ศิษย์เหล่านี้ส่วนใหญ่ดูเหมือนจะเป็นศิษย์ที่ธรรมดาที่สุดของนิกายยอดบริสุทธิ์ มีส่วนน้อยที่สวมชุดศิษย์สายนอกอย่างลิ่วหมิง นอกจากนี้ยังมีคนจำนวนหนึ่งจับกลุ่มสองสามคนอยู่ตรงมุมห้องโถง ดูเหมือนกำลังพูดคุยเรื่องอะไรกันอยู่
“ขอถามศิษย์พี่ท่านนี้ ที่นี่มีคนไปถ้ำห้าธาตุเยอะทุกวันเลยหรือ?” หลิ่วหมิงเห็นว่าชายหนุ่มชุดดำที่อยู่ไม่ไกลดูคล้ายกับผู้ดำเนินการ จึงรีบเดินเข้าไปถาม
“ศิษย์น้องเพิ่งเข้ามาใหม่สินะ ข้าเป็นศิษย์ที่มาเปลี่ยนเวรที่นี่ เรียกข้าว่าหยวนหรงก็พอ แต่ก่อนที่นี่มีคนเยอะสุดวันละเกือบร้อยคนเท่านั้น แต่วันนี้ไม่รู้เพราะอะไรถึงมารวมตัวกันมากมายเช่นนี้” ชายชุดดำสังเกตดูหลิ่วหมิงเล็กน้อย หลังจากเห็นเขาใส่ชุดศิษย์สายนอก ก็ทำการคารวะก่อนตอบกลับไป
“ที่แท้ก็เป็นศิษย์พี่หยวน ข้าน้อยหลิ่วหมิง เป็นศิษย์สายนอกที่เพิ่งมาใหม่จริงๆ ที่มาในวันนี้เพราะอยากทำความเข้าใจเกี่ยวกับการฝึกฝนในถ้ำห้าธาตุ หวังว่าศิษย์พี่จะชี้แนะข้าบ้าง” หลิ่วหมิงถามหยวนหรงด้วยสีหน้านอบน้อม
“เรื่องนี้นับว่าศิษย์น้องถามถูกคนแล้ว ถ้ำห้าธาตุนี้นับว่าเป็นสถานที่ฝึกฝนพิเศษของนิกายเรา ได้ผลดียิ่งนักสำหรับวิชาที่เกี่ยวข้องกับห้าธาตุ แต่ตามสถานะที่แตกต่างของศิษย์ในนิกาย แต้มคุณูปการที่ใช้ในการเข้าถ้ำห้าธาตุ ก็แตกต่างกันไปด้วย โดยพื้นฐานแล้ว ศิษย์สายนอกได้ส่วนลดสองในสิบ ส่วนศิษย์สายในจะได้ส่วนลดสี่ในสิบ ศิษย์สายตรงได้ส่วนลดหกในสิบ ส่วนศิษย์ธรรมดาในนิกายต้องจ่ายเต็ม นอกจากนี้ถ้ำห้าธาตุยังแบ่งออกเป็นเก้าระดับ แต้มคุณูปการที่ใช้ก็แตกต่างกันไป ระดับหนึ่งถึงสองที่เป็นระดับสูงสุดนั้น เวลาหนึ่งชั่วยามต้องใช้แต้มคุณูปการเกือบหมื่นแต้ม แต่ว่าถ้ำระดับนี้ไม่เพียงแต่มีจำนวนน้อย ขณะเดียวกัน ก็ไม่ใช่สิ่งที่ศิษย์ทั่วไปจะสามารถเข้าไปได้ คาดว่าลำพังแค่ความหนาแน่นของปราณจิตวิญญาณห้าธาตุที่อยู่ในนั้น ก็พอที่จะให้ผู้ที่มีระดับการฝึกฝนไม่เพียงพอ ร่างระเบิดจนเสียชีวิตได้” หยวนหรงเล่าออกมาภายในอึดใจเดียวอย่างกระตือรือร้น หลิ่วหมิงก็รับฟังอยู่ข้างๆ
“สำหรับระดับของเหลวขั้นกลางอย่างศิษย์น้อง โดยทั่วไปแล้วระดับที่หกเจ็ดจะเหมาะสมที่สุด แต่หากกายเนื้อค่อนข้างแข็งแกร่ง และระดับการฝึกฝนไม่ใช่สิ่งที่ศิษย์ระดับเดียวกันสามารถเทียบได้ล่ะก็ ลองดูชั้นที่สูงกว่าหน่อยก็ได้” หยวนหรงกวาดสายตาดูร่างหลิ่วหมิงแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ขอบคุณศิษย์พี่หยวนที่ชี้แนะ” หลิ่วหมิงได้ยินก็ยิ้มเล็กน้อย และพยักหน้าโดยไม่ออกความเห็นใดๆ
ตามที่เขาคาดการณ์ไว้ ด้วยการฝึกฝนระดับของเหลวขั้นกลางอย่างเขา บวกกับความแข็งแกร่งของกายเนื้อที่ผู้แข็งแกร่งระดับผลึกไม่อาจต้านทานได้ คงพอที่แบกรับระดับสี่ของถ้ำจิตวิญญาณแห่งนี้ได้
แต่หากทำเช่นนี้จริงๆ ล่ะก็ เกรงว่าจะเป็นจุดสนใจไปหน่อย ถ้ำจิตวิญญาณระดับสี่ก็ใช้แต้มคุณูปการจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่อาจแบกรับได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
ด้วยเหตุนี้ ถ้ำจิตวิญญาณระดับห้าที่เสียแต้มคุณูปการวันละสองร้อยแต้ม จึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสถานการณ์ของเขาในตอนนี้
หลิ่วหมิงคาดการณ์อยู่ในใจ แต่แต้มคุณูปการในขณะนี้มีไม่เพียงพอ จึงได้แต่ไปจากที่นี่ก่อน
แต่ขณะนั้นเอง ชายหนุ่มชุดฟ้าที่มีลักษณะท่าทางฮึกเหิม ก็ก้าวยาวๆ เข้ามาในวิหารใหญ่
พอหยวนหรงเห็นคนผู้นี้ ก็รีบกล่าวลาหลิ่วหมิง และรีบไปต้อนรับคนผู้นี้อย่างนอบน้อม “ศิษย์พี่โจว”
และพอกลุ่มคนที่เข้าแถวอยู่ตรงหน้า เห็นชายชุดฟ้าเดินเข้ามา ก็ค่อยๆ เปิดทางให้ และแสดงสีหน้านอบน้อมเช่นกัน
“เอาถ้ำจิตวิญญาณทองคำระดับห้าให้ข้า ระยะเวลาหนึ่งเดือน” ชายหนุ่มชุดฟ้าเดินมาตรงหน้าศิษย์ดำเนินการด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก พอยื่นป้ายประจำตัวออกไปแล้วก็กล่าวอย่างราบเรียบ
พอศิษย์ดำเนินการผู้นั้นรับแผ่นป้ายมาแล้ว ก็รีบจัดการอย่างรวดเร็ว
หลังจากศิษย์พี่โจวผู้นี้รับป้ายคืนไปแล้ว ก็พูดคุยกับศิษย์บริเวณนั้นสองสามประโยค จากนั้นก็เดินไปยังด้านข้างห้องโถง ประจักษ์ชัดว่าจะไปกักตัวที่ถ้ำจิตวิญญาณแล้ว
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ ดวงตาก็ค่อยๆ เป็นประกายขึ้นมา
ชายหนุ่มชุดฟ้าผู้นี้ดูเหมือนจะมีอายุพอๆ กับตน การฝึกฝนก็อยู่ราวๆ ระดับของเหลว แต่ดูจากท่าทีของเขาแล้ว เห็นได้ชัดว่ามีที่มาไม่ธรรมดา
เขาวกความคิดกลับมาอย่างรวดเร็ว และก้าวไปถามหยวนหรง
“ศิษย์พี่หยวน ศิษย์พี่โจวผู้นี้มีที่มาอย่างไร เป็นศิษย์สายนอกเหมือนกันหรือไม่?”
“โจวเทียนรุ่ยเป็นศิษย์สายนอกของสาขาห่านฟ้า ไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในสามที่มีพลังแข็งแกร่งสุดในสาขา แต่ยังเป็นหนึ่งในศิษย์สายนอกที่มีความหวังสูงสุดว่าจะกลายเป็นศิษย์สายในในช่วงสิบปีมานี้” หยวนหรงกล่าวอย่างราบเรียบ แววตาเต็มไปด้วยความอิจฉา
หลิ่วหมิงได้ยินก็รู้สึกใจเย็นสะท้าน หลังจากสอบถามอีกรอบแล้ว เขาถึงทราบว่า ตามกฎของนิกายยอดบริสุทธิ์ ศิษย์สาขาจะมีการประลองเล็กสามปีครั้ง ประลองใหญ่สิบปีครั้ง โดยเฉพาะอย่างหลัง สิบคนแรกไม่เพียงแต่จะได้รับทรัพยากรการฝึกฝนกับแต้มคุณูปการจำนวนมากเท่านั้น ในระหว่างการประลองยังมีผู้อาวุโสแต่ละยอดเขาไปดูด้วย หากเข้าตาก็จะใช้สิทธิ์ที่มีอยู่ รับเข้าไปเป็นศิษย์สายใน
นี่เป็นวิธีการที่เร็วที่สุดในการเป็นศิษย์สายใน
และศิษย์พี่โจวผู้นี้ก็มีพลังน่าตกใจ เขาเข้าสู่สิบอันดับแรกในการประลองเล็กทั้งสองรอบติดต่อกัน ดังนั้นย่อมแตกต่างจากศิษย์ทั่วไป
“ขอบคุณศิษย์พี่หยวนที่ชี้แนะ” หลังกล่าวขอบคุณหยวนหรงแล้ว หลิ่วหมิงก็หมุนตัวเดินออกไป แต่ในใจกลับทำการคิดไตร่ตรองอีกครั้ง
ประลองเล็กสามปีครั้ง ประลองใหญ่สิบปีครั้ง นี่ก็เป็นโอกาสอันดีที่เขาจะออกหน้าออกตา
แม้คุณสมบัติของเขาจะไม่ได้ แต่หากเข้าสิบอันดับแรกได้ล่ะก็ ไม่แน่อาจจะทำให้ผู้อาวุโสยอดเขาซักแห่ง รับเขาเป็นศิษย์สายในก็ได้
แต่สำหรับเขาแล้ว ทั้งหมดนี้มันเร็วไปหน่อย
เขาต้องฝึกเคล็ดวิชามังกรพยัคฆ์ทมิฬขั้นที่สองให้สำเร็จ จากนั้นก็เข้าสู่ระดับของเหลวขั้นปลาย พอรับมือกับการดูดกลืนพลังเวทของฟองอากาศลึกลับแล้ว ถึงสามารถคิดเรื่องเหล่านี้ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา