“คนผู้นี้ได้ตกลงจะขายโอสถผลึกเย็นทั้งหมดให้กับร้านของเราแล้ว นี่คือวัตถุดิบที่เขาต้องการ เจ้าสั่งคนไปรวบรวมมาให้เขาเถอะ!” หญิงชุดดำหยิบแผ่นหยกยื่นให้เถ้าแก่ชุดดำ และสั่งอย่างราบเรียบ
“ยินดีด้วยฮูหยิน คนผู้นี้ช่วยเผ่าเราปรุงโอสถได้ ภายหน้าเผ่าเราก็ไม่ต้องกลุ้มใจเรื่องเพิ่มพูนพลังเวทในการทะลวงคอขวดระดับของเหลวอีก เรื่องที่ฮูหยินสั่ง ข้าจะไปทำเดี๋ยวนี้” เถ้าแก่ชุดดำรับแผ่นหยกและพูดอย่างนอบน้อม จากนั้นก็ถอยออกไปด้วยความดีใจ
หลังจากเถ้าแก่ชุดดำออกไปแล้ว หญิงชุดดำก็ยืนเงียบอยู่พักใหญ่ๆ จากนั้นก็กลายเป็นหมอกดำก่อนหายไป
……
หลิ่วหมิงซื้อวัตถุดิบเสริมจำนวนหนึ่งในตลาด จากนั้นก็กลับไปหอร้อยหลอม และกักตัวปรุงโอสถอีกครั้ง
ครึ่งเดือนต่อมา เมื่อเขาใช้ผลผลึกเขียวที่มีจนหมด ก็ปรุงโอสถผลึกเย็นออกมาได้เกือบเจ็ดสิบเม็ด สิ่งที่เป็นไปตามความคาดคิดของเขาก็คือ ในนั้นมีครึ่งหนึ่งที่เป็นโอสถระดับสูง แต่กลับไม่มีโอสถพสุธาที่มีลายโอสถห้าเส้นขึ้นไปเลย
หลิ่วหมิงนำโอสถทั้งหมดใส่ลงในกล่องสองสามใบ จากนั้นก็เอามือไขว้หลังเดินไปเดินมาในห้องลับโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ทุกๆ สองสามก้าวเขาจะหยุดลง และลูบคางไปมาราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ จากนั้นก็เดินไปอีกสองสามก้าว และหยุดลงครุ่นคิดต่อ
ผงวิญญาณบริสุทธิ์ที่เป็นวัสดุหลอมโล่เก้ากระโหลกก็ได้เตรียมพร้อมแล้ว พอที่จะพูดได้ว่าทุกอย่างพร้อมสรรพแล้ว เพียงแต่ขาดเงื่อนไขสำคัญสุดท้ายเท่านั้น
และอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดที่เข้าใกล้ต้นแบบอาวุธเวทนี้ เขาย่อมไม่ให้ผู้เชี่ยวชาญการหลอมอาวุธคนอื่นๆ ทำการหลอมอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันเรื่องยุ่งยาก ดูท่าตอนนี้เขาจะต้องลงมือหลอมชั้นจำกัดสุดท้ายนี้ด้วยตนเองแล้ว
หลังจากเขาครุ่นคิดไปรอบหนึ่งแล้ว ก็ตัดสินใจฝึกฝนวิธีการเพิ่มชั้นจำกัดอาวุธจิตวิญญาณ
เพราะวิธีการนี้มีบันทึกไว้ใน ‘คัมภีร์หลอมอัคคี’ อย่างละเอียด เขาเพียงแค่ฝึกฝนให้เคยชินเล็กน้อย ก็คงสามารถเรียนรู้ได้
เวลาในหลายวันต่อมา หลิ่วหมิงก็เริ่มยุ่งอยู่ในตลาดอีกครั้ง
นอกจากเขาจะไปขายโอสถผลึกเย็นจำนวนหนึ่งให้ร้านเผ่าค้างคาว เพื่อแลกกับหินจิตวิญญาณหลายแสนแล้ว ก็ซื้อคัมภีร์สองสามเล่มที่มีความเกี่ยวข้องกับต้นแบบอาวุธเวทมาจากร้านค้าอื่นๆ และซื้ออาวุธจิตวิญญาณระดับต่ำจำนวนหนึ่งมาอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นถึงกลับหอร้อยหลอมด้วยสีหน้าพอใจ
…….
ภายในห้องหลอมอาวุธที่อยู่ในเรือนด้านหลัง หลิ่วหมิงกำลังพูดคุยอะไรบางอย่างกับผู้เชี่ยวชาญการหลอมอาวุธทั้งสองอยู่
“ผู้เชี่ยวชาญหลี่ ผู้เชี่ยวชาญหัว ข้ามีอาวุธจิตวิญญาณระดับต่ำสองสามชิ้น แม้ว่าจะมีอานุภาพไม่มาก แต่จะให้ทิ้งไปเช่นนี้ก็รู้สึกเสียดายไม่น้อย ดังนั้นจึงอยากนำมาปรับแต่งสักหน่อย หวังว่าจะช่วยเพิ่มชั้นจำกัดได้สองสามชั้น รบกวนขอคำชี้แนะจากสหายทั้งสองด้วย” หลิ่วหมิงทำเหมือนกับสอบถามผู้เชี่ยวชาญการหลอมอาวุธทั้งสองอย่างไม่ใส่ใจ
“หากท่านทูตหลิ่วต้องการเพิ่มชั้นจำกัดสองสามชั้นให้กับอาวุธจิตวิญญาณระดับต่ำก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่รวบรวมวัสดุที่เป็นพื้นฐานในการหลอมอาวุธ กับวัสดุเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของอาวุธจิตวิญญาณ ก็สามารถปรับแต่งได้แล้ว แต่แน่นอนว่ากำลังไฟที่ได้ที่กับเวลาในการปรับแต่ง ก็ไม่ใช่สิ่งที่สามารถควบคุมได้โดยง่าย” ชายแซ่หัวที่มีรูปร่างผอมแห้ง และมีอายุราวๆ สามสิบกว่าปีเป็นคนกล่าวออกมา
“ถ้าอย่างนั้นหากเป็นอาวุธจิตวิญญาณระดับสูงหรือว่าระดับสุดยอดล่ะ ควรจะประทับชั้นจำกัดอย่างไร?” หลิ่วเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา และซักถามต่อ
“โดยพื้นฐานแล้ว การปรับแต่งชั้นจำกัดใหม่ให้กับอาวุธจิตวิญญาณระดับสูงและระดับสุดยอด ก็เหมือนกันกับอาวุธจิตวิญญาณระดับต่ำ คือต้องใช้วัสดุเสริมธาตุเดียวกันกับวัสดุเสริมบางอย่างในการปรับแต่ง ส่วนจะใช้วัสดุเสริมอะไรนั้นต้องดูสถานการณ์เอา คัมภีร์หลอมอาวุธทั่วไปต่างก็มีบันทึกเกี่ยวข้องที่สามารถค้นคว้าประกอบได้ การปรับแต่งอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดกับการเพิ่มจำนวนชั้นจำกัด ยังต้องใช้วัสดุมีชีวิตจำนวนหนึ่งที่พบเจอได้น้อยมาก แต่แม้ว่าจะรวบรวมวัสดุมาได้ครบ ความยากของมันก็ยังมากกว่าอาวุธจิตวิญญาณระดับต่ำหนึ่งเท่าขึ้นไป ข้าหลอมอาวุธมาสามสิบกว่าปี ก็ยังไม่อาจรับรองได้ว่าจะสามารถปรับแต่งได้สำเร็จในครั้งเดียว หากล้มเหลวยังอาจทำลายพลังของอาวุธจิตวิญญาณได้ อาวุธจิตวิญญาณทั่วไปจะกำหนดจำนวนชั้นจำกัดหลังจากการปรับแต่งเสร็จในครั้งแรก หากจะปรับแต่งใหม่ในภายหลังล้วนอันตรายเป็นอย่างมาก และชั้นจำกัดที่เพิ่มขึ้นมายิ่งมีมาก มันก็ยิ่งไม่อาจสำเร็จได้โดยง่าย” ชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างค่อนข้างบึกบึนกล่าวโดยไม่ต้องคิด
ชายหนุ่มแซ่หัวได้ยินก็พยักหน้าเห็นด้วย
“ขอบคุณผู้เชี่ยวชาญทั้งสองที่ช่วยชี้แนะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะยึดครองห้องหลอมอาวุธห้องหนึ่ง เพื่อลองดูก่อนแล้วกัน” หลิ่วหมิงได้ยินก็กล่าวออกมา
“ปกติจะเตรียมห้องหลอมอาวุธไว้ใช้สองห้องอยู่แล้ว ท่านทูตเลือกใช้ได้ตามสบายเลย” ชายแซ่หัวกล่าวออกมาด้วยสีหน้าประหลาดใจ
พอผู้เชี่ยวชาญหลี่ที่อยู่ด้านข้างได้ยิน ก็รู้สึกตกตะลึงโดยไม่รู้ตัว
เดิมทีพวกเขาคิดว่าท่านทูตหลิ่วผู้นี้จะให้พวกเขาช่วยเพิ่มชั้นจำกัดอาวุธจิตวิญญาณให้ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเขาจะหลอมด้วยตนเอง
หลิ่วหมิงพยักหน้า และเดินเข้าไปในห้องหลอมอาวุธอีกห้องโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง หลังจากปิดประตูลงแล้ว ก็สังเกตดูอุปกรณ์หลอมอาวุธที่อยู่ตรงหน้า
เนื่องจากก่อนหน้านั้นเขาอ่านคัมภีร์จำนวนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการหลอมอาวุธมา และเข้าใจขั้นตอนการเพิ่มขึ้นจำกัดอาวุธจิตวิญญาณตั้งแต่แรกแล้ว ส่วนวัสดุนั้น เขาก็ได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว
หลิ่วหมิงสูดหายใจเข้าลึกๆ ทันใดนั้นก็พลิกฝ่ามือข้างหนึ่งขึ้นมา จากนั้นแท่งเหล็กสีดำก็ปรากฏออกมา
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา