ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 702

สรุปบท ตอนที่ 702 ผู้อาวุโสจินหมาน: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 702 ผู้อาวุโสจินหมาน – ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา โดย Internet

บท ตอนที่ 702 ผู้อาวุโสจินหมาน ของ ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 702 ผู้อาวุโสจินหมาน
ตอนที่ 702 ผู้อาวุโสจินหมาน
โดย
Ink Stone_Fantasy
ด้วยความแข็งแกร่งของกายเนื้อหลิ่วหมิง โดนดรรชนีผ่านอากาศแค่หนึ่งที ก็ได้รับบาดเจ็บถึงเพียงนี้แล้ว เกรงว่าต่อให้จะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับแก่นแท้ขั้นปลาย ก็ไม่อาจทำเรื่องเช่นนี้ได้

“เอ๊ะ!”

หวงอิ๋งมองดูหลิ่วหมิงที่หายใจรวยรินทีหนึ่ง จากนั้นก็ต้องเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา การโจมตีในเมื่อครู่ นางไม่ได้ยั้งมือเลยแม้แต่น้อย แต่กลับไม่สามารถสังหารผู้น้อยระดับผลึกคนหนึ่งได้ ช่างเหนือความคาดหมายยิ่งนัก

แต่ขณะที่นางหัวเราะอย่างเยือกเย็น และกำลังจะพูดอะไรออกมานั้น ฝ่ามือยักษ์สีเหลืองที่อยู่อีกด้านก็ส่งเสียงดัง “ตู๊ม!” หลังจากแสงสีเขียวพุ่งออกมา ก็กะพริบอยู่ห่างออกไปหลายสิบจั้ง และก็มีคนปรากฏออกมา

เขาก็คือผู้อาวุโสขุยมู่ที่ถูกบีบจนระเบิดผู้นั้น

ตอนนี้เขามีสีหน้าซีดขาวผิดปกติ มีไอสีเขียวจางๆ พุ่งออกจากตัว หน้าอกกระเพื่อมอยู่ไม่หยุด ดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บสาหัส

เกือบจะในเวลาเดียวกัน จี้หยกสีเขียวบนเอวที่ดูไม่เตะตา ก็กลายเป็นผุยผงอย่างไร้สุ้มเสียง

“น่าสนใจดี ตราหยกรับเคราะห์! สิ่งของแบบนี้ไม่ค่อยได้เจอบ่อยมากนัก ดูท่าเจ้าคงมีสถานะไม่ธรรมดาในหุบเขาปีศาจสวรรค์” หวงอิ๋งเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ยังคงกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน

“เจ้าเป็นใครกันแน่…หรือเจ้าคิดจะแอบกลืนโลหิตปีศาจ…ต่อให้เจ้าจะได้โลหิตปีศาจไปแล้วจะอย่างไร ทางออกแดนลึกลับอยู่บนเขาเหลยฉือ ต่อให้เจ้าจะมีระดับการฝึกฝนสูง แต่หากไม่มีข้าคอยช่วย ก็ยากจะหนีพ้นเงื้อมมือของปีศาจสายฟ้าไปได้…” ผู้อาวุโสขุยมู่มีคราบเลือดตรงมุมปาก และจ้องมองหวงอิ๋งด้วยความโมโห

“สหายขุยมู่ ในเมื่อข้าจะลงมือ จุดนี้ก็ไม่ต้องให้สหายมาเป็นห่วงหรอก ว่าแต่ตราหยกรับเคราะห์อันล้ำค่าเช่นนี้ คิดว่าบนตัวของเจ้าก็คงมีแค่ชิ้นเดียว เช่นนี้ล่ะก็ ก็ไปตายซะเถอะ!” หวงอิ๋งได้ยินก็กล่าวอย่างราบเรียบ

พอกล่าวจบนางก็ค่อยๆ ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมา จากนั้นเงาฝ่ามือยักษ์สีเหลืองก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง และยื่นไปบนตัวผู้อาวุโสขุยมู่

ครั้งนี้ผู้อาวุโสขุยมู่ได้เตรียมป้องกันไว้ก่อนแล้ว บวกกับระยะห่างที่ไกลเช่นนี้ พริบตาที่ฝ่ามือยักษ์ปรากฏออกมา แสงสีเขียวก็เปล่งประกายบนตัวทันที จากนั้นก็กลายเป็นหมาป่ายักษ์สีเขียวตัวหนึ่ง เท้าทั้งสี่พุ่งออกไปไกลๆ ทันที

แต่ทว่าพุ่งออกไปได้แค่ไม่กี่สิบจั้ง ฝ่ามือยักษ์สีเหลืองก็พร่ามัวมาระเบิดตัวบนหัวของหมาป่ายักษ์

“ตู๊ม!”

หมาป่ายักษ์สีเขียวหดตัวเป็นก้อน และถูกพลังมหาศาลอัดกระเด็นออกไป หลังจากกลิ้งอยู่กลางอากาศไปหลายรอบ ก็หล่นลงพื้นเสียงดัง “ตุ๊บ!”

หมาป้ายักษ์สีเขียวนอนปวกเปียกอยู่บนพื้นทันที มีบาดแผลเต็มตัว เลือดไหลทะลักออกมา ไอสีเขียวหมุนวนรอบๆ และร่างกายก็กระตุกเล็กน้อยราวกับสูญเสียความรู้สึกไปแล้ว แต่ก็กัดฟันยืนขึ้นด้วยตัวที่สั่นสะท้าน

หวงอิ๋งเห็นเช่นนี้ก็ไม่ได้ลงมือในทันที แต่กลับจ้องมองฉากตรงหน้าด้วยความสนใจ

ดวงตาทั้งคู่ของหมาป่ายักษ์เต็มไปด้วยความเคียดแค้น ทันใดนั้น มันก็แหงนหน้าส่งเสียงหอนออก พออ้าปาก แก่นปีศาจสีเขียวก็ถูกพ่นออกมา มันหมุนติ้วๆ อยู่บนหัวจนเปล่งแสงสีเขียวขึ้นมา เถาวัลย์หลายเส้นพุ่งยิงออกจากในนั้น และทอประสานกันไปมาจนห่อหุ้มร่างของเขาไว้

ครู่ต่อมา ตะกร้อเถาวัลย์ที่มีขนาดหลายจั้งก็ปรากฏออกมากลางอากาศ และพองยุบเป็นจังหวะ พอมองจากที่ไกลๆ ดูคล้ายกับหัวใจสีเขียวที่กำลังเต้นอยู่ แลดูแปลกประหลาดยิ่งนัก

“ตู๊ม!”

หัวใจสีเขียวเต้นได้ไม่กี่ครั้ง เถาวัลย์ก็แห้งเหี่ยวลงอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ระเบิดออกมา เผยให้เห็นร่างผู้อาวุโสขุยมู่ที่มีไอสีเขียวลอยวนรอบตัว

ตอนนี้เขาคืนร่างเป็นมนุษย์อีกครั้ง กลิ่นไอที่ขาดๆ หายๆ ค่อยๆ เพิ่มขึ้นมา

และขณะที่กลิ่นไอเพิ่มทวีขึ้น บาดแผลบนตัวก็สมานกันอย่างรวดเร็ว ความเปล่งปลั่งบนใบหน้าค่อยๆ หายไป ขณะเดียวกันรอยเหี่ยวย่นก็ค่อยๆ ปรากฏออกมา ราวกับว่าอายุแก่ลงไปหลายร้อยปีภายในพริบตา

แม้ว่าตอนนี้ผู้อาวุโสขุยมู่จะฟื้นฟูพลังมาได้อีกครั้ง แต่กลิ่นไอพลังชีวิตที่แผ่ออกมากลับอ่อนแออย่างถึงขีดสุด

ประจักษ์ชัดว่าเขาใช้วิธีการฟื้นฟูที่คล้ายกับการใช้วิชาพฤกษาแห้งพบเจอหยาดพิรุณ โดยใช้อายุขัยเป็นการตอบแทน แต่วิธีการนี้รุนแรงกว่าอย่างเห็นได้ชัด ชั่วเวลาแค่ครู่เดียว ก็ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บทั่วร่างได้แล้ว

“วิชาที่สืบทอดต่อกันมาของหุบเขาปีศาจช่างไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ไม่เพียงแต่ทำให้เจ้าฟื้นฟูพลังและอาการบาดเจ็บเท่านั้น แม้แต่พิษห้าวิญญาณที่ข้าปล่อยออกไป ก็สามารถระงับไว้ได้” หวงอิ๋งหัวเราะเบาๆ แต่ในดวงตากลับไม่มีความรู้สึกเลยแม้แต่น้อย

“ฮึ! ในเมื่อเจ้ารู้ว่าข้าเป็นคนหุบเขาปีศาจสวรรค์จริงๆ ก็ควรจะรู้ว่าใครก็ตามที่คิดจะเอาโลหิตปีศาจสวรรค์ไป จะต้องเป็นศัตรูกับหุบเขาปีศาจสวรรค์เรา ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครก็ตาม หากหยุดมือในตอนนี้ล่ะก็ ข้าจะทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น” ผู้อาวุโสขุยมู่จ้องมองหวงอิ๋งแล้วกล่าวออกมา

“ฮ่าๆ! หุบเขาปีศาจสวรรค์มีชื่อเสียงใหญ่โตเช่นนี้ แม้แต่ปีศาจสายฟ้าเลี่ยเจิ้นเทียนยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง ข้าก็ย่อมหวาดกลัวเป็นธรรมดา แต่หากสหายขุยมู่หายไปจากที่นี่ตลอดกาล ใครจะรู้ล่ะว่าโลหิตปีศาจสวรรค์ตกอยู่ในมือของข้า? ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าเรื่องนี้จะไม่มีทางแพร่งพรายออกไป ต่อให้สหายจะมีเคล็ดวิชาที่สามารถรายงานเรื่องนี้ให้กับหุบเขาปีศาจสวรรค์ได้ เกรงว่าพอถึงเวลานั้น คนที่หุบเขาปีศาจสวรรค์จะตามหา ก็คงเป็นปีศาจสายฟ้าเลี่ยเจิ้นเทียนเสียมากกว่า!” หวงอิ๋งกล่าวอย่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ประจักษ์ชัดว่านางไม่ยี่หระเลยแม้แต่น้อย

“เจ้า…”

ผู้อาวุโสขุยมู่มีสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านั้นเขาใช้เคล็ดวิชาส่งข่าวไปในหุบเขาจริงๆ แต่ข่าวที่ส่งไปกลับบอกว่า ปีศาจสายฟ้ากับปีศาจเหล็กแอบกลั่นโลหิตปีศาจสวรรค์อย่างลับๆ หากหุบเขาปีศาจสวรรค์ส่งคนมาตรวจสอบจริงๆ ล่ะก็ เกรงว่าคงตรวจสอบมาไม่ถึงนางผู้นี้

หมาป่ายักษ์จำต้องหยุดชะงักลงทันที แต่ประกายความบ้าคลั่งฉายผ่านแววตาของมันไป พออ้าปาก กริชสีดำเล่มหนึ่งก็พุ่งออกมา อักขระสีเลือดจำนวนมากเปล่งประกายบนพื้นผิว จากนั้นก็กลายเป็นมังกรดำดวงตาสีแดงที่ยาวสิบกว่าจั้ง

ขณะที่หญิงผมอสรพิษมองเห็นกริชสีดำนั้น ดวงตาของนางก็ดูเคร่งขรึมเล็กน้อย แต่ก็ทำเสียงฮึดฮัดแล้วยกแขนเสื้อขึ้นมาทันที ไอหมอกสีเหลืองม้วนตัวออกมา พริบตาเดียวก็ปกคลุมมังกรดำไว้ และไอหมอกก็พวยพุ่งรวมตัวกันอีกครั้ง จากนั้นก็กลายเป็นอสรพิษน้อยสีเหลืองทองจำนวนมาก และกระโจนเข้าใส่มังกรดำอย่างบ้าคลั่ง

เกิดภาพ ‘หมื่นอสรพิษกลืนมังกร’ กลางอากาศอยู่ครู่หนึ่ง พริบตาเดียว มังกรดำก็ถูกโจมตีจนมีสภาพไม่สมบูรณ์

ขณะเดียวกัน หญิงผู้นี้ก็พลิกฝ่ามือตบกลับไปเบาๆ

“ตู๊ม!” หมาป่ายักษ์สีเขียวถูกฝ่ามือยักษ์สีเหลืองข้างหนึ่งตบลงจากที่สูง ทั้งยังมีไอหมอกสีเหลืองอยู่บนตัวหนึ่งชั้น

“ฟู่ๆ!”

ไอหมอกเหล่านี้กลายเป็นอสรพิษเล็กๆ จำนวนมาก และมุดเข้าไปในผิวหนังของหมาป่ายักษ์ ขณะเดียวกันก็ส่งเสียงร้องออกมา

“อ๊ากก…ไม่…ฆ่าข้าแล้วทางหุบเขาปีศาจจะต้องไม่ปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน…”

ภายใต้สถานการณ์ที่ผู้อาวุโสขุยมู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และถูกอสรพิษมุดเข้าไปในร่าง ทำให้ร่างกายของเขาไม่อาจเคลื่อนไหวได้เลยแม้แต่น้อย แม้กระทั่งไม่อาจกระตุ้นให้แก่นแท้ภายในร่างระเบิดออกมาได้ ทำได้แค่ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด และจ้องมอง ‘ผู้อาวุโสจินหมาน’ ด้วยสีหน้าวิงวอน

หญิงผมอสรพิษกลับหัวเราะประชดประชัน พอสะบัดแขนเสื้อ หมอกสีเหลืองก็ม้วนตัวออกไป

ภายใต้สถานการณ์ที่หมาป่ายักษ์สีเขียวขนาดมหึมาถูกปกคลุมอยู่ภายใต้ไอหมอก ผิวหนังของมันก็เน่าเปื่อยอย่างรวดเร็ว และถูกกำจัดไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่เลือดเนื้อและวิญญาณที่อยู่ด้านใน ก็เหี่ยวเฉาอย่างรวดเร็ว

ผ่านไปแค่ไม่กี่อึดใจ บนพื้นก็เหลือแค่โครงกระดูกหมาป่าขนาดใหญ่เท่านั้น พอเกิดเสียงดัง “ฟู่!” มันก็กลายผุยผง และสลายตัวไปท่ามกลางไอหมอกสีเหลือง

“เต๊ง!” แหวนเก็บของสีเขียวสลัวๆ ปรากฏออกมา และร่วงลงบนพื้น

………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา