หนึ่งชั่วยามผ่านไป หลิ่วหมิงก็เดินออกจากหอนานัปการด้วยสีหน้าสงบ ป้ายบนเอวมีแต้มคุณูปการเพิ่มขึ้นมาหนึ่งพันห้าร้อยแต้ม ทำให้ตอนนี้เขามีแต้มคุณูปการทั้งหมดสี่พันกว่าแต้มแล้ว
“คงจะเพียงพอแล้ว”
หลิ่วหมิงพูดพึมพำสองสามประโยค จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อหยิบแผนที่เขาหมื่นวิญญาณออกมา หลังจากใช้จิตรับรู้กวาดดูแล้วก็เก็บมันเข้าไป และทำท่ามือด้วยมือเดียวขี่เมฆทะยานไปทางถ้ำจันทรา
ก่อนไปหลิ่วหมิงย่อมสอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับ ‘ถ้ำจันทรา’ ไปหนึ่งรอบแล้ว
ถ้ำจันทราที่กล่าวถึง แท้จริงแล้วเป็นถ้ำที่นิกายใช้รวบรวมปราณหยินใต้พิภพโดยเฉพาะ ภายในถ้ำถูกแบ่งเป็นถ้ำหยินเล็กๆ เพื่อให้ผู้ฝึกฝนพลังธาตุหยินในนิกายใช้
เนื่องจากถ้ำจันทรารองรับคนได้จำกัด ในบรรดาศิษย์ทั้งหมด นอกจากศิษย์สายตรงที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแล้ว ศิษย์สายในก็จ่ายแต้มคุณูปการเพียงเล็กน้อย ศิษย์สายนอกจ่ายมากขึ้นอีกหน่อย ส่วนศิษย์ธรรมดาต้องจ่ายแต้มคุณูปการจำนวนมาก และต้องรอจนมีถ้ำว่างจำนวนมากถึงจะเข้าไปได้
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ความหนาแน่นของปราณหยินในถ้ำก็มีความแตกต่างกัน มีถ้ำสองสามแห่งที่มีปราณหยินหนาแน่น ซึ่งหนาแน่นกว่าสถานที่อื่นหนึ่งเท่าขึ้นไป และปราณหยินของสถานที่เหล่านี้ มักจะมีสรรพคุณพิเศษบางอย่าง ที่มีผลดีต่อบางด้านของต่อผู้ฝึกฝน
แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่หลิ่วหมิงสามารถคิดได้ในตอนนี้ เพราะโดยทั่วไปสถานเหล่านี้ล้วนให้ศิษย์สายในใช้ฝึกฝน
แต่หากเขาอาศัยสถานที่แห่งนี้ทะลวงระดับของเหลวขั้นปลายล่ะก็ ย่อมได้ผลเป็นอย่างมาก
ครึ่งวันผ่านไป หน้าหุบเขาเร้นลับแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ระหว่างยอดเขาสีเขียวสองลูก
หลิ่วหมิงกำลังยืนอยู่ตรงหน้าทางเข้าหุบเขา ชุดคลุมสีเขียวปลิวสะบัดตามแรงลม เขาหรี่ตาทั้งคู่ลงและสังเกตดูด้านหน้า
จะเห็นว่ามีประตูหินสีเทาสูงสองสามจั้ง ตั้งตระหง่านอยู่บนพื้นที่ราบกว้างตรงหน้า หน้าประตูถ้ำมีหินยักษ์สีเทาก้อนหนึ่งที่มีอักขระสีเงินสลักอยู่บนนั้น ‘ถ้ำจันทรา’
หลิ่งหมิงค่อยๆ เดินไปหน้าประตู และนำป้ายบนเอวโบกไปทางประตู พอแสงสีเขียวจมหายไปในประตู ก็เกิดเสียงดังโครมคราม และประตูยักษ์ก็ค่อยๆ เปิดออกมา
เขาเดินเข้าประตูถ้ำด้วยสีหน้าสงบ สิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือห้องโถงเล็กๆ ที่มีพื้นที่แค่ยี่สิบถึงสามสิบจั้ง บนเพดานมีหินแสงจันทราขนาดเท่ากำปั้นที่เปล่งแสงทรงกลดสีขาวอยู่ มันส่องแสงจนห้องโถงเล็กๆ สว่างขึ้นมา และนอกจากจะมีโต๊ะเก้าอี้หินสองสามตัวแล้ว ก็ไม่มีคนอื่นๆ อยู่อีก เห็นได้ชัดว่ามันว่างเปล่ามันเป็นอย่างมาก
ด้านหลังของห้องโถง มีระเบียงทางเดินแคบๆ ที่กว้างครึ่งจั้งอยู่สายหนึ่ง หลิ่วหมิงยืนอึ้งอยู่ครู่หนึ่งแล้ว ก็เดินตรงไประเบียงทางเดินทันที
ระเบียงยาวแค่สิบกว่าจั้ง ปลายสุดของทางเดิน เชื่อมต่อกับห้องหินขนาดสิบกว่าจั้งแห่งหนึ่ง
ใจกลางห้องหินเป็นค่ายกลสีฟ้าที่มีขนาดจั้งกว่าๆ รอบด้านค่ายกลมีผลึกหินธาตุหยินสีฟ้าจางๆ เลี่ยมฝังอยู่หลายก้อน มันคงเป็นค่ายกลส่งตัว
ตรงหน้าค่ายกล มีผู้อาวุโสชุดเหลืองกำลังนั่งหลับตาขัดสมาธิอยู่บนเบาะกลมๆ
“ผู้อาวุโส” หลิ่วหมิงไม่รับรู้ถึงระดับการฝึกฝนของผู้อาวุโสเลยแม้แต่น้อย เขาประสานมือคารวะ และกล่าวด้วยใจที่เย็นสะท้าน
“เจ้าเป็นศิษย์สาขาใด คงรู้กฎแล้วใช่ไหม?” ผู้อาวุโสไม่ลืมตาขึ้นมา เพียงแค่เอ่ยปากออกมาอย่างราบเรียบเท่านั้น
“เรียนผู้อาวุโส ข้าน้อยเป็นศิษย์สาขาห่านฟ้า แต้มคุณูปการได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว” หลิ่วหมิงตอบกลับอย่างนอบน้อม
“ดีมาก! ศิษย์สายนอกที่จะเข้าไปฝึกฝนในถ้ำจันทรา ต้องชำระแต้มคุณูปการวันละหนึ่งร้อยแต้ม เจ้าจะอยู่นานเท่าใด?” ผู้อาวุโสค่อยๆ ลืมตาทั้งคู่แล้วถามออกมา
“ข้าน้อยต้องการอยู่สี่สิบวัน” หลิ่วหมิงกล่าวด้วยสีหน้าสงบ จากนั้นก็ยื่นป้ายไปให้ผู้อาวุโส
เวลานานเช่นนี้ เพียงพอที่เขาจะทำระดับการฝึกฝนให้มั่นคงในถ้ำจันทราได้ อีกอย่างปราณหยินในถ้ำก็เพียงพอ ซึ่งเป็นสถานที่ฝึกฝนชั้นยอดสำหรับแมงป่องกระดูกด้วยเช่นกัน
ผู้อาวุโสได้ยิน ก็สะบัดแขนเสื้อโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง พู่กันหยกด้ามหนึ่งแตะลงบนป้ายเบาๆ พอแสงสีเขียวเปล่งประกายออกมา แต้มคุณูปการบนป้ายก็เหลือแต่หนึ่งร้อยกว่าแต้มเท่านั้น
ผู้อาวุโสเก็บพู่กันหยกเข้าไป และโยนป้ายคืนให้หลิ่วหมิงเบาๆ
“เอาล่ะ! เจ้าเข้าไปได้แล้ว พอถึงเวลาที่กำหนด เจ้าจะถูกส่งตัวกลับมาที่นี่เอง”
หลิ่วหมิงรับแผ่นป้ายไปไว้บนเอว หลังจากโค้งตัวคารวะแล้ว ก็เดินเข้าไปใจกลางค่ายกล
พอผู้อาวุโสคิ้วเหลืองพลิกฝ่ามือข้างหนึ่ง ป้ายสีดำวาวก็ปรากฏออกมา มืออีกข้างก็ปล่อยพลังใส่ค่ายกลตรงกลางห้องหิน จากนั้นก็ร่ายคาถาออกมาเบาๆ
หลิ่วหมิงเพียงแค่รู้สึกว่าพื้นดินค่อยๆ สั่นไหว ค่ายกลส่งเสียงดังหวึ่งๆ ทั้งยังมีแสงสีฟ้าจางๆ เปล่งประกายรอบด้าน และกระพริบหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ผู้อาวุโสหลับตาลงอีกครั้ง
……
หลิ่วหมิงรู้สึกว่ามีแสงสีฟ้าเปล่งประกายเจิดจ้าอยู่ตรงหน้า พอหลับตาแล้วลืมขึ้นมาอีกครั้ง ก็ค้นพบว่าตนเองมาอยู่ภายในถ้ำหินที่มีขนาดครึ่งหมู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา