ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 534

สรุปบท ตอนที่ 534: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 534 – ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา โดย Internet

บท ตอนที่ 534 ของ ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 534 คำเล่าลือในตลาด
ตอนที่ 534 คำเล่าลือในตลาด
โดย
Ink Stone_Fantasy
“เถ้าแก่ ทำการค้าครั้งนี้ให้เสร็จก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องอื่นก็ยังไม่สาย” หลิ่วหมิงได้ยิน ก็กล่าวออกมา

“ท่านโปรดรอสักครู่!” ตอนนี้ชายชุดดำถึงค้นพบว่าตนเองยั้งสติไม่อยู่เล็กน้อย หลังจากยิ้มเคอะเขินออกมาแล้ว ก็ปิดกล่องหยกที่อยู่บนโต๊ะ และลุกเดินออกไปจากห้องรับรอง

ผ่านไปราวๆ หนึ่งถ้วยชา ชายมนุษย์เผ่าค้างคาวถึงเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม บนมือมีกล่องไม้สีเทาขนาดสองสามฉื่อใบหนึ่ง

เขาวางกล่องไม้ไว้บนโต๊ะ และใช้นิ้วเรียวยาวแตะเบาๆ ไอสีแดงสายหนึ่งจมเข้าไปในกล่อง พอฝากล่องเปิดออกมา ผลผลึกเขียวสิบห้าลูกที่อยู่ในนั้น ก็เปล่งแสงสีเขียวจางๆ

สำหรับหลิ่วหมิงที่เคยเห็นผลผลึกเขียวมานับไม่ถ้วนแล้ว เพียงแค่ใช้จิตกวาดดูเล็กน้อย ก็มั่นใจในอายุของผลผลึกเขียวเหล่านี้ พอใช้มือข้างหนึ่งลูบมันเบาๆ กล่องไม้ก็ถูกเขาเก็บเข้าไปในหอยสังข์ย่อส่วนที่อยู่บนเอว

“เถ้าแก่ ข้ายังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำต้องขอตัวก่อน ส่วนโอสถคุณภาพสูงนั้น ข้าจะนำไปคิดดู” หลิ่วหมิงกล่าวออกมาอย่างราบเรียบ

เดิมทีหลิ่วหมิงกะจะพูดจาคลุมเครือ แต่คิดไม่ถึงว่าตนเองจะพูดเรื่องโอสถระดับที่สูงกว่าออกมา แต่พอมานึกดูแล้ว อย่างไรซะโอสถพสุธาก็ต้องนำออกมาขายเช่นกัน และร้านมนุษย์เผ่าค้างคาวก็เป็นคู่ค้าที่ดี อีกอย่างเขาก็ค่อนข้างสนใจผลผลึกเขียวพันปีนี้ไม่น้อย

“สหายค่อยๆ เดิน! หากครั้งหน้ามาร้านของเราล่ะก็ มาหาข้าโดยตรงได้เลย” ชายเผ่าค้างคาวเก็บกล่องหยกที่ใส่โอสถผลึกเย็น และกล่าวด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า จากนั้นก็เดินลงหอไปกับหลิ่วหมิง

เวลาที่เหลือเขาก็เปลี่ยนรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างกันสิบกว่าแบบ และใช้หินจิตวิญญาณที่มีอยู่ในมือไปรวบรวมวัตถุดิบเสริมที่จำเป็นจำนวนมาก ทั้งยังซื้อแก่นบริสุทธิ์อสูรจินหยวนระดับผลึกมาจำนวนหนึ่ง จากนั้นถึงกลับไปที่หอร้อยหลอม

ช่วงเวลาหลังจากนี้ นอกจากเขาจะลงหอไปดูสถานการณ์ของร้านในคราวจำเป็นแล้ว ช่วงเวลาที่เหลือส่วนมากก็จะอยู่บนห้องลับชั้นสาม ด้านหนึ่งฝึกฝนเคล็ดกระบี่ทั้งสองแบบ อีกด้านหนึ่งก็ปรุงโอสถทั้งสองชนิดเป็นจำนวนมาก

สองเดือนต่อมา ในที่สุดเขาก็ปรุงโอสถทั้งหมดเสร็จสิ้น

ครั้งนี้เขาปรุงโอสถผลึกเย็นออกมาได้หนึ่งร้อยกว่าเม็ด ในนั้นมีโอสถธรรมดาถึงสามสิบกว่าเม็ด และมีโอสถพสุธามากถึงสี่เม็ด

นอกจากนี้ยังมีโอสถจินหยวนสิบกว่าเม็ด ทั้งยังมีโอสถธรรมดาหนึ่งเม็ดด้วย

ที่เขาได้โอสถระดับสูงมามากเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้องกับวัตถุดิบหลักอย่างผลผลึกเขียวที่มีอายุสี่ห้าร้อยปีเหล่านี้ คุณภาพของโอสถที่ปรุงออกมาจึงเพิ่มเป็นทวี

หลังจากเขาคิดไตร่ตรองไปรอบหนึ่งแล้ว ก็นำโอสถผลึกเย็นระดับกลางในมือมาแบ่งเป็นชุดๆ ขายให้กับร้านค้าในตลาดหลายร้าน เหลือเพียงโอสถระดับกลางไว้ใช้เองยี่สิบกว่าเม็ดเท่านั้น

และโอสถผลึกเย็นระดับสูงเหล่านั้น หลังจากหลิ่วหมิงคิดพิจารณาดูแล้ว ก็เก็บมันไว้ทั้งหมด

ไม่ว่าเขาจะรอบคอบระมัดระวังแค่ไหนก็ตาม แต่การที่มีโอสถผลึกเย็นปรากฏออกมาจำนวนมากเช่นนี้ ก็ก่อให้เกิดความฮือฮาขึ้นมาในตลาดขนาดใหญ่อย่างตลาดฉางหยางแห่งนี้

แม้ร้านค้าโอสถในในตลาดจะมีจำนวนมาก แต่สำหรับผู้ที่มีความตั้งใจแล้ว พวกเขาย่อมรู้แหล่งที่มา และจำนวนโอสถชนิดต่างๆ ในตลาดดี แม้ว่าจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นเล็กๆ น้อยๆ ก็ดึงดูดความสนใจของกลุ่มอิทธิพลจำนวนหนึ่งได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงโอสถผลึกเย็นจำนวนมากที่ไม่รู้ที่มาเหล่านี้

ตอนนี้ต่อให้ผู้ที่สมองทึ่ม ก็คงจะรู้ว่ามีผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถที่แท้จริงมาในตลาดแล้ว

โอสถผลึกเย็นเป็นโอสถเพิ่มพลังเวท ย่อมมีกลุ่มอิทธิพลจำนวนมากสนใจผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถผู้นี้ จึงได้เริ่มส่งคนตามสืบอย่างเงียบๆ

ช่วงพื้นที่เจริญรุ่งเรืองใกล้กับมุมตะวันออกเฉียงเหนือของตลาดฉางหยาง มีร้านค้าข้างถนนแห่งหนึ่งที่ทอดยาวติดต่อกันสิบกว่าจั้ง

การตกแต่งร้านภายนอกสวยหรูดูดีมีระดับ ประตูใหญ่สีแดง หน้าต่างดูสว่างไสว ประตูหน้าร้านมีป้ายไม้สีแดงขนาดใหญ่แขวนอยู่ บนนั้นเขียนว่า ‘เรือนโอสถเฮ่าหราน’

ที่นี่ก็คือร้านโอสถแห่งหนึ่งที่สำนักเฮ่าหรานเปิดไว้ในตลาดนั่นเอง เทียบกับหอร้อยหลอมของนิกายยอดบริสุทธิ์แล้ว เห็นได้ชัดว่ามีกำลังทรัพย์และอิทธิพลกว่ามาก

ห้องโถงแห่งหนึ่งภายในเรือนโอสถเฮ่าหราน ภายในมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเรือนหรือการตกแต่งด้านใน ล้วนมีกลิ่นอายโบราณ เหมือนกับว่ามีมานานแล้ว

ตรงที่นั่งใจกลางห้องโถง ชายวัยกลางคนที่สวมชุดบัณฑิตนั่งอยู่บนนั้น เขากำลังชื่นชมขวดหยกขาวที่มีลายสลักเป็นรูปบุปผาอยู่

หากหลิ่วหมิงอยู่ที่นี่ล่ะก็ จะต้องจำได้ว่าคนผู้นี้ก็คือบัณฑิตวัยกลางคนของสำนักเฮ่าหราน ที่เขาเคยพบในร้านค้าอสูรเมื่อหลายวันก่อน

และขณะนี้บัณฑิตหนุ่มผู้นั้นก็ยืนอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ นอกจากนี้แล้วยังมีผู้อาวุโสผมขาวกำลังรายงานอะไรบางอย่างกับบัณฑิตวัยกลางคนอย่างนอบน้อม

“เถ้าแก่สวี พูดเช่นนี้ก็หมายความว่า ตอนนั้นมีชายวัยกลางคนสวมคลุมสีเทามาขายโอสถผลึกเย็นนี้” บัณฑิตวัยกลางคนทำสีหน้าครุ่นคิด จากนั้นก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ใช่แล้ว เป็นเพราะว่าตอนนั้นข้าเป็นคนซื้อโอสถผลึกเย็นอันหายากนี้มากับมือ คนผู้นั้นเรียกร้องให้ค้าขายกันอย่างลับๆ ข้าน้อยจึงไม่อาจถามที่มาของโอสถนี้ได้ หลังทำการค้าเสร็จ คนผู้นั้นก็จากไปอย่างรวดเร็ว” ผู้อาวุโสผมขาวตอบอย่างนอบน้อม

“ชายวัยกลางคนผู้นั้นมีลักษณะพิเศษอย่างไรบ้าง?” บัณฑิตวัยกลางคนขมวดคิ้วขึ้นมา

“คนผู้นั้นมีอายุราวๆ สี่สิบกว่าปี รูปร่างหน้าตาดูธรรมดามาก การฝึกฝนก็แค่ระดับของเหลว หากไม่ได้ลงมือล่ะก็ ไม่อาจรับรู้ระดับการฝึกฝนที่ละเอียดกว่านี้ได้” เถ้าแก่สวีนึกอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวออกมา

พอเห็นว่าบัณฑิตวัยกลางคนยังคงไม่พูดอะไรออกมา เถ้าแก่สวีก็ดูเหมือนจะลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็เล่าต่อ

“แต่ข้าได้ยินมาว่า ช่วงนี้มีโอสถผลึกเย็นออกมาในตลาดเป็นจำนวนมาก ใช่คนลึกลับผู้นั้นเป็นคนปล่อยออกไปหรือไม่?” หญิงงดงามกล่าว

“เรียนฮูหยินวั่น คงจะเป็นเช่นนี้ โอสถผลึกเย็นที่ปรากฏออกมาในครั้งนี้ มีจำนวนมากกว่าเดิม และคนผู้นั้นยังมาขายที่ร้านของพวกเราจำนวนหนึ่งด้วย” ขณะที่พูด เถ้าแก่ชุดดำก็หยิบกล่องหยกออกมาสองใบ

“ในนั้นมีโอสถระดับสูงหรือไม่?” หญิงงดงามรับกล่องหยกมาใบหนึ่ง ในนั้นมีโอสถผลึกเย็นสิบเม็ด มันส่งกลิ่นหอมเข้มข้นออกมา

“อันนี้กลับไม่มี ล้วนเป็นโอสถระดับกลางทั้งหมด” เถ้าแก่ชุดดำหัวเราะอย่างขมขื่นและกล่าวออกมา

หญิงงดงามเผยสีหน้าผิดหวังออกมาทันที และหยิบโอสถผลึกเย็นมาดมหนึ่งเม็ด จากนั้นก็กล่าวต่อ

“โอสถเหล่านี้ก็มีความบริสุทธิ์ไม่เลว แตกต่างจากโอสถระดับของเหลวทั่วไปมาก ดูท่าผู้ที่ปรุงออกมา คงเป็นปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถที่แท้จริง”

“ฮูหยินวั่นกล่าวได้ถูกต้อง ครั้งนี้พวกเราซื้อโอสถผลึกเย็นมายี่สิบเม็ด ล้วนเป็นโอสถระดับกลางที่มีความบริสุทธิ์หกถึงเจ็ดส่วน ห่างจากโอสถระดับสูงไม่มากนัก” เถ้าแก่ชุดดำกล่าว

“ฝูหมิ่น ระหว่างที่เจ้าตอนรับคนลึกลับผู้นั้น เคยสอบถามเกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญท่านนั้นหรือไม่?” หญิงงดงามปิดกล่องหยก และลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนกล่าวออกมา

“คนผู้นั้นปิดปากแน่นมาก มาขายโอสถสองครั้งล้วนระมัดระวังเป็นอย่างดี เขาปิดปากเงียบไม่ยอมพูดถึงที่มาของโอสถ ข้าก็กลัวว่าจะทำให้คนผู้นี้ไม่พอใจ จึงไม่กล้าถาม” เถ้าแก่ชุดดำส่ายหน้ากล่าวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น

“อืม! เจ้าทำการได้รอบคอบดีมาก” หญิงงดงามพยักหน้า

“แต่ว่าโอสถผลึกเย็นเกี่ยวพันกับเรื่องใหญ่ในเผ่าเรื่องหนึ่ง ผู้อาวุโสฝูหลีกำชับเป็นพิเศษว่า หากคนผู้นี้มาในครั้งหน้า จะต้องถามให้ชัดเจนว่าในมือเขามีโอสถระดับพสุธาหรือไม่ หรือไม่ก็ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่เบื้องหลังผู้นั้น สามารถปรุงโอสถผลึกเย็นระดับพสุธาออกมาได้หรือไม่?

“หากคนผู้นั้นไม่ยอมพูด พวกเราบีบบังคับเขาจนเกินไป จะเป็นการล่วงเกินผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถผู้นั้นหรือไม่?” เถ้าแก่ชุดดำกล่าวด้วยความกังวล

“เรื่องนี้ไม่ต้องกังวลไป ข้ามาในครั้งนี้ได้พกผลผลึกเขียวพันปีมาด้วย เชื่อว่าคงจะระงับโทสะของผู้เชี่ยวชาญท่านนั้นได้” หญิงงดงามกล่าวด้วยความมั่นใจ

“รับทราบ! ข้าน้อยรู้แล้ว” เถ้าแก่ชุดดำกล่าวด้วยสีหน้าหนักแน่น

…………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา