ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 706

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 706 ตามล่า
ตอนที่ 706 ตามล่า
โดย
Ink Stone_Fantasy
“บังอาจสังหารศิษย์เผ่าข้าจำนวนมากเช่นนี้ ทั้งยังแย่งโลหิตปีศาจสวรรค์ไปด้วย อย่าให้ข้าจับได้ ข้าจะต้องหักกระดูกเจ้าเป็นชิ้นๆ และโจมตีจนวิญญาณแหลกสลายอย่างแน่นอน!”

แสงสีม่วงเปล่งประกายขึ้นมาทันที ความเร็วของมันเพิ่มระดับขึ้นมาอีกเล็กน้อย และพุ่งไปยังทิศทางไกลๆ บางแห่ง

หลิ่วหมิงที่เหินเวหาอยู่ห่างจากแสงหลบหลีกสีม่วงไปยี่สิบลี้ รู้สึกกระวนกระจายใจขึ้นมาทันที

พอกวาดจิตออกไปก็ค้นพบว่ามีคลื่นสั่นสะเทือนขนาดใหญ่กำลังพวยพุ่งมาทางเขาอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางคลื่นสั่นสะเทือนมีสายฟ้าสีม่วงเปล่งประกายระยิบระยับ

“ปีศาจสายฟ้า เลี่ยเจิ้นเทียน!”

หลิ่วหมิงรู้สึกใจเต้นโครมคราม!

ต่อให้เขาจะมั่นใจแค่ไหน ก็ไม่กล้าแลกมือกับระดับดาราพยากรณ์ที่มีระดับการฝึกฝนห่างกับเขาถึงสองชั้น

พอหลิ่วหมิงเอานิ้วแตะหน้าผาก แสงสีทองก็เปล่งประกาย กระบี่บินสีทองขนาดสองฉื่อแปดชุ่นพุ่งออกมา และภายใต้การกระตุ้นเคล็ดกระบี่ มันก็ขยายใหญ่หนึ่งจั้งกว่าๆ

หลิ่วหมิงหายแวบมาปรากฏตัวบนกระบี่บินสีทองในฉับพลัน แสงกระบี่เปล่งประกายกลายเป็นสายรุ้งทองคำยาวหลายสิบจั้ง และพุ่งออกไปด้วยความเร็วอันเหลือเชื่อ “ฟิ้ว!”

เดิมทีวิชาขี่กระบี่บินเหินเวหาก็เป็นหนึ่งในวิชาหลบหลีกที่เร็วที่สุดแล้ว บวกกับพลังของกระบี่บินพลังจิตวิญญาณ ความเร็วของมันจึงไม่ด้อยไปกว่าแสงหลบหลีกของปีศาจสายฟ้าเลยแม้แต่น้อย ทำให้สามารถรักษาระยะห่างระหว่างทั้งสองไว้ได้

“วิชาขี่กระบี่! คิดไม่ถึงว่ามนุษย์ผู้น้อยคนนี้จะยังเป็นผู้ฝึกระบี่ด้วย!” ภายใต้การกวาดจิตดูของเลี่ยเจิ้นเทียน เขาก็รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย มุมปากของเขาเผยรอยยิ้มโหดร้ายออกมา ฝ่ามือข้างหนึ่งฟาดผ่านอากาศไป

เกิดคลื่นสะเทือนบนอากาศที่อยู่ห่างออกไปหลายลี้

ทันใดนั้น ฝ่ามือยักษ์สีม่วงก็ปรากฏออกมา พอนิ้วทั้งห้าประกบเข้าหากัน มันก็กลายเป็นฝ่ามือยักษ์ขนาดใหญ่ฟาดไปทางแสงหลบหลีกสีทอง

หลิ่วหมิงรู้สึกใจเย็นสะท้าน ไอดำพวยพุ่งออกมาด้านหลัง และกลายเป็นฝ่ามือยักษ์สีดำที่มีขนาดสิบกว่าจั้งก่อนพุ่งออกไปรับมือ

“ตู๊ม!”

ฝ่ามือยักษ์สีดำปรากฏตัวตรงหน้าฝ่ามือยักษ์สีม่วงราวกับมดแดงขย่มต้นไม้ใหญ่ พอมันปะทะกัน ฝ่ามือยักษ์สีดำก็สลายไปในทันที ส่วนฝ่ามือยักษ์สีม่วงเพียงแค่สั่นสะท้านเล็กน้อย

แต่ขณะนั้นเอง บริเวณที่ฝ่ามือยักษ์สีดำสลายตัวไป ก็มีเสียงระเบิดดัง “ตู๊มต๊าม!”

กลุ่มแสงหลากสีกระจายออกทีละกลุ่ม ทำให้ฝ่ามือยักษ์ที่มีอานุภาพดุดันสลายไปในที่สุด

ภายใต้สถานการณ์เร่งด่วน หลิ่วหมิงนำดาบยักษ์ของปีศาจโคดำรวมถึงอาวุธจิตวิญาณอื่นๆ ในยันต์เก็บของใส่ปะปนเข้าไปในฝ่ามือยักษ์สีดำ และทำให้มันระเบิดออกมา

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พลังที่เหลือจากการระเบิดตัวของฝ่ามือยักษ์สีม่วงก็กลายเป็นไอสีม่วงพุ่งเข้ามาถึงในพริบตา

และหลิ่วหมิงก็ราวกับเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว พอเขายกแขนเสื้อ โล่กระดูกสีดำก็ต้านทานอยู่ด้านหลัง

“ตู๊ม!”

แสงสีดำเปล่งประกายบนโล่กระดูกสีดำ ในสุดก็สามารถต้านทานไอสีม่วงที่เหลือได้ แต่ผิวของมันก็ระเบิดออกมาเป็นชิ้นๆ

เดิมทีโล่กระดูกนี้ก็ถูกหญิงผมอสรพิษทำลายจนเสียหายอย่างหนักในแดนลึกลับไปหนึ่งรอบแล้ว ตอนนี้ถูกปีศาจสายฟ้าโจมตีด้วยพลังทั้งหมด มันจึงแตกกระจายออกมาในที่สุด

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พอหลิ่วหมิงรู้สึกว่ามีพลังมหาศาลพุ่งออกจากหลัง ก็มีเสียงกระดูกดัง “กร๊อบ!” ในทันที เกิดความรู้สึกปวดร้อนอยู่พักหนึ่ง

“ฟู่!”

โลหิตของเขาพุ่งออกมา

หลิ่วหมิงมีสีหน้าซีดขาว ในใจรู้สึกหวาดกลัวอย่างถึงขีดสุด

พลังที่แท้จริงของผู้แข็งแกร่งระดับดาราพยากรณ์ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถจินตนาการได้ในตอนนี้

แต่ว่าเขาอาศัยพลังการโจมตีในเมื่อครู่ กระตุ้นแสงกระบี่ให้ออกห่างไปได้อีกช่วงหนึ่ง จากนั้นก็กระตุ้นวิชากระบี่บินทำการหลบหนีอย่างสุดชีวิต

การโจมตีของเลี่ยเจิ้นเทียนในเมื่อครู่ ทำให้สูญเสียพลังเวทไม่น้อย เดิมทีคิดว่าจะสามารถโจมตีหลิ่วหมิงให้สิ้นซากได้ในทีเดียว กลับคิดไม่ถึงว่าหลิ่วหมิงจะมาไม้นี้ และหลังจากเขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ทั้งสองก็อยู่ห่างกันไม่น้อยแล้ว

เขาส่งเสียงคำรามออกมาทันที แสงสีม่วงเปล่งประกายรอบตัว และพุ่งตามไปต่อ

จะเห็นว่าแสงสีทองกับสีม่วง พุ่งตามติดกันออกไปกลางอากาศอย่างรวดเร็วราวกับฝนดาวตก และพุ่งผ่านพื้นหลายร้อยจั้งภายในพริบตา โดยที่ระยะห่างของทั้งสองไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย

นี่เป็นเพราะกระบี่บินว่างเปล่าที่มีคุณสมบัติเชิงพื้นที่บางอย่าง เดิมทีความเร็วก็สูงกว่ากระบี่บินพลังจิตวิญญาณทั่วไปมากแล้ว หากเป็นผู้ฝึกกระบี่ระดับผลึกคนอื่นๆ เกรงว่าคงถูกปีศาจสายฟ้าตามทันตั้งแต่แรกแล้ว

แน่นอน! นี่ก็เป็นเพราะว่าเลี่ยเจิ้นเทียนเองก็ไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาหลบหลีกเหินเวหาเป็นพิเศษ

หลังจากไล่ล่ากันเป็นเวลาหนึ่งถ้วยชา เลี่ยเจิ้นเทียนก็ขมวดคิ้วด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอย่างถึงขีดสุด

ความเร็วในการขี่กระบี่บินเหินเวหาของหลิ่วหมิง เหนือกว่าที่เขาคาดคิดไว้มาก แต่ด้วยการฝึกฝนระดับดาราพยากรณ์ของเขา คิดไม่ถึงว่าจะตามผู้ฝึกฝนระดับผลึกคนหนึ่งไม่ทัน หากเรื่องนี้แพร่ออกไปล่ะก็ ไม่รู้ว่าจะมีคนหัวเราะจนฟันร่วงตั้งเท่าไหร่

ทันใดนั้น เขาก็มีสีหน้าโหดเหี้ยมขึ้นมา มือทั้งสองพร่ามัวอยู่ตรงหน้าครู่หนึ่ง และทำท่ามือซับซ้อนต่างๆ อยู่ไม่หยุด ขณะเดียวก็ร่าคาถาออกมาเบาๆ

พออ้าปาก โลหิตก็ถูกพ่นออกมาหลายกลุ่ม ทุกครั้งที่พ่นออกมา สีหน้าของเขาก็จะซีดลงหนึ่งส่วน หลังจากพ่นออกมาห้าครั้ง สีหน้าของเขาก็ซีดขาวเล็กน้อย

โลหิตทั้งห้ากลุ่มกลายเป็นหมอกโลหิต ภายใต้การกระตุ้นของปีศาจสายฟ้า สายฟ้าสีทองก็เปล่งประกายออกมาหนึ่งเส้น และระเบิดตัวท่ามกลางหมอกโลหิตจนกลายเป็นไหมสายฟ้าสีทองจางๆ จำนวนมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา