พอเขาปล่อยจิตสำรวจภายในยันต์เก็บของที่เปล่งแสงสีทองทั้งสองผืน ก็ต้องแสดงสีหน้าดีใจออกมา
ในยันต์เก็บของของชายหนุ่มชุดเขียวมีหินจิตวิญญาณระดับสูงอยู่สามร้อยกว่า และยังมีอาวุธจิตวิญญาณระดับสูงอยู่สองสามชิ้น
แม้ว่าอาวุธจิตวิญญาณเหล่านี้จะมีคุณสมบัติไม่เลว แต่ประจักษ์ชัดว่าต้องฝึกฝนพลังสายปีศาจถึงจะแสดงอานุภาพขีดสุดของมันออกมาได้ สำหรับหลิ่วหมิงในตอนนี้มันมีมูลค่าไม่มาก นอกจากหาตลาดที่ห่างไกลแลกหินจิตวิญญาณแล้ว หากนำอาวุธจิตวิญญาณระดับสูงเหล่านี้ไปลองประทับชั้นจำกัด ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว
นอกจากนี้ในถุงเก็บของยังมีขวดสีดำเล็กๆ ใบหนึ่ง ด้านในมีคัมภีร์ชำรุดหนึ่งเล่มกับเศษกระจกโบราณที่เปล่งแสงแวววาวชิ้นหนึ่ง
ภายในขวดเล็กสีดำ มีของเหลวสีดำมืดบรรจุอยู่ หลิ่วหมิงไม่รู้ว่ามันคืออะไร เพียงแต่รับรู้ถึงไอปีศาจลางๆ เท่านั้น แต่ว่ามันแตกต่างจากไอปีศาจแท้เล็กน้อย คิดว่าคงเป็นของที่ใช้สำหรับการฝึกฝนพลังปีศาจบางอย่าง
ส่วนเศษกระจกโบราณมีขนาดเท่ากับไข่ไก่เท่านั้น มีอักขระสีขาวแปลกประหลาดประทับอยู่ด้านบน และยังเปล่งแสงแวววาวออกมาตลอดเวลา ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่สิ่งของธรรมดา
แต่นอกจากหลิ่วหมิงจะค้นพบว่ามีกลิ่นไอลี้ลับอยู่บนนั้นลางๆ แล้ว ก็มองอะไรไม่ออกเลย หลังจากเก็บมันเข้าไปเสร็จ เขาก็หยิบคัมภีร์ที่มีสภาพชำรุดขึ้นมา
ไม่รู้ว่าคัมภีร์เล่มนี้มีอายุกี่ปีแล้ว ปกเริ่มเหลืองเล็กน้อย มุมบางแห่งหายไปหนึ่งชุ่นกว่าๆ และมีรอยฉีกขาดจากตรงกลาง เห็นชัดว่ามันมีแค่ครึ่งเล่มเท่านั้น
หลิ่วหมิงค่อยๆ เปิดดู แต่กลับค้นพบว่ามีแสงสีดำสลัวๆ เปล่งประกายอยู่ด้านใน อักขระสีม่วงดำจำนวนหนึ่งลอยขึ้นมา ดูเหมือนจะถูกวางชั้นจำกัดบางอย่างไว้
พอหลิ่วหมิงจ้องมองอย่างละเอียด กลับต้องรู้สึกประหลาดใจเมื่อค้นพบว่าอักขระแปลกประหลาดที่เปล่งประกายเหล่านี้ เหมือนกับอักขระที่ปรากฏบนบาทาปีศาจยักษ์โบราณในเจดีย์กักปีศาจของนิกายหยวนหมัวมาก และเขายังอ่านออกได้ในทันทีด้วย
ในขณะที่เขาคิดจะอ่านดูอย่างละเอียดด้วยความดีใจนั้น แสงสีดำพลันปะทะเข้ามา จากนั้นก็มีเสียงดังหวึ่งที่หูทั้งสอง เขารู้สึกวิงเวียนศีรษะจนเกือบจะล้มลงพื้น
หลิ่วหมิงรีบปิดคัมภีร์ในทันที หลังจากนั่งเข้าฌานไปได้ราวๆ ครึ่งถ้วยชาแล้ว ถึงค่อยๆ ตั้งสติขึ้นมาได้
ความคิดวกวนอยู่ในใจของเขาอย่างรวดเร็ว ประจักษ์ชัดว่าชั้นจำกัดบนคัมภีร์โบราณแปลกประหลาดเล่มนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่อย่างใด
หลิ่วหมิงวางมันไว้ด้านข้าง และหยิบยันต์เก็บของของชายฉกรรจ์ผู้นั้นขึ้นมา
สิ่งที่ชายฉกรรจ์ระดับผลึกผู้นี้ทิ้งไว้ กลับทำให้หลิ่วหมิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นอกจากจะมีหินจิตวิญญาณระดับสูงยี่สิบกว่าก้อนแล้ว ก็มีแต่อาวุธจิตวิญญาณระดับกลางหนึ่งชิ้น ซึ่งไม่สอดคล้องกับสถานะระดับผลึกของเขาเลย
นอกจากนี้ยังมีคัมภีร์สีดำเล่มหนึ่ง พอมองผ่านๆ กลับค้นพบว่ามันเป็นวิชาสายปีศาจ แต่ดูธรรมดามาก ดูเหมือนว่าจะฝึกฝนได้ตั้งแต่ระดับศิษย์จิตวิญญาณไปจนถึงระดับผลึกขั้นต้น
เขาส่ายศีรษะเล็กน้อย จากนั้นก็วางคัมภีร์เล่มนี้ไว้อีกด้านหนึ่ง……
ชั่วเวลาครึ่งถ้วยชาผ่านไป เมื่อหลิ่วหมิงนับจำนวนของที่ได้มาทั้งหมดแล้ว เขาก็ให้ความสนใจกับคัมภีร์ที่มีอักขระปีศาจโบราณปรากฏออกมา และคิดจะคลายชั้นจำกัดบนนั้น
วิธีการคลายชั้นจำกัดนี้มีหลายวิธีการ แต่หากไม่อาจคลายได้ถูกวิธี หรือฝืนใช้พลังพลังบีบบังคับล่ะก็ จะทำให้ชั้นจำกัดเกิดความเสียหายได้
สำหรับคัมภีร์ชำรุดเล่มนี้แล้ว หากหลิ่วหมิงปล่อยพลังเวทจำนวนมากเข้าไปโดยไม่สนใจผลลัพธ์ล่ะก็ มีโอกาสแปดถึงเก้าส่วนที่จะทำให้ชั้นจำกัดระเบิดออกมา แต่คัมภีร์เล่มนี้ก็จะถูกเผาไหม้จนหมด
หลังจากเขาคิดไตร่ตรองเล็กน้อยแล้ว ก็คิดจะใช้วิธีการบางอย่างที่ค่อนข้างปลอดภัยในการคลายชั้นจำกัดบนคัมภีร์เล่มนี้
หลิ่วหมิงวางคัมภีร์ไว้บนก้อนหินสีดำตรงหน้า และเปิดมันออกอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ทำท่ามือปล่อยพลังเวท ไอดำพุ่งออกจากระหว่างนิ้วของเขา หลังจากหมุนติ้วๆ รวมตัวกลางอากาศแล้ว ก็พุ่งเข้าหาคัมภีร์
แต่พอไอดำเหล่านี้สัมผัสกับชั้นจำกัดบนพื้นผิว ก็ถูกแสงสีดำดูดเข้าไปด้านในจนหายไปอย่างไร้ร่องรอย
หลิ่วหมิงถอนหายใจเล็กน้อย พอเปลี่ยนท่ามือ ปราณกระบี่ที่มีลักษณะเป็นเกลียวก็พุ่งออกจากปลายนิ้ว และถูกเขาควบคุมให้ค่อยๆ เข้าไปใกล้คัมภีร์ ดูเหมือนเขาคิดที่จะตัดแสงสีดำสลัวๆ ที่อยู่บนนั้นให้ขาดออกจากกัน
ครู่ต่อมา ได้เกิดฉากน่าประหลาดใจขึ้น
ปราณกระบี่รูปเกลียวยังไม่ทันได้สัมผัสชั้นจำกัดบนพื้นผิว ก็ถูกแสงสีดำดีดกระเด็นออกมา และพุ่งไปยังผนังด้านหนึ่งของห้องลับ
“ตู้ม!” รูขนาดใหญ่หนึ่งข้อนิ้วปรากฏบนผนังในทันที
เวลาผ่านไปราวๆ ครึ่งชั่วยาม หลังจากลองดูไปหลายวิธีแล้วแต่ยังไม่ได้ผล หลิ่วหมิงก็ขมวดคิ้วและเงียบขรึมลง
ดูท่าตอนนี้ เขาคงมีพลังไม่เพียงพอที่จะเปิดดูคัมภีร์เล่มนี้ จึงต้องเก็บมันเข้าไปในแหวนย่อส่วน เพื่อรอหลังเข้าสู่ระดับผลึกแล้ว ค่อยลองเปิดดูอีกครั้ง
……
ขณะเดียวกัน ท่ามกลางเทือกเขาสูงตระหง่านที่ไม่รู้ว่าอยู่ห่างจากตลาดฉางหยางกี่หมื่นลี้
เทือกเขาสีดำมืดทอดตัวยาวเป็นพันลี้ พายุเย็นสะท้านพัดอยู่ในหุบเขาตลอดเวลา ทำให้ฝุ่นทรายคละคลุ้งเต็มฟ้า
สถานที่แห่งนี้คือตำแหน่งของนิกายปีศาจลี้ลับที่เป็นหนึ่งในสี่ยอดนิกายใหญ่
ภายในถ้ำบนยอดเขาสีดำลูกหนึ่งที่สูงเสียดเมฆ ชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมสีเทาที่มีแขนข้างเดียว กำลังตัวสั่นอยู่หน้าประตูห้องลับแห่งหนึ่งที่ปิดสนิทอยู่
“เรียนปรมาจารย์อู๋กวง…… ในห้องหนังสือ… คัมภีร์อักขระปีศาจที่ปรมาจารย์นำกลับมาเมื่อสามร้อยปีก่อน หายไปแล้ว” ชายผู้นี้รายงานด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา