ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 701

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 701 การเปลี่ยนแปลงอันน่าตกใจในแดนลึกลับ
ตอนที่ 701 การเปลี่ยนแปลงอันน่าตกใจในแดนลึกลับ
โดย
Ink Stone_Fantasy
พอทั้งสามรู้สึกว่าอากาศรอบด้านถูกหมอกควันสีเทาปกคลุมไว้ พวกเขาก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

ขณะเดียวนั้นเอง กลิ่นไออันแข็งแกร่งสี่สายก็พุ่งออกมาจากตรงกลาง

พอหลิ่วหมิงเขม้นตามองทะลุไอหมอกอันพวยพุ่ง จะเห็นว่าใจกลางชั้นจำกัดมีหุ่นขนาดใหญ่สี่ตัวเฝ้าอยู่ ตรงกลางก็เป็นแท่นบูชาขนาดหลายจั้ง ไอหมอกที่เปล่งแสงสีเลือดลอยนิ่งๆ อยู่เหนือแท่นบูชา

หุ่นนักรบทั้งสี่ตัวสูงราวๆ หนึ่งจั้งกว่า บนตัวสวมชุดเกราะสีเทาเงิน ดูจากกลิ่นไอที่แผ่ออกมา ดูเหมือนว่าจะเข้าถึงระดับแก่นแท้ขั้นต้นแล้ว และพอทั้งสี่ตัวรวมกัน แม้แต่หลิ่วหมิงก็ต้องมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างช่วยไม่ได้

แต่หลังจากหลิ่วหมิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็พุ่งไปทางแท่นบูชาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

หวงอิ๋งกับผู้อาวุโสขุยมู่เห็นฉากเช่นนี้ ก็สบตากันทีหนึ่ง จากนั้นก็กระตุ้นแสงหลบหลีกพุ่งไปยังใจกลางชั้นจำกัดอย่างไม่ลังเล

ในความคิดของพวกเขา แม้ว่าหุ่นระดับแก่นแท้ขั้นต้นสี่ตัวจะเป็นเรื่องยุ่งยากเล็กน้อย แต่อย่างไรซะมันก็ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต พูดถึงพลังที่แท้จริงก็ไม่อาจเทียบกับผู้ฝึกฝนระดับเดียวกันได้ และคิดว่าหุ่นทั้งสี่ตัวนี้ ปีศาจสายฟ้าคงเอามาไว้เผื่อเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น และเป็นการเตรียมการป้องกันในชั้นสุดท้ายแล้ว

ขณะที่หลิ่วหมิงเหยียบเข้าไปในพื้นที่ที่ม่านแสงแวววาวเคยปกคลุม ดวงตาดำมืดของหุ่นนักรบสี่ตัวก็เปล่งประกายออกมา จากนั้นก็พุ่งขึ้นฟ้า หลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ครู่หนึ่ง ก็ก่อตัวเป็นค่ายกลรบ และอ้าปากพ่นลำแสงสี่สีออกมา

หลังจากลำแสงเหล่านี้รวมตัวกันกลางอากาศ มันก็กลายเป็นลำแสงขนาดเท่าปากถ้วยที่มีสีแดง เหลือง ฟ้า เขียว รวมตัวเข้าด้วยกัน และพุ่งไปยังหลิ่วหมิงที่อยู่ด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

หลิ่วหมิงค่อยๆ เลิกคิ้วขึ้นมา ร่างของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนดูพร่ามัว ทำให้ลำแสงทะลุผ่านเงาร่างของเขาไป และโจมตีลงพื้นบริเวณนั้นจนกลายเป็นหลุม

ครู่ต่อมา เกิดคลื่นสั่นสะเทือนเหนือศีรษะหุ่นนักรบทั้งสี่ จากนั้นร่างของหลิ่วหมิงก็ปรากฏออกมา

แต่เขายังไม่ทันได้ทำการโจมตี หุ่นทั้งสี่ที่อยู่ด้านล่างก็แหงนหน้าขึ้นพร้อมกัน และพ่นลำแสงสี่สีใส่เขาอีกครั้ง

ขณะที่หลิ่วหมิงหายวับไปปรากฏอยู่ห่างออกไปสิบกว่าจั้งนั้น แสงสี่สีเหล่านี้ก็เหมือนกับจะตามติดตำแหน่งของเขาไป

ไม่ว่าหลิ่วหมิงจะหลบหลีกอย่างไรหรือกลายเป็นเงาร่าง ลำแสงเหล่านี้ก็ยังหาร่างจริงของหลิ่วหมิงเจอ และตามติดอย่างไม่ลดละ

สิ่งนี้ทำให้สีหน้าหลิ่วหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ถ้าแค่ลำแสงลำนี้ เขาย่อมไม่รู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด แต่หากหุ่นทั้งสี่ปล่อยลำแสงเช่นนี้ออกมาติดต่อกันล่ะก็ จะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากเป็นอย่างยิ่ง

ผู้อาวุโสขุยมู่ที่เหาะเข้ามา ก็ค่อยๆ หยุดชะงักลง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปมาอยู่ไม่หยุด ประจักษ์ชัดว่าเขาก็ค้นพบว่าหุ่นเหล่านี้รับมือได้ยาก

หวงอิ๋งที่ตามเข้ามาก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที แต่ในส่วนลึกของลูกตาดำกลับเปล่งประกายสลัวๆ จากนั้นร่างก็สั่นสะท้านเบาๆ และไม่ขยับเขยื้อนภายในพริบตา

ขณะนี้หลิ่วหมิงก็ครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเขาก็หายวับออกไปจากพื้นที่ที่เคยถูกม่านแสงแวววาวปกคลุม จากนั้นแสงในดวงตาของหุ่นทั้งสี่ก็ดับลง และหยุดการโจมตี

ลำแสงสี่สีที่ตามติดหลิ่วหมิงไม่ปล่อย ก็หยุดอยู่ตรงขอบ และระเบิดตัวสลายไปเอง

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็ตาเป็นประกายขึ้นมา ทันใดนั้นเขาก็มีความคิดในใจทันที ขณะที่กำลังหันมาเรียกผู้อาวุโสขุยมู่กับหวงอิ๋งนั้น พลันมีเงาร่างสีเหลืองกะพริบผ่านตรงหน้าไป พริบตาเดียวก็มาปรากฏตัวอยู่ใจกลางม่านแสง พอแสงดับลงก็เผยให้เห็นร่างของหวงอิ๋ง

เพียงแต่ไม่รู้ว่าในมือของนางถือดาบเล็กสีทองอร่ามตั้งแต่เมื่อไหร่

ขณะที่หุ่นทั้งสี่ยังไม่ทันได้มีการเคลื่อนไหวใดๆ แสงสีทองในมือก็สะบัดออกไป เงาดาบสีทองเล็กๆ จำนวนมากร่วงลงมาราวกับสายฝน

ภายใต้การเปล่งประกายของแสงสีทอง ม่านแสงสีเทาขนาดใหญ่ก็พุ่งออกจากตัวของหุ่นทั้งสี่ และต้านทานดาบสีเล็กสีทองไว้

ขณะที่หลิ่วหมิงกับผู้อาวุโสขุยมู่ต่างก็เผยสีหน้าประหลาดใจออกมานั้น หวงอิ๋งกลับประนมมือหนีบดาบเล็กสีทองไว้ และร่ายคาถาออกมา

พอคาถาถูกร่ายออกมา เปลวไฟสีทองก็ลุกไหม้บนฝ่ามือของนาง ดาบเล็กสีทองในมือค่อยๆ กลายเป็นของหลอมเหลวสีทอง พอนางขยับปากเบาๆ และเปลี่ยนท่ามือ ของหลอมเหลวสีทองก็ไหลเป็นเส้นๆ และเกาะตัวเป็นเข็มบินสีทองอร่ามสี่เล่ม

พอนิ้วของหวงอิ๋งพร่ามัว เข็มทองทั้งสี่เล่มก็ถูกหนีบอยู่ระหว่างนิ้ว และค่อยๆ สะบัดใส่หุ่นทั้งสี่

ทันใดนั้น แสงสีทองแวววาวขนาดหนึ่งจั้งกว่าๆ ก็กะพริบผ่านอากาศ

“ฟิ้ว!” “ฟิ้ว!” “ฟิ้ว!” “ฟิ้ว!”

แสงแวววาวทั้งสี่พุ่งยิงลงบนม่านแสงสีเทา ทำให้ม่านแสงสั่นไหวจนเกิดเป็นระลอกคลื่น แต่กลับไม่สามารถทำลายการป้องกันนี้ได้เลยแม้แต่น้อย และมันก็กลับมาเป็นเข็มบินสีทองสี่เล่มเหมือนเดิม

หวงอิ๋งขยับปากเบาๆ พอเปลี่ยนท่ามือ เข็มบินสีทองทั้งสี่ก็เริ่มจุดเปลวไฟสีทองขึ้นมา พอเปลวไฟลุกไหม้ มันก็เข้าไปในม่านสีเทาทันที และกลายเป็นไหมแวววาวพุ่งทะลุลำตัวของหุ่นไป “ฟิ้ว!”

แสงสีทองเปล่งประกายบริเวณหน้าอกของหุ่นนักรบทั้งสี่ เกราะสีเงินบนตัวที่ดูแข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ระเบิดออกมาพร้อมกันจนเกิดรูขนาดเท่ากำปั้น และผลึกแวววาวที่อยู่ด้านในก็แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ

แสงในดวงตาของหุ่นนักรบระดับแก่นแท้ขั้นต้นทั้งสี่ตัวดับลงทันที จากนั้นก็ล้มโครมลงพื้น

ตั้งแต่หวงอิ๋งลงมือสังหารหุ่นระดับแก่นแท้ทั้งสี่อย่างง่ายดายนี้ ใช้เวลาแค่อึดใจเดียวเท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา