ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 646

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 646 โอสถแฝงจิตวิญญาณ
ตอนที่ 646 โอสถแฝงจิตวิญญาณ
โดย
Ink Stone_Fantasy
เขาโยนเตาหลอมขนาดเล็กไปด้านหน้า และปล่อยพลังออกไปติดต่อกันสองสาย เตาหลอมขนาดชุ่นกว่าๆ เปล่งแสงสีเขียวออกมาทันที จากนั้นก็กลายเป็นเตาหลอมยักษ์ที่สูงสามจั้ง และร่วงลงพื้นเสียงดังโครม!

ขณะที่ปรุงโอสถในก่อนหน้านั้น เขาเข้าใจวิธีการใช้เตาหลอมนี้อย่างชัดแจ้งแล้ว

พอเขาปล่อยพลังใส่ค่ายกลขนาดเล็กตรงก้นของเตาหลอม แสงสีเขียวก็เปล่งประกายออกมา และแสงสีเขียวแก่ก็พุ่งออกจากด้านล่างไปยังพื้นผิวของเตาหลอม

ทันใดนั้น เตาหลอมยักษ์สีเขียวก็เปล่งประกายแสงทรงกลดหลากสีออกมา เปลวไฟสีแดงคุโชนตรงก้นเตาหลอม

หลิ่วหมิงสะบัดแขนเสื้อนำยันต์เก็บของที่เตรียมไว้ในก่อนหน้านั้นออกมาขยี้จนแตกกระจาย วัตถุดิบกองหนึ่งกระจายเต็มพื้น

พอเขาตบลงบนพื้นหนึ่งที ไอดำก็ม้วนเอาวัตถุดิบเหล่านี้ไว้ หลังจากมีเสียงดัง “ฟิ้ว!” พวกมันก็จมหายไปในเตาหลอมที่เปิดฝาอยู่

เขาก็รีบนำของเหลวห้าแสงออกจากแหวนย่อส่วนมาขวดหนึ่ง และเทลงเบาๆ ของเหลวโปร่งแสงสีเหลืองส้มอันเข้มข้นกลายเป็นเส้นแวววาว และค่อยๆ ไหลลงไปในเตาหลอมยักษ์

ขณะที่เทลงไปประมาณหนึ่งในสองส่วนแล้ว เขาถึงพลิกมือขึ้นมา และขวดเล็กสีเงินก็กระพริบหายไปทันที

ขณะนี้ ฝาเตาหลอมถึงค่อยๆ ปิดลง

หลิ่วหมิงทำท่ามือด้วยมือข้างเดียวอยู่ไม่หยุด เพื่อปล่อยพลังเวทใส่เปลวไฟด้านล่างเตาหลอมอย่างต่อเนื่อง

“ฟู่!”

เปลวไฟห่อหุ้มเตาหลอมลิ่วเสินไว้ทั้งหมด

เมื่อเทียบโอสถระดับผลึกกับโอสถระดับของเหลวแล้ว ประจักษ์ชัดว่าใช้เวลาในการกลายรูปเป็นโอสถยาวนานกว่ามาก

เดิมทีหลิ่วหมิงคิดว่าโอสถแฝงจิตวิญญาณเตาแรกใช้เวลานานสุดก็แค่สามวันเท่านั้น แต่หลังจากผ่านไปเจ็ดวันแล้ว ภายใต้การกระตุ้นพลังเวทอยู่ไม่หยุดของเขา เตาหลอมลิ่วเสินถึงส่งเสียงดังออกมา และกลิ่นไหม้ก็โชยเข้ามา

ประจักษ์ชัดว่าการปรุงโอสถในครั้งแรกประสบความล้มเหลวไปแล้ว

เวลาต่อมา หลิ่วหมิงใช้ของเหลวห้าแสงคุณภาพสูงลองดูอีกครั้ง ผลลัพธ์ยังคงล้มเหลวเช่นเดิม อีกอย่างโอสถที่ปรุงด้วยของเหลวห้าแสงคุณภาพสูงนี้ ต้องใช้เวลานานถึงสิบวันด้วย

ทำซ้ำๆ เช่นนี้จนผ่านไปครึ่งปี ในที่สุดหลิ่วหมิงก็ใช้ของเหลวห้าแสงคุณภาพสูงปรุงโอสถแฝงจิตวิญญาณออกมาได้สำเร็จเป็นครั้งแรก

หลิ่วหมิงมองดูโอสถสีขาวในมือที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นและเต็มไปด้วยพลังจิตวิญญาณ และในใจของเขาก็อดรู้สึกสับสนไม่ได้

แม้เขาจะมีเตาหลอมลิ่วเสินคอยช่วย แต่ก็ปรุงโอสถไปเกือบยี่สิบเตาถึงปรุงสำเร็จหนึ่งครั้ง นี่เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว

มิน่าล่ะ! โอสถระดับผลึกที่อยู่ด้านนอกถึงมีจำนวนน้อยกว่าระดับของเหลว

หลิ่วหมิงคิดใคร่ครวญอยู่ในใจ เมื่อเก็บโอสถเม็ดนี้เข้าไปแล้ว ก็หยิบขวดเล็กสีเงินออกมาหนึ่งขวด และเริ่มปรุงโอสถเตาต่อไป

ห้าปีต่อมา หลิ่วหมิงกำลังชื่นชมโอสถสีขาวที่เต็มไปด้วยพลังจิตวิญญาณเม็ดหนึ่ง โอสถเม็ดนี้มีไอหมอกสีขาวล้อมรอบ พอมองทะลุไอหมอกไป จะเห็นลายโอสถเส้นหนึ่งปรากฏอย่างชัดเจน ซึ่งมันเป็นแค่โอสถแฝงจิตวิญญาณคุณภาพธรรมดาเม็ดหนึ่งเท่านั้น

มาจนถึงวันนี้ เขาปรุงโอสถติดต่อกันทั้งวันทั้งคืน และภายใต้การช่วยเสริมของเตาหลอมลิ่วเสิน ในที่สุดก็ยกระดับอัตราการปรุงโอสถแฝงจิตวิญญาณสำเร็จขึ้นมาห้าส่วน แต่อัตราการปรุงโอสถระดับสูงออกมาได้นั้น ช่างต่ำจนน่าสงสาร อีกอย่างโอสถที่ใช้ของเหลวจิตวิญญาณคุณภาพสูงปรุงออกมาได้หนึ่งเม็ดเป็นครั้งคราวนั้น ก็เป็นแค่โอสถคุณภาพธรรมดาเท่านั้น

ส่วนโอสถระดับพสุธา เขาไม่เคยปรุงออกมาได้เลย

และทักษะการปรุงโอสถแฝงจิตวิญญาณของเขาก็ไม่อาจยกระดับได้เลยแม้แต่น้อย

ดูท่าหากจะปรุงโอสถพสุธาออกมา ไม่ใช่แค่ว่าทักษะการปรุงโอสถจะสามารถเสริมได้ สิ่งสำคัญคือวัตถุดิบหลักแล้ว

พอหลิ่วหมิงนึกมาถึงจุดนี้ ก็ยกแขนเสื้อปล่อยพลังออกมาทันที เตาหลอมยักษ์สีเขียวหยกตรงหน้าลอยขึ้นมา มันหมุนวนกลางอากาศหนึ่งรอบ และลดขนาดเหลือหนึ่งชุ่นกว่าๆ เท่าเดิม จากนั้นก็พุ่งเข้าไปในแขนเสื้อ

อัตราความสำเร็จในตอนนี้ เขาค่อนข้างพอใจมากแล้ว จากประสบการณ์ในก่อนหน้า หากปรุงโอสถนี้ต่อไปล่ะก็ เกรงว่าคงจะได้ไม่คุ้มกับเสีย

หลิ่วหมิงลุกขึ้นมายืดแข้งยืดขา และเดินไปดูการฝึกฝนของแมงป่องกระดูกกับหัวบิน

ทั้งสองยังคงฝึกฝนอยู่ตรงหน้ากำแพงอากาศอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย พลังการเคลื่อนไหวต่างๆ สูงกว่าแต่ก่อนมาก แต่ระดับการฝึกฝนของทั้งสองกลับหยุดชะงักอยู่ที่ระดับของเหลวขั้นสมบูรณ์แบบ ยังคงไม่มีวี่แววว่าจะทะลวงระดับผลึกได้

หลิ่วหมิงกลับไม่รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด หลังจากพูดให้กำลังใจทั้งสองไปสองสามประโยคแล้ว ก็เดินไปทางศิลาหุนเทียน

หลัวโหวที่นั่งขัดสมาธิราวกับเป็นท่อนไม้แกะสลัก ลืมตามองด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก

หลิ่วหมิงรู้สึกใจเย็นสะท้าน แต่กลับโค้งตัวกล่าวอย่างนอบน้อม

“รบกวนผู้อาวุโสหลัวโหวแล้ว”

“ในเมื่อจะเริ่มฝึกฝนวิชาสายฟ้าสวรรค์แล้ว ข้าจะส่งเจ้าเข้าไป”

พอน้ำเสียงสิ้นสุดลง หลัวโหวก็ยกมือข้างหนึ่งปล่อยแสงแวววาวใส่ดวงตามายาปีศาจบนศิลาหุนเทียน

ครู่ต่อมา หลิ่วหมิงรู้สึกว่ามีเสียงฟ้าแลบฟ้าร้องดังอยู่ข้างหู พอเห็นภาพตรงหน้าอย่างชัดเจน ร่างของเขาก็มาอยู่ในแดนมายาที่มีเสียงฟ้าร้องแล้ว

“โครมคราม!”

ดูเหมือนว่าในขณะที่เขามาปรากฏตัว สายฟ้าสีเงินขนาดเท่าปากถ้วยเส้นหนึ่ง ก็ส่งเสียงดังจนหูแทบจะหนวก และยังฟันลงมาทางเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา