เจ็ดวันผ่านไป ในผืนป่าประหลาดสีดำแห่งหนึ่ง หลิ่วหมิงยืนอยู่นิ่งๆ ใต้ต้นไม้ยักษ์สูงสิบกว่าจั้งต้นหนึ่ง สายตาหรี่มองไปยังปีศาจขนเขียวสามตนที่ดูคล้ายกับลิง
ปีศาจทั้งสามตน มีขนาดใหญ่ตนหนึ่ง ขนาดเล็กสองตน ตนที่มีขนาดเล็กทั้งสองนั้นสูงฉื่อกว่าๆขนเขียวบนร่างกายเป็นสีเขียวอ่อน และตนที่ใหญ่สุดนั้นสูงสี่ฉื่อ มีขนสีเขียวดำปกคลุมไปทั่วทั้งตัว แม้แต่บนหัวก็ยังมีเขาสีเขียวสั้นๆ ติดอยู่หนึ่งอัน มันแยกเขี้ยวขู่หลิ่วหมิงอยู่ไม่หยุด
มันคือปีศาจระดับต่ำชนิดหนึ่งในแดนปีศาจปรโลกที่เรียกว่า ‘วานรเขาเน่า’
วานรเขาเน่าที่โตเต็มที่จะเคลื่อนไหวรวดเร็วฉับไว มีพลังเยอะมาก ทั้งยังพ่นลมเน่าเหม็นได้ เพียงแค่เพิ่มการบ่มเพาะเล็กน้อยก็จะยิ่งมีพลังปีศาจระดับสมุยรับใช้ นับว่าเป็นตนเลือกที่ไม่เลวสำหรับใช้เป็นปีศาจสื่อสารจิตวิญญาณ
หลิ่วหมิงกระตุกแขนเสื้อ โซ่ตรวนวิญญาณตวัดออกไปยังวานรเขาเน่าราวกับอสรพิษ
หลังเสียงร้องแปลกประหลาด วานรเขาเน่าตัวเล็กสองตนก็กระโดดหนีไปยังต้นไม้ต้นอื่นทันที เหลือแค่ตัวใหญ่สุดตนนั้นมันฉายแววความดุร้ายออกมา และหลังจากที่หลบหลีกโซ่ตรวนวิญญาณได้แล้ว ก็กางแขนออกกลายเป็นเงาร่างสีเขียวพุ่งลงจากต้นไม้แล้วกระโจนเข้าใส่เขา
เล็บสีดำแหลมคมทั้งสิบของมัน กระโจนเข้ามายังไม่ถึงด้านหน้าของหลิ่วหมิง ลมเน่าเหม็นจากปากของมันก็พุ่งออกมาก่อน
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็ไม่หลบหลีกแต่อย่างใดแต่กลับร่ายคาถาขึ้นทันที แล้วยกแขนขึ้น ลูกเปลวไฟสีแดงลูกหนึ่งพุ่งยิงออกไป
ด้วยความร้อนจากลูกเปลวไฟ พริบตาเดียวก็กวาดล้างลมเหม็นเน่าออกไปจนหมดสิ้น สร้างความหวาดกลัวให้กับวานรเขาเน่าที่กำลังกระโจนเข้ามาเป็นอย่างมาก หลังเสียงร้องแปลกประหลาด หางยาวหลายฉื่อของมันก็ส่ายไปมาโดยฉับพลันเพื่อหลบหลีกลูกเปลวไฟ
แต่ตอนนี้โซ่ดำกลับม้วนตนกลับมาอย่างไร้ซุ่มเสียง และมัดมันไว้อย่างแน่นหนาโดยที่ไม่ทันได้ป้องกันตนเลย
เสียงดัง “ตุ๊บ!”
วานรเขาเน่าตนนี้กระแทกตกลงมาด้านหน้าหลิ่วหมิงอย่างรุนแรง และไม่สามารถขยับตัวได้ โซ่ตรวนวิญญาณที่บีบแน่นค่อยๆ กัดเซาะจนทำให้หนังของมันมีควันสีเขียวออกมา มันส่งเสียงร้องแปลกประหลาดแสดงความเจ็บปวดจนยากที่จะทนได้
หลิ่วหมิงไม่พูดอะไรยกเท้าขึ้นไปแตะบนหัวของมัน
เสียงดัง “ตุบ!”
วานรเขาเน่าถูกพลังมหาศาลกดไว้ทำให้หัวของมันจมลงในดินครึ่งหนึ่ง และตาเหลือกสลบไปทันที
หลิ่วหมิงถอนหายใจเบาๆ ก้มลงไปจับวานรเขาเน่าขึ้นมาพาดไว้บนบ่าแล้วเริ่มทำท่าแสดงวิชา
ครู่เดียวเมฆเทาก้อนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นใต้เท้าเขา หลังจากกระตุ้นมันแล้วก็เหาะออกไปจากป่าไปยังทิศทางที่ไกลออกไป
หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม หลิ่วหมิงมาปรากฏตรงโพรงดินที่อยู่ห่างจากป่าสีดำค่อนข้างไกล เขาโยนวานรเขาเน่าบนบ่าลงไปที่พื้น
ทางเข้าโพรงดินนี้ถูกสร้างไว้ใต้หินยักษ์ก้อนหนึ่ง นับว่าปกปิดได้เป็นอย่างดี และข้างในก็มีขนาดไม่กี่จั้ง
ตอนที่หลิ่วหมิงค้นพบนั้นข้างในล้วนว่างเปล่า ไม่รู้ว่าปีศาจชนิดใดมาสร้างไว้แล้วทำไมถึงไม่ใช้มันแล้ว
ตั้งแต่วันแรกที่เจอวานรเขาเน่า เขาก็หาสถานที่อำพรางเช่นนี้ก่อนแล้ววันนี้ถึงได้ลงมือกับมัน
หลิ่วหมิงดูวานรเขาเน่าบนพื้น แล้วมั่นใจว่ามันยังสลบอยู่ ก็หยิบน้ำเต้าสีดำขลับออกมาจากแขนเสื้อ ดึงจุกออกแล้วเทลงบนพื้น ผงสีเหลืองอ่อนไหลออกมา
เขาแค่ถือน้ำเต้าเดินวนรอบวานรเขาเน่าหนึ่งรอบ พื้นที่บริเวณนั้นก็เกิดเป็นวงกลมสีเหลืองขึ้นมา เขาก้าวยาวเข้าไปในวงกลม นั่งขัดสมาธิหลับตาทั้งสองข้างลงแล้วกำหนดลมหายใจอย่างเงียบๆ
ผ่านไปชั่วครู่ หลิ่วหมิงลืมตาท้ังสองขึ้นอีกครั้ง มือทั้งคู่เริ่มทำท่ามือร่ายคาถา
ไอสีดำม้วนตัวออกมาจากตนของเขา และดูเหมือนจะยิ่งออกมามากขึ้นเรื่อยๆ
ในขณะเดียวกัน ก็เริ่มมีอักขระจิตวิญญาณสีเทาอ่อนปรากฏขึ้นมาบนแก้มกับเนื้อตนที่ไม่มีอะไรปกปิดอย่างต้นคอ แขน เป็นต้น และแผ่ขยายไปทั่วทุกซอกมุมของร่างกาย
เสียงดัง “ฟู่!”
หลิ่วหมิงขยับแขน มือข้างหนึ่งยกวานรเขาเน่ามาไว้ด้านหน้าใกล้ๆ อีกข้างหนึ่งกลับใช้นิ้วทั้งห้ากดลงบนกระโหลกศีรษะของมัน
เขาร่ายคาถาขึ้นมา ไอดำบนร่างโหมกระพือเป็นเส้นๆ ราวกับงวงสัมผัสของสัตว์ อักขระจิตวิญญาณสีเทาบนตนของเขายิ่งเปล่งแสงพรั่งพรูออกมาจากกายเขาแล้วจมหายเข้าไปในหัวของวานรเขาเน่า
วานรเขาเน่าที่เดิมทีนอนนิ่งสงบอยู่ ฟื้นตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ และเริ่มดิ้นสลัดตัวด้วยแววตาทั้งสองที่แดงฉาน
แต่มือทั้งสองของหลิ่วหมิงจับแน่นราวกับเหล็กไม่ยอมปล่อย และอักขระบนร่างเขาก็พรั่งพรูไปยังหัวของวานรเขาเน่าเร็วขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากนั้นชั่วครู่ วานรเขาเน่าก็เริ่มพ่นน้ำลายสีเขียวออกมา และดิ้นอ่อนแรงลงกว่าเดิม
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ ก็แสดงสีหน้าดีใจราถาที่ร่ายก็ยิ่งดังกระชั้นชิดขึ้น
แต่ครู่ต่อมา หัวทั้งสองด้านของมันก็มีเส้นเลือดสีดำปูดออกมาเป็นจำนวนมาก หลังจากที่มันพองตัวก็ระเบิดออกมาด้วยเสียงอันดัง
ของเหลวสีเขียวกระจายไปทั่วทิศในทันที
หลิ่วหมิงรู้สึกตกใจมาก ไอดำบนร่างกระพือฮือโหมขึ้นอย่างฉับพลัน ไอดำบังสิ่งของที่พุ่งเข้ามาหาเขาได้ทันท่วงที
แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ ก็ยังคงมีไอดำส่วนหนึ่งขับออกมาจากร่างไร้หัวของวานรเขาเน่า และมันหมุนติ้วๆ แล้วก็ลอยหนีออกไปยังปากโพรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา