“อ้อ! สินค้าแบบใดก็มีหมดหรือ ถ้าอย่างนั้นมีต้นแบบอาวุธเวทขายหรือไม่?” พอได้ยินคำพูดที่ดูใหญ่โตเช่นนี้ หลิ่วหมิงก็ถามด้วยสีหน้าปกติ
“ผู้อาวุโสโปรดอภัย ข้าน้อยปากพล่อยไปหน่อย อาวุธระดับนี้ร้านเราไม่มี” พนักงานชุดเขียวได้ยินก็รู้สึกอึ้งไปทันที จากนั้นถึงกล่าวด้วยสีหน้าเศร้า
“ไม่เป็นไร! เรียกเถ้าแก่ของพวกเจ้าออกมา ข้ามีเรื่องอยากคุยต่อหน้าเขา” หลิ่วหมิงยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวออกมา
“เชิญสหายตามข้าไปรอที่ห้องรับรองชั้นสอง ” พอพนักงานชุดเขียวเห็นว่าหลิ่วหมิงไม่ได้พูดเล่น จึงรีบกล่าวออกมา
ขณะที่พูด พนักงานขุดเขียวก็พาหลิ่วหมิงเดินไปบนชั้นสอง และเข้าไปในห้องเดี่ยวที่ตกแต่งอย่างหรูหราห้องหนึ่ง หลังจากยกชาจิตวิญญาณให้หนึ่งแก้วแล้ว ก็ขอตัวไปเชิญเถ้าแก่
พอหลิ่วหมิงยกแก้วขึ้นมาจิบหนึ่งคำ ก็รู้สึกว่าชามีรสชาติบางและหวานเล็กน้อย นับว่าเป็นชาที่มีคุณภาพไม่เลว
ไม่นาน ชายใบหน้าสี่เหลี่ยมที่มีจอนผมเป็นสีขาวเล็กน้อย ก็ผลักประตูเข้ามาเบาๆ พอเห็นหลิ่วหมิง สีหน้าของเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปในทันที จากนั้นก็กุมมือคารวะก่อนกล่าวออกมา
“ข้าน้อยคือจินหยวน เป็นเถ้าแก่ของร้านนี้ สหายมาเยี่ยมเยียนร้านเรา นับว่าเป็นเกียรติแก่ร้านเรายิ่งนัก ร้านเรายินดีต้อนรับจริงๆ”
“สหายจินไม่ต้องเกรงใจเช่นนี้ ข้าน้อยเย่หมิง” หลิ่วหมิงได้ยินคำพูดเยินยอเช่นนี้ ก็รู้สึกอึ้งเล็กน้อย แต่ก็ลุกขึ้นมาคารวะกลับ และบอกชื่อปลอมที่เคยใช้ออกไป
เห็นได้ชัดว่าชายหน้าสี่เหลี่ยมผู้นี้ก็เป็นผู้ฝึกฝนระดับของเหลวเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าเพิ่งจะเข้าสู่ขั้นต้นได้ไม่นาน
“เชิญสหายเย่นั่ง” ชายหน้าสี่เหลี่ยมรีบเชิญหลิ่วหมิงนั่งลง จากนั้นตนเองก็ไปนั่งฝั่งตรงข้าม
“ได้ยินพนักงานที่อยู่ด้านล่างบอกว่าสหายมีเรื่องสำคัญอยากคุยกับข้า มิทราบว่ามีเรื่องอันใดให้ข้าน้อยรับใช้หรือ?” ดูท่าชายหน้าสี่เหลี่ยมก็เป็นผู้ที่มีความเฉียบขาดเช่นกัน จึงเอ่ยปากถามออกมาตามตรง
“อ๋อ! ที่จริงก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแต่ว่าบนตัวข้ามีสิ่งของบางอย่างที่ไม่ได้ใช้ คิดจะหาที่ขายออกไปก็เท่านั้นเอง” พอหลิ่วหมิงโบกมือ กล่องไม้ห้าใบก็ร่วงลงบนโต๊ะตรงหน้าทั้งสอง
“ขายสิ่งของ?” ชายหน้าสี่เหลี่ยมรู้สึกตกตะลึง จากนั้นก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว
ร้านขายอาวุธจิตวิญญาณอย่างหอวารีกระจ่างนี้ ไม่เพียงแต่ขายของเท่านั้น ขณะเดียวกันยังรับซื้อสิ่งของชนิดต่างๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาวุธจิตวิญญาณ หินแร่ โอสถ ล้วนรับซื้อทั้งหมด
ชายหน้าสี่เหลี่ยมรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เรื่องการรับซื้อของ ล้วนเป็นเรื่องที่ผู้ดูแลร้านสองสามคนที่อยู่ด้านล่างจัดการ นอกเสียจากว่าจะเป็นสิ่งของที่มีมูลค่าสูงเท่านั้น เขาถึงค่อยออกโรงเอง
แต่พอหลิ่วหมิงสะบัดแขนเสื้อเบาๆ เพื่อเปิดกล่องไม้บนโต๊ะ เขาก็มองเห็นสิ่งของในนั้นอย่างชัดเจน จากนั้นสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปทันที และลุกขึ้นมาในฉับพลัน
สิ่งที่วางอยู่ภายในกล่องไม้ สามชิ้นในนั้นเป็นอาวุธจิตวิญญาณ และยังมีขวดหยกขาวอีกสองใบ
ชายหน้าสี่เหลี่ยมจ้องมองธงสีเลือดขนาดใหญ่ด้วยแววตาเร่าร้อน
หลิ่วหมิงยิ้มเล็กน้อย และยกชาขึ้นมาจิบหนึ่งที สิ่งของเหล่านี้เป็นสิ่งที่เขาได้มาจากราชาโลหิตและคนอื่นๆ ทั้งยังมีของผู้ฝึกฝนชั่วร้ายที่เขาสังหารในตอนแรกอย่างหลวงจีนกระดูกแห้งด้วย
เพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจ หนึ่งปีกว่ามานี้เขาแยกสิ่งของที่ไม่ได้ใช้เหล่านี้ขายตามตลาดต่างๆ เพื่อแลกหินจิตวิญญาณมาจำนวนมาก สิ่งของที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นชุดสุดท้ายแล้ว
ธงใหญ่สีเลือดนี้เป็นอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดที่ราชาโลหิตใช้ คุณสมบัติของมันก็ไม่ธรรมดา
“หูว…สหายเย่มีความเด็ดขาดจริงๆ สมบัติล้ำค่าระดับนี้ ก็นำออกมาขายได้” ชายหน้าสี่เหลี่ยมถอนหายใจยาวๆ และระงับอารมณ์ไว้ จากนั้นก็กล่าวกับหลิ่วหมิงด้วยแววตานับถือ
“สหายจินกล่าวเกินไปแล้ว สิ่งของเหล่านี้มีคุณสมบัติไม่เลว แต่น่าเสียดายที่ไม่เหมาะกับพลังของข้า มิเช่นนั้นข้าคงไม่นำออกมาขายอย่างแน่นอน” หลิ่วหมิงกล่าวอย่างราบเรียบ
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าน้อยจะไม่พูดอะไรให้มากความแล้ว สิ่งของทั้งหมดนี้ร้านเรารับซื้อ ส่วนราคานั้น…” ชายหน้าสี่เหลี่ยมตกปากรับคำในทันที แต่ก็เผยสีหน้าลังเลออกมา
“วางใจเถอะ! ข้าน้อยรีบร้อนใช้หินจิตวิญญาณ ราคาสามารถตกลงกันได้” หลิ่วหมิงกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
ชายหน้าสี่เหลี่ยมได้ยินก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นทั้งสองจึงถกราคากันอยู่พักหนึ่ง
สุดท้ายอาวุธจิตวิญญาณชิ้นนี้ ก็ถูกขายไปในราคาหนึ่งล้านสองแสนหินจิตวิญญาณ บวกกับอาวุธจิตวิญญาณชิ้นอื่นๆ และโอสถสายปีศาจสองขวดแล้ว รวมทั้งหมดเป็นจำนวนหนึ่งล้านเก้าแสนหินจิตวิญญาณ
หลังจากทั้งสองยื่นสินค้าและหินจิตวิญญาณให้แก่กันแล้ว ย่อมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
เวลาต่อมา ชายหน้าสี่เหลี่ยมก็สนทนากับหลิ่วหมิงอย่างอบอุ่น และทำเป็นสอบถามที่มาของหลิ่วหมิงอย่างไม่ใส่ใจ
“สหายจิน บอกท่านอย่างไม่ปิดบัง ที่ข้ามาเมืองเจินหยวนในครั้งนี้ ด้านหนึ่งก็เพื่อขายอาวุธจิตวิญญาณเหล่านี้ อีกด้านหนึ่งก็เพื่อต้องการซื้อสิ่งของเสริมสำหรับการฝึกฝน สหายคุ้นเคยกับพื้นที่ ไม่ทราบว่าพอจะชี้แนะข้าน้อยได้หรือไม่?” หลิ่วหมิงพูดขายผ้าเอาหน้ารอดไปสองสามประโยค จากนั้นก็เอ่ยปากถามอีกครั้ง
“ย่อมได้แน่นอน ไม่ทราบว่าสหายต้องการซื้อสิ่งของอันใด?” ชายหน้าสี่เหลี่ยมได้ยินก็รีบกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“สหาย เชิญดู” หลิ่วหมิงหยิบแผ่นหยกออกมาแล้วยื่นไปให้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา