แต่ผ่านไปสักพัก แสงโลหิตที่มีขนาดใหญ่กว่าก่อนหน้านั้นก็ถูกดึงออกจากหน้าอกของผู้ฝึกฝนปีศาจชุดเขียว หัวใจที่กำลังเต้นเบาๆ ถูกห่อหุ้มอยู่ในนั้น
พอมองดูผู้ฝึกฝนปีศาจอีกที จะเห็นว่าร่างของเขาแห้งเหี่ยวราวกับโครงกระดูกไปตั้งนานแล้ว และติดอยู่ในมือใหญ่สีม่วงอย่างอ่อนแรง ดวงตาทั้งคู่ยังคงดูหวาดผวาและไม่พอใจ แต่กลับไม่มีร่องรอยของการมีชีวิตแล้ว
ไม่รู้ว่ามีขวดหยกสีเขียวปรากฏในมือชายฉกรรจ์ชุดม่วงตั้งแต่เมื่อไหร่ พอโบกมืออีกข้างไปกลางอากาศ แสงโลหิตก็ห่อหุ้มหัวใจของหมัวซีไว้ และถูกดูดเข้าไปในขวดหยก
เมื่อเห็นฉากเช่นนี้ ฮวาชิงอิ่ง อู๋ขุย และคนอื่นๆ ก็ทั้งตกใจและหวาดกลัว แม้ว่าอยากจะหลบหนีไปให้ไกลๆ แต่ต่อหน้าผู้ฝึกฝนระดับดาราพยากรณ์กลับไม่มีใครกล้าเคลื่อนไหวแต่อย่างใด
หลิ่วหมิงเองก็แอบตะโกนว่า “ไม่ดี!” อยู่ในใจ
ชายฉกรรจ์ชุดม่วงมองดูขวดหยกในมือด้วยสีหน้าพอใจ หลังจากเก็บมันเข้าไปในแขนเสื้อแล้ว ก็ดูเหมือนจะยกแขนเสื้อขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ พอมือสีม่วงขยับตัว ศพผู้ฝึกฝนปีศาจชุดเขียวก็ถูกขยี้จนระเบิด จากนั้นก็หันมากล่าวกับพวกหลิ่วหมิงอย่างราบเรียบ
“ผู้น้อยอย่างพวกเจ้ารู้ว่าอะไรควรไม่ควร ในเมื่อไม่ได้หลบหนีไป ก็ตามข้ามาเถอะ!”
พอน้ำเสียงสิ้นสุดลง ก็ไม่เห็นว่าเขาจะมีการเคลื่อนไหวใดๆ แต่กลับมีเงาร่างมนุษย์ยักษ์สีม่วงที่มีลักษณะคล้ายชายฉกรรจ์ชุดม่วงปรากฏออกมาด้านหลังในทันที และมือยักษ์สีม่วงในก่อนหน้านี้ก็มาจากมนุษย์ยักษ์ผู้นี้
เงาร่างมนุษย์ยักษ์โบกมือข้างหนึ่งโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง จากนั้นมือยักษ์สีม่วงข้างหนึ่งก็คว้ามาทางพวกเขา
พอเห็นฉากเช่นนี้ หลิ่วหมิงก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที และแอบร้องว่าไม่ดีอยู่ในใจ ร่างของเขาทำท่าทีตอบสนองออกมา ไอดำพวยพุ่งออกจากตัวอย่างบ้าคลั่ง พริบตาเดียวก็ห่อหุ้มร่างของเขาไว้ ขณะเดียวกันโล่กระดูกสีดำก็เปล่งประกายออกมา และขยายใหญ่หลายจั้งก่อนต้านทานอยู่ตรงหน้า จากนั้นเท้าทั้งคู่ก็กระทืบพื้นอย่างรุนแรง เพื่อคิดจะพุ่งถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
แต่ว่าต่อหน้ามือยักษ์สีม่วงแล้ว เห็นได้ชัดว่าการกระทำนี้ล้วนเสียแรงเปล่า
ขณะที่มือยักษ์ค่อยๆ กุมมือทั้งห้า หลิ่วหมิงก็รู้สึกถึงพลังมหาศาลที่กดดันมาจากทั่วทิศ เส้นลมปราณทั่วร่างเกิดอาการชาไปครู่หนึ่ง และกลายเป็นท่อนไม้แข็งๆ โดยไม่อาจควบคุมร่างของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์
นอกจากอู๋ขุยที่ขยับได้สองสามครั้งในตอนแรกแล้ว คนอื่นๆ ที่อยู่ด้านข้างต่างก็ไม่ทันได้มีท่าทีตอบสนองใดๆ จึงถูกสั่นสะเทือนจนไม่อาจเคลื่อนไหวได้เลยแม้แต่น้อย
ครู่ต่อมา ภายใต้การกำมือของมือยักษ์สีม่วง หลิ่วหมิงและคนอื่นๆ ก็ถูกจับอยู่ในนั้นทั้งหมด
“หืม! พลังจิตฝึกฝนได้ไม่เลว ต่อหน้าข้ายังสามารถลงมือได้” ชายฉกรรจ์ชุดม่วงมองดูหลิ่วหมิงด้วยความแปลกใจทีหนึ่ง แต่แสงสีม่วงก็ม้วนออกจากตัวอย่างรวดเร็ว และพาเขาพุ่งไปยังขอบฟ้า
พริบตาที่มนุษย์ยักษ์สีม่วงหันตัวกลับมา มันก็ค่อยๆ หายไปในอากาศ มือยักษ์สีม่วงที่จับพวกหลิ่วหมิงไว้ก็กลายเป็นแสงสีม่วง และตามติดชายฉกรรจ์ชุดม่วงไป
หลิ่วหมิงอยู่ในแสงสีม่วงโดยไม่อาจกระดิกตัวได้เลยแม้แต่น้อย แม้แต่ปากก็ไม่อาจขยับได้ รู้สึกแค่ว่าภาพรอบด้านพุ่งถอยออกไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว ภาพภูเขาแม่น้ำลำธาร ภาพเมฆหมอกและวิหคที่โบยบิน ทุกอย่างล้วนมีเวลาเพียงแค่เหลือบมอง และแล้วมันก็ถูกทอดทิ้งไว้เบื้องหลังไกลๆ
……
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด แสงสีม่วงที่ห้อหุ้มพวกเขาสลายไปทันที หลิ่วหมิงรู้สึกว่าตรงหน้าสว่างขึ้นมา ร่างของเขาเซเล็กน้อย และกลับมาอยู่ในอำนาจควบคุมของตนเองอีกครั้ง
ขณะนี้ อู๋ขุย ฮวาชิงอิ่ง และคนอื่นๆ ต่างก็ฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติแล้ว และกำลังมองไปรอบด้าน
ภายใต้การกวาดสายตาดูรอบด้านของหลิ่วหมิง ก็ค้นพบว่าตนเองดูเหมือนจะอยู่ท่ามกลางเทือกเขาสีแดงเข้มขนาดใหญ่ บนภูเขามีถ้ำขนาดต่างๆ จำนวนมาก ทั้งยังมองเห็นเงาตะคุ่มๆ ของสิ่งก่อสร้างแปลกประหลาดที่ปกคลุมอยู่ในเทือกเขาที่อยู่ไกลๆ ดูเหมือนว่าจะเป็นเมืองแห่งหนึ่ง ในนั้นยังมีผู้ฝึกฝนปีศาจเข้าๆ ออกๆ อยู่จำนวนหนึ่ง
สถานที่แห่งนี้ก็คือสถานที่รวมตัวของผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจ
“ดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นเขาเหลยฉือ……” หลังจากอู๋ขุยกวาดสายตามองดูรอบด้านแล้ว ก็กล่าวออกมา
หลิ่วหมิงได้ยินก็รู้สึกกลัดกลุ้มในทันที เขาเหลยฉือเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในดินแดนป่าเถื่อนทางตอนใต้ ซึ่งก็คือสถานที่อยู่ในอำนาจควบคุมของปีศาจสายฟ้า ขณะเดียวก็เป็นสถานที่รวมตัวของผู้ฝึกฝนปีศาจหลายคนในดินแดนทางใต้ด้วย
ปีศาจสายฟ้าพาพวกเขามาที่นี่ด้วยตนเองเช่นนี้ ประจักษ์ชัดว่ามันไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน ชายฉกรรจ์ชุดม่วงกำลังยืนอยู่บนสิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะคล้ายแท่นบูชา และร่ายคาถาออกมา มือทั้งสองก็ทำท่ามือแปลกประหลาดอยู่ไม่หยุด ดูเหมือนเขากำลังทำพิธีแปลกประหลาดบางอย่างอยู่
หลิ่วหมิงและคนอื่นๆ ต่างก็มองหน้ากัน แม้จะไม่รู้ว่าคนผู้นี้กำลังทำอะไร แต่แผนการของพวกเขาในตอนนี้ก็คงได้แต่ค่อยๆ ดูไปทีละก้าวแล้ว หากบุ่มบ่ามไม่ดูตาม้าตาเรือล่ะก็ อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ตลอดเวลา
เวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา จะเห็นว่าชายฉกรรจ์ชุดม่วงหยุดร่ายคาถา สิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะเป็นแท่นบูชาเปล่งประกายออกมา จากนั้นแขนทั้งสองของเขาก็ยื่นออกไปด้านหน้าทันที และค่อยๆ แยกออกไปด้านข้าง
เกิดเสียงดังสะเทือนเลือนลั่น!
สายฟ้าสีม่วงขนาดใหญ่พุ่งออกมากลางอากาศ และระเบิดตัวเป็นไหมสายฟ้าสีม่วงนับไม่ถ้วน ไหมสายฟ้าที่แน่นขนัดกลางอากาศถูกฉีกจนกลายเป็นรูขนาดใหญ่ ดูเหมือนว่าจะมีอีกมิติหนึ่งอยู่ในนั้น
จากนั้นชายฉกรรจ์ชุดคลุมสีม่วงก็คว้ามือไปด้านหลังโดยที่ไม่หันหน้ากลับมา ทันใดนั้นกระแสอากาศไร้รูปก็ห่อหุ้มหลิ่วหมิงและคนอื่นๆ ไว้ และม้วนตัวเข้าไปในรอยแยกมิติโดยที่พวกเขาไม่สามารถต้านทานได้เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา