ครู่ต่อมา ได้เกิดฉากแปลกประหลาดขึ้น!
ร่างหลิ่วหมิงบิดเบี้ยวแปลกประหลาดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หายวับผ่านเงากระบี่จำนวนมากโดยไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย
“นี่คือวิชาอะไร?”
ซาทงเทียนเห็นเช่นนี้ย่อมรู้สึกประหลาดใจมาก เขาไม่อาจวินิจฉัยสถานการณ์ตรงหน้าได้ชั่วขณะ เขาพอตัดสินใจทำท่ามือด้วยมือทั้งสองอีกครั้ง เงากระบี่จำนวนมากที่อยู่ไม่ไกลก็ดับลง จากนั้นก็กลายเป็นสายรุ้งสีเขียวหมุนวนพุ่งเข้าหาหลิ่วหมิงอีกครั้ง
หลิ่วหมิงกระแทกเท้าข้างหนึ่งลงพื้นทันที มีแสงสลัวๆ บนตัว จากนั้นร่างของเขาก็กลายเป็นเงาร่างจางๆ พุ่งเข้าหาซาทงเทียน
ซาทงเทียนหัวเราะอย่างเยือกเย็น พอพลิกมือข้างหนึ่ง กระบี่สีดำแวววาวก็ปรากฏบนมือ ทันใดนั้นแสงกระบี่สีขาวโพลนก็ม้วนตัวไปรับมือกับหลิ่วหมิง
“ฟู่!”
เงาที่หลิ่วหมิงกลายร่างมา ยืดยาวราวกับสายยาง จากนั้นก็บิดตัวอย่างแปลกประหลาดไม่กี่ที ก็ปลิวสะบัดผ่านแสงกระบี่อันครั่นคร้ามไป
ซาทงเทียนรู้สึกใจเย็นสะท้าน ขณะที่คิดจะกระตุ้นกระบี่สีดำในมือนั้น ภาพตรงหน้าก็พร่ามัว หลิ่วหมิงที่เดิมทีอยู่ห่างออกไปเจ็ดแปดจั้ง กลับพร่ามัวกระโจนมาตรงหน้าเขา
ซาทงเทียนตกใจจนหน้าถอดสี และรีบพุ่งถอยออกไปสิบกว่าจั้งในทันที จากนั้นถึงหมุนตัวหนึ่งรอบแล้วร่อนลงบนแท่นประลอง
และแสงสีดำสลัวๆ บนตัวหลิ่วหมิงกลับสลายไป เขายืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อน เพียงแค่จ้องมองฝ่ายตรงข้ามด้วยรอยยิ้มที่ดูไม่เหมือนกับยิ้ม
แม้ว่าซาทงเทียนจะเป็นผู้มีใจลุ่มลึกมาโดยตลอด แต่พอเห็นฉากเช่นนี้ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จากนั้นก็ยกมือเก็บกระบี่อีกเล่มกลับมา และกล่าวอย่างเยือกเย็น
“ข้ายอมแพ้!”
จากนั้นก็กระโดดลงจากแท่นประลอง
หลังจากซาทงเทียนเห็นท่าร่างของหลิ่วหมิงที่แปลกประหลาดยิ่งกว่าเดิม ก็รู้ว่าตนเองไม่มีโอกาสชนะมากนัก จึงยอมแพ้แต่โดยดี
ฉากที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ ทำให้ศิษย์ที่ชมการประลองอยู่รอบด้านหยุดการตอบสนองไปชั่วขณะ พอได้ยินซาทงเทียนบอกว่ายอมแพ้ ถึงกับพากันฮือฮาขึ้นมา
ขณะเดียวกันนี้ แม้ว่าศิษย์ระดับผลึกสองคนที่ตามซาทงเทียนมา จะไม่แสดงสีหน้าใดๆ ออกมา แต่หลังจากมองหน้ากันแล้ว ต่างก็เห็นความตกใจในแววตาของอีกฝ่าย
เหลียงจ้านเกอที่อยู่บนแท่นประลองกลับพยักหน้า และประกาศผลออกมา
และซาทงเทียนก็ขี่เมฆทะยานฟ้าไปกับพรรคพวกทั้งสองโดยไม่พูดอะไรออกมา
แม้ว่าสีหน้าหลิ่วหมิงจะไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย แต่ในใจกลับรู้สึกว่าเคล็ดวิชาเงาสามส่วนนี้ใช้ได้ผลเป็นอย่างมาก แค่ขั้นแรกก็มหัศจรรย์ถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าถ้าฝึกขั้นที่สองสำเร็จ และสร้างเงาร่างแปลกปลอมขึ้นมาจะมีผลลัพธ์มหัศจรรย์ถึงเพียงใด
เขาคิดเช่นนี้อยู่ในใจ หลังจากโค้งคารวะเหลียงจ้านเกอแล้ว ก็ล่องลอยจากไปเช่นกัน
ไม่นาน เรื่องที่หลิ่วหมิงเงียบหายไปสองปีจากงานประลองใหญ่ของศิษย์สายนอก และเอาชนะซาทงเทียนที่เป็นศิษย์สายในได้ ก็ถูกเผยแพร่ในบรรดาศิษย์นิกายยอดบริสุทธิ์ สิ่งนี้ย่อมทำให้เกิดความฮือฮาขึ้นมาอีกครั้ง
แต่หลิ่วหมิงกลับไม่สนใจเรื่องเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย หลังกลับไปถึงถ้ำที่พักก็เข้าไปกักตัวฝึกฝนในห้องลับ
เมื่อกาลเวลาค่อยๆ ล่วงเลยผ่านไป หลิ่วหมิงก็อยู่ที่นิกายสายนอกมานานหลายปีแล้ว
ในระหว่างเวลานี้ นอกจากเขาจะไปตลาดแล้ว ก็ดูเหมือนจะไม่ออกจากถ้ำที่พักเลย และย่อมไม่ได้ปรากฏตัวต่อหน้าศิษย์สายนอกคนอื่นๆ การประลองเล็กในสาขาก็ไม่ได้เข้าร่วม
นอกจากจะปรุงโอสถ ทานโอสถ และฝึกฝนเคล็ดวิชาแล้ว เขายังเข้าไปฝึกฝนในแดนมายาทุกวันด้วย
หลังผ่านการฝึกฝนใช้เคล็ดวิชาเงาร่างสามส่วนขั้นที่หนึ่งจนชำนาญ เมื่อหลิ่วหมิงที่กลายร่างเป็นปีศาจเผชิญกับราชาปีศาจสมุทรระดับแก่นแท้ ก็มีโอกาสชนะมากขึ้นกว่าก่อนหน้านั้นเล็กน้อย
เมื่อกาลเวลาเคลื่อนย้ายผ่านไป หลิ่วหมิงก็ค่อยๆ จางหายไปจากสายตาของบรรดาศิษย์นิกายยอดบริสุทธิ์ ทิ้งไว้เพียงข่าวลือที่เกี่ยวข้องกับเขาเท่านั้น
เพราะนิกายยอดบริสุทธิ์ที่สืบทอดมาไม่รู้กี่หมื่นปีมานี้ จุดสนใจของผู้คนถูกเคลื่อนย้ายได้ง่ายมาก
ห้าปีต่อมา
ยอดเขาสูงใหญ่นับร้อยนับพันที่อยู่ท่ามกลางเทือกเขาหมื่นวิญญาณที่มีเมฆหมอกรายล้อม ยังคงตั้งตระหง่านอย่างสงบเหมือนกับนับพันนับหมื่นปีที่ผ่านพ้นไป
มีแสงแปลกประหลาดพุ่งออกจากยอดเขาแต่ละแห่ง และพุ่งไปยังยอกเขาอีกแห่งอยู่ไม่ขาด ทิ้งร่องรอยจางๆ ไว้บนอากาศ
สถานที่บางแห่งด้านหลังยอดเขาเลื่อนลอยที่สูงเสียดเมฆ ริมลำธารใสสะอาดที่เห็นฝูงมัจฉาแหวกว่ายไปมา มีหอประณีตงดงามที่สร้างขึ้นติดภูเขาอยู่หลังหนึ่ง
ดูเหมือนว่าด้านนอกของหอแห่งนี้ จะปกคลุมไปด้วยชั้นจำกัดม่านแสงที่ดูคล้ายกับคลื่นวารีสีฟ้า
ภายในหอ แสงสีม่วงเข้มกำลังขยายและหดตัวเป็นจังหวะอย่างต่อเนื่อง พอมันสัมผัสกับชั้นจำกัดรอบด้านเล็กน้อย ก็กระตุ้นให้เกิดระลอกคลื่นสีฟ้าอยู่พักหนึ่ง
ไม่นาน ขณะที่เกิดเสียงสั่นสะเทือนของหุบเขาอย่างชัดเจน ลำแสงสีม่วงขนาดใหญ่ก็พุ่งออกจากหอ และทะลุออกจากม่านแสงสีฟ้าที่อยู่ด้านบน จากนั้นก็หายไปบนท้องฟ้า ลำแสงนี้มีแสงสีม่วงหมุนวนเป็นเกลียวราวกับเมฆที่มีแสงเรืองรอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา