หลิ่วหมิงส่ายศีรษะแล้วก็ละความคิดออกจากสมอง แล้วก็ตามผู้อาวุโสเข้าไปยังห้องเล็กๆ ที่ตกแต่งอย่างงดงามและเรียบๆ ทันใดนั้นก็มีหญิงสาวสวยนางหนึ่งยกน้ำชาที่โชยกลิ่นหอมเตะจมูกมาให้หนึ่งถ้วย
จากนั้นผู้อาวุโสก็ออกไปจากห้องไปหาเจ้าของร้านที่เขากล่าวถึง
ผ่านไปสักครู่ หลังจากมีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกห้อง ผู้อาวุโสได้พาหญิงวัยกลางคนนางหนึ่งที่สวมชุดกระโปรงยาวสีม่วงเดินเข้ามา
หญิงนางนี้รูปร่างหน้าตาดูธรรมดา แต่เมื่อมองดูดีๆ แล้วกลับให้ความรู้สึกสุขุมเยือกเย็นเป็นอย่างมาก
ตอนนี้ผู้อาวุโสได้แนะนำหญิงนางนี้ขึ้น
“สหาย ผู้นี้คือฮูหยินอวี้ของร้านนี้ สหายผู้นี้ก็คือเจ้าของกระดูกปีศาจที่ข้าพูดถึงผู้นั้น”
“ฮูหยินอวี้”
หลิ่วหมิงลุกขึ้นคารวะ
“สหายผู้นี้ไม่ต้องเกรงใจ ข้าเองก็เป็นแค่ศิษย์จิตวิญญาณผู้หนึ่งเท่านั้น ไม่ทราบว่าสหายนำกระดูกเหล่านั้นออกมาข้าได้ดูมันสักหน่อยได้หรือไม่?” พอฮูหยินอวี้รับคาระวะแล้วก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เรื่องนี้ไม่มีปัญหา”
หลิ่วหมิงได้ยิน ก็รีบหยิบตลับไม้จากแขนเสื้อมาวางไว้บนโต๊ะ
ฮูหยินอวี้ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแล้วเปิดฝาตลับออก ใช้นิ้วเรียวยาวคีบเศษกระดูกสีขาวชิ้นหนึ่งออกมาจรวจดู
นางระมัดระวังเป็นอย่างมาก สีหน้าดูจดจ่อเป็นอย่างยิ่ง ราวกับว่าของที่ถืออยู่ในมือไม่ใช่เศษกระดูกที่ดูไม่เตะตา แต่เป็นสิ่งของล้ำค่าที่หาได้ยากมากบนโลกใบนี้
ตรวจดูสักครู่แล้ว หญิงผู้นี้ก็ดึงสิ่งของคล้ายปิ่นไม้ออกมาจากมวยผม ใช้ส่วนที่แหลมๆแตะไปบนเศษกระดูกนั้น
เรื่องที่คาดไม่ถึงได้ปรากฏขึ้นแล้ว
ปิ่นไม้ที่ดูเหมือนจะมีสีเหลืองอ่อนเปลี่ยนไปเป็นสีน้ำเงินภายในพริบตาเดียว
เป็นกระดูกของปีศาจอสูรที่อยู่ระดับของเหลวจิตวิญญาณขั้นปลายจริงๆ ถึงแม้จะน้อยไปหน่อยแต่ก็พอที่จะสามารถนำมาหลอมสร้างเป็นอาวุธจิตวิญญาณชิ้นเล็กได้ๆ” ในที่สุดหญิงสาวก็กล่าวด้วยความดีใจ
“อาวุธจิตวิญญาณ!” หลิ่วหมิงใจเต้นเมื่อได้ยินเช่นนี้
“ไม่ผิด เหตุที่อาวุธจิตวิญญาณนั้นมีอยู่น้อยมากย่อมเป็นเพราะว่าหลอมสร้างได้ยาก โอกาสในการหลอมสร้างได้สำเร็จมีน้อย แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือวัสดุจิตวิญญาณมีน้อยจนเกินไป กระดูกของปีศาจอสูรระดับของเหลวจิตวิญญาณขั้นปลายเหล่านี้ เหมาะกับการใช้เป็นวัสดุหลักในการหลอมสร้างอาวุธจิตวิญญาณพอดี แน่นอนว่าในระหว่างขั้นตอนการหลอมสร้างต้องเพิ่มวัสดุเสริมอื่นไปด้วย ซึ่งราคามันก็ไม่ใช่น้อย” หญิงสาวอธิบาย และดูเหมือนจะไม่อยากวางเศษกระดูกในลงในตลับ
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้” หลิ่วหมิงได้ยินเช่นนี้ก็เข้าใจได้ในทันที ก่อให้เกิดความรู้สึกดีๆ ต่อหญิงสาวผู้นี้ไม่น้อย
อย่างอื่นไม่ต้องกล่าวถึง แค่ฝ่ายตรงข้ามไม่บิดปังประโยชน์ใช้สอยของกระดูกเหล่านี้ และอธิบายอย่างเปิดเผยถึงสิ่งของล้ำค่าที่หาได้ยากยิ่งนี้ พอที่จะเห็นได้ว่าชื่อเสียงของเรือนร้อยสมบัตินี้ไม่ได้คุยโวโอ้อวดแต่อย่างใด
“ข้าได้ยินผู้เฒ่าหวังกล่าวว่า สิ่งของที่สหายนำมานี้ไม่ได้คิดที่จะขายโดยตรง แต่ดูเหมือนจะคุยเรื่องการค้าขายอย่างอื่น เป็นเช่นนี้จริงหรือ?” ฮูหยินอวี้ถามขึ้นอีกครั้ง
“ข้าคิดที่จะทำเช่นนี้จริงๆ แต่ก่อนที่จะทำเช่นนั้นข้าอยากจะถามฮูหยินสักประโยค ถ้าหากกระดูกตลับนี้สามารถขายได้โดยตรงล่ะก็ ไม่ทราบว่าร้านของท่านจะจ่ายเป็นหินจิตวิญญาณจำนวนเท่าใด” หลิ่วหมิงถามด้วยตาเป็นประกาย
“อาวุธจิตวิญญาณทั่วไปหนึ่งชิ้น มีราคาอยู่ประมาณระหว่างหลายหมื่นไปจนถึงแสนหินจิตวิญญาณ แต่เมื่อหลอมสร้างไม่สำเร็จวัสดุนั้นก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้อีก แต่ยังต้องหักค่าใช้จ่ายในการเชิญผู้เชี่ยวชาญการหลอมสร้างระดับสูงกับวัสดุเสริมอื่นๆ และเรือนของเราก็ต้องได้ส่วนต่างจำนวนหนึ่ง ดังนั้นวัสดุหลักของอาวุธจิตวิญญาณโดยทั่วไปเรือนของเราจะให้ราคาประมาณห้าพันเหรียญจิตวิญญาณ แต่พอพิจารณาถึงเศษกระดูกของสหายเป็นกระดูกของปีศาจอสูรระดับของเหลวจิตวิญญาณขั้นปลาย มีโอกาสที่จะหลอมสร้างเป็นอาวุธจิตวิญญาณระดับสูงหรืออาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดได้ ดังนั้นเรือนของเราจะเพิ่มให้อีกสองพัน รวมกันทั้งหมดเป็นเจ็ดพันหินจิตวิญญาณในการซื้อกระดูกตลับนี้ สหายคิดว่าราคานี้เป็นอย่างไร?” ฮูหยินอวี้คิดไตร่ตรองเล็กน้อยแล้วกล่าวออกมา
“เจ็ดพันหินจิตวิญญาณ เป็นราคาที่สมเหตุสมผล” หลิ่วหมิงพยักหน้า แต่ฝ่ามือมือที่หดอยู่ใต้แขนเสื้อกลับลูบตลับเล็กๆ ขนาดเท่านิ้วมืออีกตลับอย่างอดไม่ได้ สีหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
อวี้ฉูหยินเห็นเช่นนี้ ถึงแม้จะรู้สึกฉงนแต่ก็ยังมีรอยยิ้มบนใบหน้าโดยไม่เร่งรัดแต่อย่างใด
“สิ่งของในตลับนี้ กว่าครึ่งหนึ่งในนั้นข้าคิดที่จะแลกโอสถเพิ่มพลังเวทย์จำนวนหนึ่ง ชื่อและปริมาณต่างก็เขียนไว้บนนั้นแล้ว ส่วนหินจิตวิญญาณที่เหลือข้าคิดที่จะซื้อยันต์กับวัสดุที่ใช้ในการปรุงยาจำนวนหนึ่ง” หลังจากหลิ่วหมิงคิดใคร่ครวญแล้ว ในที่สุดก็ไม่ยอมหยิบตลับไม้เล็กๆ ในแขนเสื้อออกมา แต่หยิบกระดาษจากตัวมาแผ่นหนึ่งแล้วยื่นไปให้
สิ่งของเหล่านี้เป็นสิ่งที่เขาได้เขียนไว้แต่แรกแล้ว
“จำนวนโอสถคุณภาพต่ำที่ต้องการย่อมไม่มีปัญหา ในส่วนของวัสดุในการปรุงยากับยันต์นั้น อีกประเดี๋ยวจะให้คนนำรายการสิ่งของมาให้สหายเลือกได้อย่างเต็มที่” ฮูหยินอวี้มองสิ่งที่เขียนไว้บนแผ่นกระดาษครู่หนึ่งแล้วกล่าวออกมา
จากนั้นนางก็สั่งกำชับไปหนึ่งที ผู้อาวุโสก็รีบรับแผ่นกระดาษแล้วเดินออกไปจากห้อง
ครู่ต่อมา หญิงรับใช้สาวสวยผู้นั้นก็เดินเข้ามาในมือถือรายการสิ่งของหนาๆ อยู่
“สหายค่อยๆ ดู สิ่งของที่ร้านของเราขายทั้งหมดอยู่ในนี้ ไม่แน่อาจจะมีสิ่งของอื่นๆ ที่สหายสนใจ ใช่สิ! ตอนนี้ข้ายังไม่ทราบชื่อแซ่ของท่าน ท่านสามารถบอกได้หรือไม่” อวี้ฮูหยินรับรายการสิ่งของที่ยื่นมาให้แล้วกล่าวอย่างอ่อนโยน
“ข้าแซ่หลิ่ว ชื่อเต็มนั้นไม่สามารถบอกได้” หลิ่วหมิงรับรายการสิ่งของมาแล้วกล่าวอย่างราบเรียบ
“ที่แท้ก็คือสหายหลิ่ว” ฮูหยินอวี้ยิ้มเล็กน้อย ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจเรื่องที่หลิ่วหมิงไม่ได้บอกชื่อเต็มทั้งหมด
หลิ่วหมิงรีบพลิกอ่านรายการสิ่งของในมืออย่างรวดเร็ว และจดจำสิ่งของที่ถูกใจไว้ในใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา