หลุมยักษ์เป็นสีดำเกรียม และตรงขอบก็เรียบผิดปกติราวกับถูกตัดด้วยมีดอันแหลมคม
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ ย่อมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
การโจมตีเมื่อครู่ กระตุ้นอานุภาพของวิชาสายฟ้าสวรรค์แค่หนึ่งถึงสองส่วนเท่านั้น
หากเขาโจมตีด้วยพลังทั้งหมดล่ะก็ เกรงว่าผู้ฝึกฝนระดับแก่นแท้ก็ไม่อาจรับการโจมตีนี้ได้ อีกอย่างเมื่อระดับการฝึกฝนของเขาเพิ่มขึ้น และพลังในการควบคุมสายฟ้าสวรรค์ยิ่งมาก อานุภาพของมันยังคงเพิ่มขึ้นได้อย่างไร้ขีดจำกัด
ปัญหาเพียงหนึ่งเดียวก็คือ นอกจากจะพบเจอกับพายุฝนฟ้าคะนองแล้ว หากจะแสดงการโจมตีอันน่าตกใจเช่นนี้ ก็มีเพียงแค่การกักเก็บพลังสายฟ้าจำนวนมากไว้ก่อน ถึงจะมีความหวังขึ้นมา
ในเมื่อวิชาสายฟ้าสวรรค์เข้าสู่ระดับลึกซึ้งแล้ว หลิ่วหมิงก็หยุดฝึกฝนวิชานี้ในทันที และอาศัยดวงตามายาไปฝึกฝนประสบการณ์ต่อสู้อีกแบบในแดนมายา
ครึ่งปีต่อมา ในแดนมายา
ท่ามกลางทะเลเพลิงสีดำในห้องโถงแห่งหนึ่ง หญิงสาวครึ่งมนุษย์ครึ่งปีศาจที่มีขนสีดำปกคลุมเต็มตัวก็คือเซียนหงส์ดำนั่นเอง
ภายใต้พลังระดับผลึกของหลิ่วหมิงที่เหนือกว่า นางเปิดศึกได้ไม่นานก็มีสถาพเป็นแบบนี้แล้ว
เซียนหงส์ดำกระพือปีกบินเข้าหาหลิ่วหมิง กรงเล็บสีดำอันแหลมคมกลายเป็นเงากรงเล็บยักษ์วาดตัวผ่านไป
หลิ่วหมิงก็กระตุ้นพลังเวทอย่างไม่รีบร้อน ไอดำพวยพุ่งรอบตัว พริบตาเดียวก็ก่อตัวเป็นฝ่ามือยักษ์สีดำสองข้าง และพุ่งออกไปรับมือ
พริบตาที่เงากรงเล็บยักษ์ปะทะกับมือยักษ์ มันก็ระเบิดออกมา เซียนหงส์ดำกระเด็นกลับไปในทะเลเพลิงท่ามกลางพลังอันมหาศาล
แต่นางกระพือปีกทั้งคู่ในทันที ร่างของนางหมุนวนกลับมาด้วยแววตาเยือกเย็น จากนั้นก็อ้าปากพ่นเปลวเพลิงสีดำใส่หลิ่วหมิง
ทันใดนั้น มีกลิ่นไหม้เกรียมโชยออกมาจากกลางอากาศ
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็ก้าวขาข้างหนึ่งไปด้านหลัง และกลายเป็นแสงสีดำพุ่งออกไปยี่สิบกว่าจั้ง
ครู่ต่อมา เกิดเสียงดังกังวานดังเข้ามา เงาร่างวิหคยักษ์ตัวหนึ่งกำลังพุ่งออกจากทะเลเพลิงสีดำ และแผดเสียงพุ่งเข้าหาหลิ่วหมิงท่ามกลางไอดำอันพวยพุ่ง
“ฟู่!”
วิหคยักษ์พ่นเปลวไฟสีทองขนาดเท่าปากถ้วยออกมา
หลิ่วหมิงทำท่ามือด้วยมือข้างหนึ่งบริเวณหน้าอก สายฟ้าแต่ละเส้นก่อตัวขึ้นบนมือ พริบตาเดียวก็กลายเป็นลูกสายฟ้าสีเงินขนาดเท่ากำปั้นหนึ่งลูก
“ไป!”
พอหลิ่วหมิงกระตุกข้อมือ สายฟ้าขนาดเท่าปากถ้วยเส้นหนึ่งก็พุ่งไปรับมือกับเปลวไฟสีทอง
เกิดเสียงดังกลางอากาศในทันที
สายฟ้าสีเงินพุ่งทะลุเปลวไฟสีทอง และพุ่งเข้าเซียนหงส์ดำ
“วิชาสายฟ้าสวรรค์นี้มีอานุภาพไม่ธรรมดาจริงๆ!” หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็แอบอุทานออกมาอดไม่ได้ และการแสดงวิชาสายฟ้าสวรรค์ในครั้งนี้ เขาใช้พลังเวทแค่หนึ่งในสามส่วนเท่านั้น
ขณะนั้น ดูเหมือนว่าเซียนหงส์ดำจะรับรู้ได้ว่าสถานการณ์ไม่ค่อยปลอดภัย หลังจากดวงตาทั้งคู่เป็นประกายแวววาวอยู่ครู่หนึ่ง นางก็กระพือปีกทั้งคู่อย่างรุนแรง พายุบ้าระห่ำพัดเข้ามา จากนั้นร่างของนางก็พร่ามัว
แต่ครู่ต่อมา เกิดเสียงสายฟ้าดังเปรี๊ยะๆ สายฟ้าสีเงินเปล่งประกายผ่านเศษเงาร่างของเซียนหงส์ดำ ส่วนร่างแท้จริงของนางกลับหายไปจากห้องโถงในพริบตา
แต่หลิ่วหมิงกลับทำท่ามือด้วยมือทั้งสองโดยไม่รู้สึกประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย
“ฟู่!”
ทางเดินหลายแห่งมีม่านทรายสีทองจางๆ ปรากฏออกมา มันคือทรายทองคำร่วงที่หลิ่วหมิงเตรียมไว้ตั้งแต่แรกนั่นเอง
หน้าม่านทรายแห่งหนึ่งพลันสั่นสะท้านเบาๆ “ตู๊ม!” จากนั้นก็มีรูขนาดใหญ่ปรากฏออกมา
“หาเจ้าเจอแล้ว!”
มุมปากหลิ่วหมิงยกขึ้นเล็กน้อย พอสะบัดแขนเสื้อ กระบี่เล็กสีเขียวเล่มหนึ่งก็พุ่งยิงออกมา พอกระตุ้นเคล็ดกระบี่อีกครั้ง เขาก็ใช้วิชากระบี่ร่างเป็นหนึ่งกลายสายรุ้งกระบี่สีเขียวพุ่งตามไป
ไม่นานก็มีเสียงร้องอย่างน่าเวทนาท่ามกลางระเบียงทางเดินยาวๆ แห่งหนึ่ง “อ๊ากกกก!”
……
สองปีต่อมา
ยังคงอยู่ในห้องโถงมืดๆ ภายในแดนมายา เงาร่างสีเลือดกำลังปะทะกับเงาร่างสีดำอย่างดุเดือด ซึ่งก็คือหลิ่วหมิงกับราชาโลหิตที่กลืนมนุษย์โลหิตเข้าไปนั่นเอง
ช่วงเวลาในก่อนหน้านั้น หลิ่วหมิงเคยใช้ร่างแปลงปีศาจไปจัดการกับราชาโลหิตแล้ว ด้วยพลังของเขาที่เพิ่มขึ้นเป็นทวี ไม่กี่รอบก็สังหารราชาโลหิตได้อย่างง่ายดาย
ตอนนี้เขากลับไม่ได้ใช้ร่างแปลงปีศาจอย่างในก่อนหน้า และกำลังต่อสู้กับราชาโลหิตอย่างดุเดือด
“ฟู่!”
เงาฝ่ามือโลหิตกดลงบนศีรษะหลิ่วหมิง
ไอดำบนตัวหลิ่วหมิงพวยพุ่งกลายเป็นเงาสองเงา และแยกออกไปซ้ายขวา ทำให้หลบฝ่ามือโลหิตไปได้ จากนั้นก็ผสานกลับมาดังเดิม และไปปรากฏตัวอยู่ห่างจากด้านข้างของราชาโลหิตหลายจั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา