ผู้ฝึกฝนที่มีพลังค่อนข้างแข็งแกร่งจำนวนหนึ่งพากันเปิดม่านแสงกับลูกน้อง และบุกเข้าไปด้านใน
ในบรรดาผู้ฝึกฝนเหล่านี้ บ้างก็เป็นผู้ฝึกฝนสายปีศาจที่บุกเข้าซากวัตถุโบราณเพื่อดูดซับไอปีศาจ บ้างก็มาเพื่อสมบัติที่ถูกทิ้งอยู่ในซากวัตถุโบราณ และก็มีจำนวนหนึ่งที่ตั้งใจมาฆ่าคนเพื่อชิงสิ่งของ
ชั่วขณะนั้น ด้านนอกซากวัตถุโบราณของเผ่าปีศาจก็เกิดความวุ่นวายขึ้นมา มีการต่อสู้กันอยู่ไม่หยุด
หลิ่วหมิงไม่รู้สึกแปลกใจกับภาพตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย หลังจากสังเกตดูเล็กน้อยแล้ว ก็เตรียมจะไปหาจุดที่ไม่มีคนเพื่อเปิดชั้นจำกัด และจะได้ดูดซับไอปีศาจ
แต่ทว่าในขณะนั้นเอง พลันมีเสียงหลัวโหวดังขึ้นข้างหู
“ไอปีศาจที่อยู่บริเวณรอบๆ เหล่านี้ เป็นแค่ไอปีศาจธรรมดาเท่านั้น ไม่มีไอปีศาจแท้แต่อย่างใด เจ้าก็ไม่ได้ฝึกฝนพลังปีศาจ ดูดซับไปก็ไม่มีประโยชน์ ไอปีศาจแท้คงจะถูกผนึกอยู่ในส่วนลึกของซากโบราณ ข้ารับรู้ได้อย่างลางๆ เจ้าเข้าไปใจกลางด้านในก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
“ได้! ในเมื่อผู้อาวุโสกล่าวเช่นนี้ จะต้องไม่ผิดพลาดอย่างแน่นอน” หลิ่วหมิงครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว หลังจากตอบกลับด้วยจิตไปหนึ่งประโยคแล้วก็สะบัดแขนเสื้อ และกระบี่เล็กสีเขียวก็ลอยอยู่ตรงหน้าในทันที
“กระบี่ร่างเป็นหนึ่ง!”
พอเขาตะโกนเสียงต่ำออกมา กระบี่เล็กสีเขียวก็เปล่งแสงในทันที แสงกระบี่แต่ละลำม้วนร่างเขาไว้ และกลายเป็นสายรุ้งยาวอันน่าตกใจฟันเข้าใส่ม่านแสงแวววาวตรงหน้า
“ตู๊ม!”
ภายใต้การโจมตีด้วยพลังทั้งหมดของสายรุ้งสีเขียว ม่านแสงแวววาวก็แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ
หลิ่วหมิงขี่แสงกระบี่ตรงดิ่งเข้าไปด้านในภายใต้การเปล่งประกายของแสงสีเขียว
ขณะที่หลิ่วหมิงเข้าไปในซากโบราณได้ไม่นาน แสงหลบหลีกสีดำก็มาปรากฏตัวในตำแหน่งที่หลิ่วหมิงเคยอยู่ เผยให้เห็นร่างของหญิงงดงามที่สวมชุดกระโปรงสีดำ ซึ่งก็คือเซียนหงส์ดำนั่นเอง
นางจ้องมองรอยโหว่ของชั้นจำกัดที่หลิ่วหมิงใช้วิชากระบี่ร่างเป็นหนึ่งทะลวงเข้าไป และเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็กลายร่างเป็นแสงหลบหลีกสีดำพุ่งเข้าไปด้านใน
……
อีกด้านหนึ่งที่อยู่นอกม่านแสง ภายในระยะไม่กี่สิบจั้ง จะมองเห็นศพนอนอยู่บนพื้นหนึ่งถึงสองศพเป็นระยะๆ
ศพเหล่านี้ต่างก็มีใบหน้าซีดขาว ไร้ซึ่งโลหิตและลมปราณใดๆ ร่างกายเหี่ยวเฉาราวกับถูกบีบจนแห้ง
“ฟิ้ว!” มีศพแห้งเหี่ยวถูกโยนออกจากกลุ่มหมอกโลหิตที่อยู่ไม่ไกล
“คุณชาย ผู้ฝึกฝนในสถานที่แห่งนี้ถูกกำจัดไปพอประมาณแล้ว” พอมีเงาดำเปล่งประกาย ชายชุดดำที่หน้าเหมือนโจรก็ปรากฏตัวบริเวณหมอกโลหิต และรายงานอย่างนอบน้อม
“สิ่งที่ปะปนอยู่ในร่างของผู้ฝึกฝนสายปีศาจเหล่านี้ ล้วนเป็นไอปีศาจขุ่นๆ ไม่ค่อยมีประโยชน์มากนัก” หลังจากทะเลโลหิตพวยพุ่งอย่างรุนแรงอยู่ครู่หนึ่ง มันก็ถูกเก็บไป เผยให้เห็นชายหนุ่มรูปงามที่สวมชุดสีแดง ซึ่งก็คือราชาโลหิตนั่นเอง
เขาใช้พลังสายโลหิตสูบโลหิตบริสุทธิ์ของผู้ฝึกฝนสายปีศาจสิบกว่าคน จากนั้นใบหน้าซีดขาวของเขาก็ดูมีเลือดฝาดขึ้นมา
“พวกเจ้าสองสามคนรออยู่ด้านนอกสักครึ่งชั่วยาม ดูว่ามีปลาหลุดออกจากแหหรือไม่ ที่เหลือตามข้าเข้าไปในซากโบราณ” ราชาโลหิตกวาดสายตามองซากโบราณอย่างลึกซึ้งทีหนึ่ง และแลบลิ้นเลียริมฝีปากล่างก่อนสั่งออกมา
จากนั้นแสงสีเลือดก็เปล่งประกายบนตัวราชาโลหิต และกลายเป็นแสงสีแดงแวววาว “ฟู่!” ม่านแสงตรงหน้าเปิดออกมา ภายใต้แสงที่เปล่งประกาย เขาก็เข้าไปในซากโบราณอย่างรวดเร็ว
ขณะที่มีเสียงดังตรงด้านหลังของเขา ชายชุดดำหลายคนที่ถูกเขาดึงเป็นพวก ก็ค่อยๆ พากันตามเข้าไป
……
หลิ่วหมิงพุ่งไปมาในซากโบราณอย่างรวดเร็วโดยไม่หยุดพักเลยแม้แต่น้อย
พอเขาเข้าไปด้านในซากโบราณ ก็พุ่งไปยังใจกลางโดยไม่คิดจะหยุดพัก ชั้นจำกัดขัดขวางที่พบเจอกับระหว่างทาง ถูกเขาใช้กระบี่ทำลายเพื่อจะได้ประหยัดเวลา
ขณะนี้ เขาเข้าไปในซากโบราณเป็นเวลาหนึ่งมื้อข้าวแล้ว
“ระวังด้านหน้า!”
ขณะที่เขาทะลุผ่านวังเล็กๆ หลังหนึ่ง จนมาถึงระเบียงทางเดินอันเปล่าเปลี่ยวนั้น พลันมีเสียงหลัวโหวเตือนเข้ามาในหู
เมฆใต้เท้าหลิ่วหมิงหยุดชะงักทันที และเขาก็เขม้นตาจ้องมองไปด้านหน้า
ที่นั่นมีค่ายกลแปลกประหลาดที่มีสภาพไม่สมบูรณ์ประทับอยู่หลังหนึ่ง
ใจกลางค่ายกล มีแค่อักขระปีศาจสีม่วงแปลกประหลาดตัวหนึ่งเท่านั้น รอบด้านของมันเป็นลวดลายจิตวิญญาณสีเทาจางๆ จำนวนหนึ่ง หากไม่หาอย่างละเอียด ก็ไม่อาจค้นพบตำแหน่งของค่ายกลนี้ได้
“นี่คือ……” หลิ่วหมิงถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“นี่คือหนึ่งในค่ายกลปิดผนึกที่เผ่าปีศาจบรรพกาลทิ้งไว้ แม้จะบอกว่ามันชำรุดไปมาก แต่สามารถจัดการกับผู้ฝึกฝนระดับของเหลวอย่างเจ้าได้เหลือเฟือ ต่อให้พลังของเจ้าจะแข็งแกร่งว่าผู้ฝึกฝนระดับเดียวกันไม่น้อย แต่หากถูกขังอยู่ในค่ายกลนี้ และมีเวลาไม่ถึงสองชั่วยามล่ะก็ ไม่อาจทำลายค่ากลเพื่อออกมาได้” หลัวโหวอธิบายอย่างราบเรียบ ประจักษ์ชัดว่าเมื่อเผชิญกับแรงกดดันในการทำลายผนึกของกรงขัง เขาก็ไม่ลังเลที่จะชี้แนะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา