ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 682

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 682 สังหารราชินีผึ้ง (2)
ตอนที่ 682 สังหารราชินีผึ้ง (2)
โดย
Ink Stone_Fantasy
ราชินีผึ้งส่งเสียงแหลมเศร้ากำสรดออกมาทันที มันกระพือปีกทั้งคู่อย่างรุนแรง ม่านแสงสีม่วงบนตัวสว่างขึ้นมาอีกครั้ง ร่างของมันขยายใหญ่ราวกับถูกอัดลมจนมีขนาดสิบกว่าจั้ง

แต่ฮวาชิงอิ่งและคนอื่นๆ ต่างก็เป็นผู้ฝึกฝนระดับแก่นแท้ ย่อมมีประสบการณ์การต่อสู้อย่างโชกโชน พอเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ก็พากันไปล้อมราชินีผึ้งห้าแสงพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย และกระตุ้นอาวุธต่างๆ โจมตีอย่างบ้าคลั่ง

เนื่องจากหลิ่วหมิงเพิ่งจะกระตุ้นวิชาสายฟ้าสวรรค์อย่างฉุกละหุก และสูญเสียพลังเวทไปมาก จึงไม่อาจกระตุ้นวิชาสายฟ้าสวรรค์เป็นครั้งที่สองได้อีก ทำได้แต่ทานโอสถจินหยวนฟื้นฟูพลังเวท ขณะเดียวกันก็กระตุ้นเคล็ดวิชามังกรพยัคฆ์ทมิฬปล่อยมังกรหมอกสีดำสี่ตัวไปร่วมต่อสู้

ครั้งนี้ไม่ว่าพวกเขาจะโจมตีเช่นไร ม่านแสงสีม่วงบนตัวราชินีผึ้งห้าแสงก็เพียงแค่กะพริบไม่กี่ที ก็ฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติ ซึ่งดูเหมือนว่าจะหนาขึ้นกว่าก่อนหน้านั้นเล็กน้อย

ขณะนั้นเอง ก้นของราชินีผึ้งห้าแสงเพียงแค่สั่นสะท้านเบาๆ เงาหนามสีม่วงจำนวนมากก็พุ่งออกไปทั่วทิศ

หลิ่วหมิงเอามือข้างหนึ่งลูบอากาศตรงหน้าด้วยความตกใจ จากนั้นโล่เก้ากะโหลกก็ปรากฏออกมา มันขยายใหญ่ตามลมจนมีขนาดหลายจั้ง และต้านทานอยู่ตรงหน้า

พอฮวาชิงอิ่งและคนอื่นๆ เห็นราชินีผึ้งคลั่งเช่นนี้ ก็แสดงวิธีการป้องกันออกมาอย่างไม่ชักช้า บ้างก็กลายเป็นหมอกเขียวอันพวยพุ่ง บ้างก็เรียกเรียกเงาบุปผายักษ์มาต้านทานไว้ตรงหน้า

ครู่ต่อมา หลิ่วหมิงรู้สึกแค่ว่าโล่ยักษ์ตรงหน้าสั่นสะท้านเบาๆ หลังจากไอดำพวยพุ่งออกมาอยู่ครู่หนึ่ง ก็เกิดเสียงดังราวกับฝนตกกระทบรั้วไม้ไผ่

ขณะเดียวกัน หลังจากกวาดสายตามองดูโล่เก้ากะโหลกแล้ว สีหน้าของเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป

จะเห็นว่าพื้นผิวของโล่เก้ากะโหลกกลายเป็นหลุมเป็นบ่อ และมีหนามแหลมแวววาวราวกับขนวัวเสียบอยู่จำนวนหนึ่ง

เกือบจะในเวลาเดียวกัน ชายชุดเขียวก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าเวทนา และโซซัดโซเซออกจากหมอกสีเขียว แขนข้างหนึ่งของเขามีเลือดไหลออกมา มีรูเลือดปรากฏอยู่บนนั้นสิบกว่ารู มองเห็นกระดูกสีขาวอยู่รำไร

ประจักษ์ชัดว่าหมอกเขียวที่เขาปล่อยออกมาไม่อาจต้านทานหนามแหลมคมทั้งหมดได้ แขนของเขาจึงถูกหนามแหลมคมแทงไปสิบกว่าอัน

แม้ว่าอู๋ขุยและคนอื่นๆ จะไม่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีในครั้งนี้ แต่พอเห็นฉากเช่นนี้ ก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

“สหายทุกท่านรออะไรกันอยู่ เวลานี้แล้วยังไม่สู้สุดชีวิตอีก หรือว่าจะให้มันโจมตีทีละคน?” ฮวาชิงอิ่งเห็นเช่นนี้ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ส่งเสียงตะโกนออกมา

จากนั้นร่างของนางก็พุ่งขึ้นฟ้า ขณะเดียวกันก็ทำท่ามือด้วยมือข้างหนึ่งและร่ายคาถาออกมา แถบสีดำในมือหลุดออกจากมือ ภายใต้การม้วนตัวหนึ่งครั้ง มันก็กลายเป็นบุปผาสีดำขนาดสิบกว่าจั้ง

บุปผายักษ์นี้มีห้ากลีบ แต่ละกลีบเป็นสีดำราวกับหมึก แม้แต่ก้านก็กลายเป็นสีดำไปทั้งแถบ ภายใต้การสั่นสะท้านตามแรงลม ไอดำหลายกลุ่มก็พวยพุ่งออกมา และกดทับไปทางม่านแสงสีม่วง

อู๋ขุยได้ยินก็ทำเสียงฮึดฮัดออกมา จากนั้นก็โยนพัดขนนกในมือออกไป และกระตุ้นท่ามือทันที

พัดขนนกหมุนตัวติ้วๆ กลางอากาศ จากนั้นก็กลายเป็นเงานกกระสายักษ์สีทองตัวหนึ่ง พอมันกางปีกทั้งคู่ออก แสงสีทองแน่นขนัดก็พุ่งยิงลงมาราวกับสายฝนกระหน่ำ

ชายฉกรรจ์ส่งเสียงคำรามออกมา หลังจากกลิ่นไอบนตัวปะทุออกมาแล้ว ร่างของเขาก็ขยายใหญ่ในพริบตา พอเขาก้าวยาวๆ ออกไปหนึ่งก้าว ก็ปล่อยกำปั้นใส่ราชินีผึ้งอย่างรุนแรง

ไม่รู้ว่ามีถุงมือสีเงินแวววาวอยู่บนกำปั้นขนาดใหญ่ตั้งแต่เมื่อไหร่ และพอโจมตีออกไปด้านหน้า อากาศบริเวณนั้นก็พร่ามัวราวกับอากาศทั้งหมดถูกม้วนเข้าไป อานุภาพน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง!

หญิงสวมหมวกคลุมกับชายชุดเขียวเห็นเช่นนี้ก็ไม่กล้าชักช้าอีก คนหนึ่งแสดงวิชาดาบร่างเป็นหนึ่ง และกลายเป็นแสงแวววาวก่อนฟันออกไป ส่วนอีกคนก็ฝืนความเจ็บปวดโยนธงสามเหลี่ยมในมือออกไป จากนั้นมันก็กลายเป็นมังกรเขียวก่อนกระโจนออกไปอย่างโหดเหี้ยม

พริบตาเดียว นอกจากหลิ่วหมิงแล้ว ห้าคนที่เหลือต่างก็แสดงพลังที่แท้จริงออกมาโจมตีร่วมกัน

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็ไม่ได้เข้าไปร่วมวงโจมตี แต่กลับสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็พร่ามัวกลายเป็นเงาหลายเงาก่อนพุ่งออกไป

เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว!

การร่วมมือกันโจมตีของฮวาชิงอิ่งและคนอื่นๆ นับว่าสะเทือนเลือนลั่นไปทั่วบรรณพิภพ

แม้ว่าม่านแสงป้องกันสีม่วงที่ราชินีผึ้งปล่อยออกมาจะเหนือกว่า แต่ภายใต้การโจมตีครั้งนี้ สามารถประคับประคองได้ชั่วครู่เท่านั้น ไม่นานก็เริ่มแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ

แต่ขณะนั้นเอง ราชินีผึ้งส่งเสียงร้องแหลมในฉับพลัน พอมันบิดก้นไปมา แสงสีม่วงลำหนึ่งก็พุ่งยิงออกไปในพริบตา มันกะพริบแค่ทีเดียว ก็ทะลุคลื่นอากาศและแสงชนิดต่างๆ ไป และพร่ามัวมาปรากฏอยู่ตรงหน้าชายฉกรรจ์

หลังจากชายฉกรรจ์โจมตีออกไปอีกหนึ่งกำปั้น ร่างขนาดใหญ่ก็เล็กลงตามเดิมราวกับเกิดรูรั่ว ขณะนี้ พอเห็นแสงสีม่วงปรากฏออกมา เขาก็ส่งเสียงร้องด้วยความตกใจทันที และพุ่งถอยออกไปในพริบตา กำปั้นที่สวมถุงมือสีเงินอยู่กางนิ้วออกมา และคว้าเข้าใส่แวงสีม่วงราวกับสายฟ้าแลบ

“ฟิ้ว!”

แสงสีม่วงทะลุผ่านมือยักษ์สีเงินในพริบตา และกะพริบจมเข้าไประหว่างคิ้วของชายฉกรรจ์ จากนั้นก็พุ่งออกจากศีรษะทางด้านหลังพร้อมกับเลือด มันคือเหล็กไนสีม่วงแวววาวขนาดใหญ่

ชายฉกรรจ์มีสีหน้าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก หลังจากเกิดเสียงดัง “โครม!” ร่างของเขาล้มลงพื้นทันที

และเหล็กในสีม่วงก็โจมตีชายฉกรรจ์จนเสียชีวิต จากนั้นก็วกกลับมาพุ่งใส่อู๋ขุยที่เพิ่งจะเก็บพัดขนนกเข้าไป

อู๋ขุยมีสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก เขาขยับตัวโดยไม่ต้องคิด แสงงดงามม้วนออกจากตัว และกลายเป็นลูกแสงหลากสีก่อนพุ่งขึ้นฟ้า

เหล็กในสีม่วงกลับส่งเสียงดัง “ฟู่!” จากนั้นก็กลายเป็นเงาสีม่วงจางๆ ตามติดไปอย่างไม่ลดละ

พอฮวาชิงอิ่ง หญิงสาวสวมหมวกคลุม และคนอื่นๆ ที่อยู่บริเวณนั้นเห็นเช่นนี้ ต่างก็รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา