“สหายฟังข้าก่อน ข้ามีความลับยิ่งใหญ่อยู่เรื่องหนึ่ง…” ขณะนี้หญิงผมอสรพิษมีอาการหายใจไม่สะดวก ร่างกายอ่อนปวกเปียกไร้เรี่ยวแรง พอเห็นร่างแปลงปีศาจโจมตีเข้ามา ก็ไม่มีแรงจะหลบแต่อย่างใด ทำได้แต่ตะโกนออกมาเท่านั้น
“ตู๊ม!”
นางยังพูดไม่ทันจบก็ถูกโจมตีกระเด็นออกไปอย่างรุนแรง พอมีเงาร่างเคลื่อนไหว ‘หลิ่วหมิง’ ก็มาปรากฏตัวบนอากาศเหนือศีรษะของนาง และปล่อยกำปั้นลงมาอีกครั้ง
“ตู๊ม!”
หญิงผมอสรพิษส่งเสียงร้องอย่างเวทนา จากนั้นก็กระแทกพื้นจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ กระดูกทั่วร่างแหลกละเอียด และไม่อาจเคลื่อนไหวได้เลยแม้แต่น้อย ดูเหมือนฉากก่อนที่หลิ่วหมิงจะกลายร่างในก่อนหน้านั้น
ขณะนี้ เงาร่าง ‘หลิ่วหมิง’ พร่ามัวมาปรากฏตัวในหลุมด้านล่าง และใช้เท้าข้างเดียวเหยียบศีรษะของหญิงผมอสรพิษอย่างไม่ปราณี
“ไม่…” ขณะที่ผู้อาวุโสจินหมานส่งเสียงร้องออกมานั้น ศีรษะของนางก็ระเบิดออกมาราวกับลูกแตงโม เศษเนื้อเศษกระดูกกระเด็นไปทั่วทิศ แม้แต่วิญญาณที่อยู่ด้านในก็ถูกเหยียบจนดับสลายไป
ร่างแปลงปีศาจหลิ่วหมิงไม่คิดจะรามือเพียงแค่นี้ แขนข้างเดียวที่เหลือพร่ามัวคว้าไปทางร่างไร้ศีรษะ ทันใดนั้นเงากรงเล็บจำนวนมากก็ม้วนตัวออกมาอย่างบ้าคลั่ง พริบตาเดียวก็ตะกุยศพจนกลายเป็นชิ้นๆ จากนั้นก็แหงนหน้าแผดเสียงร้องออกมา ดูเหมือนว่าความโหดเหี้ยมที่เต็มเปี่ยมยังไม่ถูกระบายออกมาอย่างเต็มที่
ทันใดนั้น แขนข้างเดียวของ ‘หลิ่วหมิง’ ก็คว้าไปในกองเศษเนื้อ และหยิบขวดเล็กแวววาวออกมา
มันคือโลหิตปีศาจสวรรค์ขวดนั้นนั่นเอง
‘หลิ่วหมิง’ เพียงแค่ใช้จมูกดมผ่านจุกเล็กน้อย จากนั้นก็ขยี้ขวดจนแตกกระจาย และอ้าปากดูดเข้าไปทันที
พอหลิ่วหมิงที่อยู่ในร่างแปลงปีศาจเห็นฉากเช่นนี้ ก็รู้สึกหวาดกลัวจนหน้าถอดสี แต่เนื่องจากยังคงไม่สามารถควบคุมร่างได้ จึงได้แต่มองดู ‘ตนเอง’ กลืนโลหิตปีศาจหยดนั้นเข้าไป
อย่างที่รู้ว่าโลหิตปีศาจสวรรค์นี้เป็นสิ่งของประหลาดของเผ่าปีศาจ เมื่อดูจากคำพูดของผู้อาวุโสขุยมู่ในก่อนหน้าที่บอกว่า หากผู้ที่ทานโลหิตนี้ไปไม่ใช่คนเผ่าปีศาจ ผลลัพธ์จะต้องเลวร้ายเป็นอย่างยิ่ง
หลังจาก ‘หลิ่วหมิง’ ส่งเสียงออกมาแล้ว ก็ล้มโครมลงพื้น จากนั้นใบหน้าก็บิดเบี้ยวผิดปกติ และกลิ้งไปกลิ้งมา
มีเสียงดัง “ตู๊ม!” ในสมองของหลิ่วหมิงที่อยู่ในร่างแปลงปีศาจ จากนั้นก็หมดสติไปโดยสมบูรณ์
พริบตาเดียว หมอกโลหิตก็พุ่งออกจากร่างของเขา ทั้งยังหมุนวนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง และห่อหุ้มร่างของหลิ่วหมิงไว้
หลิ่วหมิงสงบลงทันที บาดแผลบนตัวสมานกันอย่างรวดเร็ว ภายใต้การประสานกันไปมาของไหมโลหิตจำนวนมาก ทำให้ร่างกายที่หายไปครึ่งหนึ่งฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติ
ผ่านไปสักพัก ร่างของหลิ่วหมิงก็ฟื้นฟูกลับมาสมบูรณ์ แต่ขณะนั้นเอง “ฟู่!” ไอดำพวยพุ่งออกจากร่างของเขาอีกครั้ง และประสานกันไปมากับไอหมอกโลหิตอย่างไม่มีใครยอมใคร ทั้งยังส่งเสียงปะทะกันอย่างรุนแรง ทำให้พื้นที่บริเวณนั้นเกิดเสียงดังหวึ่งๆ อยู่พักหนึ่ง
ขณะเดียวกัน อุณหภูมิบนผิวหลิ่วหมิงก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กล้ามเนื้อแต่ละก้อนนูนขึ้นมาด้วยความเร็วอันน่าตกใจ และผิวหนังก็ค่อยๆ กลายเป็นสีแดงราวกับโลหิต ทั้งยังมีหลอดเลือดสีแดงเข้มนูนออกมา แลดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก ราวกับว่าร่างของเขาจะระเบิดออกมาในไม่ช้า
ขณะนั้นเอง แสงสีขาวเปล่งประกายบริเวณหน้าท้องของหลิ่วหมิง เงาฟองอากาศแวววาวขนาดเท่าเมล็ดถั่วเหลืองปรากฏออกมาอย่างน่าประหลาดใจ
“ตู๊ม!” “ตู๊ม!” ถุงหนังสองใบบนเอวหลิ่วหมิงระเบิดออกมาในพริบตา เผยให้เห็นร่างของหัวบินกับแมงป่องกระดูก แต่พวกมันต่างก็นอนสลบอยู่กลางอากาศ
และแสงสีเงินก็เปล่งประกายบนตัวหลิ่วหมิง หมึกชมพูขนาดเท่าฝ่ามือก็ปรากฏออกมาด้วยเช่นกัน
ขณะนั้นเอง เงาร่างฟองอากาศแวววาวเพียงแค่หมุนตัวติ้วๆ! แสงหลากสีก็ม้วนตัวออกไป พอมันปะทะกับไอหมอกโลหิต ก็แยกส่วนหนึ่งในนั้นออกไป หลังจากม้วนตัวไม่กี่ครั้ง มันก็แบ่งกันพุ่งเข้าร่างของหัวบิน แมงป่องกระดูก และหมึกน้อย
หมอกโลหิตที่ถูกแบ่งออกมานี้มีสีเข้มกว่า ดูเหมือนว่าจะแตกต่างจากองค์ประกอบของหมอกโลหิตดั้งเดิมเล็กน้อย
ขณะเดียวกัน ภายใต้การกระทำของแสงหลากสี หมอกโลหิตที่เหลือก็รวมเข้ากับหมอกดำในพริบตา และจมหายเข้าไปในร่างของหลิ่วหมิงอย่างรวดเร็ว
ความผิดปกติต่างๆ บนร่างของหลิ่วหมิงหายไปอย่างรวดเร็ว ลมหายใจก็ค่อยๆ มั่นคงลง
ในเวลาเดียวกัน หลังจากแมงป่องกระดูกและหัวบินที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสดูดกลืนหมอกโลหิตสีเข้มเข้าไปส่วนหนึ่งแล้ว บาดแผลต่างๆ บนตัวก็ฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติ แต่หลังจากหล่นลงพื้นแล้วก็หมดสติไป
หมึกน้อยก็เป็นเหมือนกัน
ทุ่งหญ้าบริเวณนั้นเงียบสงัดไปชั่วขณะหนึ่ง
ขณะเดียวกัน ห้องลับภายในถ้ำบางแห่งในส่วนลึกของหุบเขาขนาดใหญ่ที่มีเมฆหมอกรายล้อม และไม่รู้ว่าอยู่ห่างจากเขาเหลยฉือไปกี่ลี้
“ฟู่!”
หญิงวัยกลางคนที่มีผมอสรพิษเต็มศีรษะนั่งอยู่บนเบาะ ทันใดนั้นร่างของนางก็เอียงไปด้านหน้า และกระอักเลือดออกมา
“ใคร? ใครที่ทำลายร่างแปลงชั่วคราวของข้า หรือว่าปีศาจสายฟ้ากับปีศาจเหล็กทั้งสองจะลงมือเอง? ไม่ถูกต้อง! ด้วยนิสัยของทั้งสอง หากการทดสอบยังไม่สิ้นสุด จะต้องไม่ทำเช่นนี้เป็นอันขาด หรือว่าจะเป็นศิษย์คนใดคนหนึ่งของเฒ่าประหลาดสองคนนี้?” แววตาหญิงผมอสรพิษเยือกเย็นเป็นอย่างมาก นางใช้ลิ้นเลียเลือดตรงมุมปากด้วยความประหลาดใจ
หลิ่วหมิงสลบไปหนึ่งวันเต็มๆ
หลังจากผ่านไปหนึ่งวัน เขาก็ค่อยๆ ลืมตาทั้งคู่ขึ้นมาในที่สุด และค้นพบในทันทีว่ามือเท้าของตนเองอยู่ครบ บนตัวไม่มีบาดแผลใดๆ เลยแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา