ขณะที่หลิ่วหมิงนำโอสถผลึกเย็นที่มีลายโอสถสีเงินจางๆ อยู่บนพื้นผิวสองเส้นออกจากเตาหลอมนั้น ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายด้วยความดีใจ
นี่คือโอสถผลึกเย็นระดับสูงเม็ดแรกที่เขาปรุงออกมาได้ในสองปีมานี้ แม้จะเป็นแค่โอสถธรรมดาเม็ดหนึ่งที่มีลายโอสถแค่หนึ่งเส้น แต่เทียบกับโอสถระดับกลางความบริสุทธิ์ต่ำ ที่ปรุงขึ้นมาในสองปีที่ผ่านมาแล้ว ถือว่ามีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก
แต่อัตราความสำเร็จในหลอมโอสถผลึกเย็นยังคงไม่ถึงสามในสิบส่วน
สามปีต่อมา หลังผ่านการปรุงโอสถอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดอัตราความสำเร็จในการหลอมโอสถผลึกเย็น ก็สูงขึ้นเจ็ดส่วนขึ้นไป ทั้งยังโชคดีปรุงโอสถพสุธาที่มีความบริสุทธิ์แปดส่วนขึ้นไปได้เป็นบางครั้ง
การปรุงโอสถที่มีอัตราความสำเร็จสูงเช่นนี้ หากอยู่ในโลกภายนอก เกรงว่าผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถจำนวนมาก คงจะรู้สึกตกตะลึงพรึงเพริดอย่างแน่นอน
เพราะมีไม่กี่คนที่ยอมเสียทรัพยากรจำนวนมากเพื่อฝึกปรุงโอสถชนิดนี้ ต่อให้มีก็ไม่สามารถราบรวมวัตถุดิบมาได้มากขนาดนี้
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หลิ่วหมิงก็ไม่คิดจะหยุดการฝึกฝนแต่อย่างใด
แต่หลายเดือนต่อมา หลิ่วหมิงค้นพบว่าแม้เขาจะปรุงโอสถเหมือนเดิม แต่ไม่ว่าอัตราความสำเร็จหรือการยกระดับคุณภาพโอสถกลับช้าลงอย่างชัดเจน
หลังจากคิดไตร่ตรองดูแล้ว เขาก็คาดเดาได้ว่าคงเผชิญกับปัญหาคอขวดเข้าแล้ว หากฝึกฝนเช่นนี้ต่อไปจะเปลืองแรงเสียเวลาเปล่าๆ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงตัดสินใจวางเรื่องโอสถผลึกเย็นไว้ก่อน และเริ่มลองปรุงโอสถจินหยวนตามที่บันทึกไว้ในตำรา
หลังจากมีประสบการณ์การปรุงโอสถผลึกเย็นก่อนหน้ามาแล้ว ขั้นตอนการปรุงโอสถจินหยวนในครั้งนี้จึงราบรื่นขึ้นมามาก เนื่องจากเป็นโอสถระดับของเหลวเหมือนกัน วิธีการปรุงจึงคล้ายกันเล็กน้อย
ผ่านไปเก้าเดือน โอสถจินหยวนระดับธรรมดาที่มีลายจิตวิญญาณสีทองจางๆ หนึ่งเส้นอยู่บนพื้นผิว ก็ถูกปรุงออกมา
หลิ่วหมิงจ้องมองโอสถสีทองอร่ามในมือด้วยสีหน้าลังเล
เนื่องจากโอสถจินหยวนใช้แก่นผลึกของปีศาจอสูรเป็นวัตถุดิบหลัก ในระหว่างการหลอมแก่นผลึกของปีศาจอสูรค่อนข้างใช้เวลามาก การปรุงโอสถหนึ่งเตาต้องใช้เวลาราวๆ สามวัน เห็นได้ชัดว่าผลลัพธ์ของมันน้อยกว่าโอสถผลึกเย็นมาก
และอัตราความสำเร็จในการปรุงโอสถจินหยวน ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณภาพแก่นบริสุทธิ์ของอสูรจินหยวนมาก
เขาซื้อแก่นบริสุทธิ์จินหยวนมาทั้งหมดห้าชุด สี่ในห้าชุดเป็นแก่นบริสุทธิ์ของปีศาจจินหยวนระดับของเหลวขั้นต้น ส่วนอีกชุดเป็นระดับของเหลวขั้นกลาง
ผลลัพธ์เป็นอย่างที่เขาคาดคิดไว้ในก่อนหน้า โอสถจินหยวนที่ปรุงจากแก่นบริสุทธิ์ระดับของเหลวขั้นกลาง มีอัตราความสำเร็จราวๆ สามส่วนขึ้นไป หลังจากฝึกฝนซ้ำๆ หลายครั้งก็สูงขึ้นห้าหกส่วน
และโอสถที่ปรุงขึ้นมาจากแก่นบริสุทธิ์ระดับของเหลวขั้นต้น ก็มีอัตราความสำเร็จไม่ถึงหนึ่งส่วน หลังผ่านการฝึกฝนมากว่าครึ่งปี อัตราความสำเร็จก็ยังคงวนอยู่ที่สองสามส่วนเท่านั้น
นอกจากนี้ ระดับของโอสถจินหยวนที่ปรุงมาจากแก่นบริสุทธิ์ต่างระดับกัน ก็มีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก
โอสถจิตหยวนที่ปรุงจากแก่นบริสุทธิ์ระดับของเหลวขั้นต้น แม้จะกลายเป็นโอสถ แต่ก็เป็นโอสถระดับต่ำที่มีความบริสุทธิ์แค่สามสี่ส่วน ซึ่งปรุงเป็นโอสถระดับกลางที่มีความบริสุทธิ์ห้าหกส่วนได้เป็นครั้งคราว
และโอสถที่ปรุงจากแก่นบริสุทธิ์ระดับของเหลวขั้นกลาง โดยทั่วไปมีความบริสุทธิ์ประมาณห้าหกส่วน และยังปรุงเป็นโอสถระดับสูงได้เป็นครั้งคราว
ดูท่าหากจะปรุงโอสถระดับของเหลวที่มีความบริสุทธิ์สูง วัตถุดิบที่ใช้ก็มีความสำคัญเช่นกัน และจะเพิ่มต้นทุนวัตถุดิบด้วย แต่ก็อย่างไรก็ตาม มันยังคงเพิ่มมูลค่าของโอสถเป็นอย่างมาก
โดยทั่วไปแล้ว โอสถระดับสูงไม่ค่อยมีขายในตลาด ผู้คนต่างก็อยากได้
หลังจากหลิ่งหมิงคิดเช่นนี้แล้ว ก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย และเก็บโอสถสีทองเข้าไปทันที หลังจากเหยียดแขนทั้งสองออกไปเล็กน้อย ก็ลุกขึ้นเดินไปทางแมงป่องกระดูกกับหัวบิน
หน้ากำแพงหมอกด้านหนึ่ง หัวบินที่มีไอดำพวยพุ่งรอบตัวกำลังพ่นเปลวไฟสีเขียวโจมตีด้านหน้าไม่หยุด
ไม่รู้ว่ากำแพงหมอกในห้องว่างเปล่าลึกลับเป็นชั้นจำกัดแบบใดกัน แต่ภายใต้การโจมอย่างต่อเนื่องของเปลวไฟสีเขียว ก็มีคลื่นพลังเวทแผ่กระจายบนพื้นผิวอย่างรุนแรง และกลายเป็นชั้นระลอกคลื่นกลางอากาศ จากนั้นก็แผ่ขยายออกไปรอบด้าน
พอเห็นหลิ่วหมิงเข้ามา หัวบินก็ส่ายหัวกลางอากาศหนึ่งที ดวงตาสีแดงเป็นประกาย แสงสีเขียวระยิบระยับบนพื้นผิว เส้นผมบนหัวตั้งตรงขึ้นมา และพุ่งยิงใส่กำแพงหมอกตรงหน้าอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากมีเสียงดัง “ปังๆ!” ก็ปรากฏรูเล็กๆ บนกำแพงหมอกสีเทาเป็นจำนวนมาก เห็นได้ชัดว่ามันแหลมคมกว่าก่อนเข้ามาในห้องว่างเปล่าลึกลับเล็กน้อย แต่ไม่นานรูจำนวนมากก็ผสานกลับมาดังเดิม
“ทำได้ไม่เลว!” หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ ก็พยักหน้าเล็กน้อย และกล่าวชมเชยเบาๆ
หัวบินได้ยินก็บินวนรอบตัวหลิ่วหมิงด้วยความดีใจ
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็กลั้นหัวเราะไว้ไม่ได้
หัวบินในตอนนี้ไม่เพียงแต่มีเสียงคล้ายเด็กน้อย แม้แต่นิสัยก็ใกล้เคียงเล็กน้อย
เขาโบกมือบ่งบอกให้มันฝึกฝนต่อ จากนั้นก็หมุนตัวเดินไปทางแมงป่องกระดูก
“นายท่าน…” แมงป่องกระดูกแตกต่างจากหัวบิน พอมันเห็นหลิ่วหมิงเดินเข้ามา ก็กระโดดขึ้นบนไหล่ของเขาในทันที จากนั้นก็ใช้ก้ามทั้งคู่ถูกเสื้อของเขา
สำหรับท่าทีสนิมสนมของแมงป่องกระดูกนั้น หลิ่วหมิงไม่ได้รู้สึกรำคาญแต่อย่างใด หลังจากยื่นมือไปลูบหลังเย็นๆ ของมันแล้ว ก็สั่งให้มันแสดงผลลัพธ์การฝึกฝนในระยะนี้ให้ดูหน่อย
แมงป่องกระดูกกระโดดลงจากหลังหลิ่วหมิงในทันที แสงสีเงินเปล่งประกายบนตัว ร่างของมันขยายใหญ่ขึ้นมาสิบกว่าจั้งราวกับว่าถูกเป่าลม
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็ร่นถอยออกไปสองก้าว และตั้งหลักมองดูอย่างละเอียด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา