่กลับสะบัดขาหน้าไปทางศีรษะหลิ่วหมิงอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ
กรงเล็บมังกรยังไม่ทันคว้ามาถึงศีรษะของฝ่ายตรงข้าม ก็มีเสียงดังขึ้นมา!
มังกรสีฟ้ารู้สึกถึงความเจ็บปวดบนร่าง จากนั้นเกล็ดจำนวนมากก็ถูกคว้าออกไป
ขณะเดียวกัน ‘หลิ่วหมิง’ ก็หัวเราะออกมาแปลกๆ จากนั้นร่างของเขาก็พร่ามัวหายไปจากที่เดิม และมาปรากฏอยู่ห่างออกไปหลายจั้ง
ขณะนี้ กรงเล็บทั้งคู่ของมังกรถึงร่วงลงมา และคว้าได้แต่ความว่างเปล่า
……
ผ่านไปไม่นาน พลันมีเสียงดัง “ตู๊ม!” ภายนอกยอดเขาสีดำ
ภายใต้เศษหินดินทรายที่กระเด็นไปทั่ว รูขนาดใหญ่หลายจั้งก็ปรากฏขึ้นบนยอดเขา และมังกรสีฟ้ากับชายหนุ่มชุดคลุมสีเทาที่มีลวดลายสีม่วงปกคลุมเต็มตัวก็พุ่งออกมา
ซึ่งก็คือราชาปีศาจสมุทรกับร่างแปลงหลิ่วหมิงนั่นเอง
ทั้งสองต่อสู้กันตั้งแต่อยู่ในยอดเขา จนมาถึงป่าหินในก่อนหน้านั้นอีกครั้ง
พริบตาเดียว ทั้งสองก็ไล่ล่ากันออกไปหลายร้อยจั้ง และมาปรากฏตัวในบริเวณแท่นบูชาในก่อนหน้านั้น
บนพื้นหินในขณะนี้ เปลวเพลิงผู่ถัวสีเงินยังคงลุกไหม้คุโชนอยู่ และมีคลื่นแสงหมุนวนอยู่บนม่านแสงสีขาวหนาๆ บนอากาศเช่นเดิม
พอแสงสีฟ้ากลุ่มหนึ่งกระพริบผ่านไป ร่างมังกรสีฟ้าก็ปรากฏตัวด้านล่างม่านแสง
ตอนที่อยู่ในถ้ำ ทั้งสองแลกมือกันเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ หลังจากนั้นร่างมังกรก็ถูก ‘หลิ่วหมิง’ โจมตีจนมีบาดแผลเต็มตัว แม้แต่เกล็ดบนตัวก็ถูกกรงเล็บอันแหลมคมขูดออกไปไม่น้อย
พอราชาปีศาจสมุทรเห็นท่าทีไม่ดี ก็ได้แต่ล่าถอย และหลังจากพยายามพาเจียหลานไปหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ เขาจึงตัดสินใจทะลายภูเขาหนีออกมา
ร่างแปลงหลิ่วหมิงก็ตามออกมาอย่างไม่ลังเล
ขณะนี้ราชาปีศาจสมุทรได้รับบาดแผลเต็มตัว หลังจากเข้าสู่ระดับแก่นแท้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกจนมุมถึงขั้นนี้
พอเขาสูดหายใจลึกๆ เข้าไปหนึ่งที เงาร่างด้านหลังก็ตามมาถึง จากนั้นแขนที่ถูกปกคลุมไปด้วยลวดลายสีม่วงก็ยื่นออกมา และขยายใหญ่เท่าตัวก่อนแทงไปยังจุดตายของราชาปีศาจสมุทร
แขนของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ราวกับว่ามันติดอยู่ในนั้นตั้งแต่แรก และค่อยดึงออกมาในภายหลัง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา