เพราะหากหลิ่วหมิงเข้าสู่ระดับแก่นแท้หรือระดับดาราพยากรณ์ในภายหน้า และมีร่างแบ่งที่มีพลังของเขาห้าถึงเจ็ดส่วน พลังของเขาคงแข็งแกร่งจนยากจะจินตนาการได้
ของเหลวในบาตรนี้ ก่อนหน้านั้นหลิ่วหมิงทำตามที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ ช่วงสองสามปีสุดท้าย เขาวิ่งไปร้านค้าหลายร้าน และงานประมูลอยู่หลายครั้ง ถึงพอที่จะรวบรวมโอสถจิตวิญญาณชนิดต่างๆ มาผสมได้ สมุนไพรหนึ่งในนั้นที่มีชื่อว่า ‘หญ้าฟื้นวิญญาณ’ เขาต้องใช้หินจิตวิญญาณไปเกือบสองล้าน ถึงซื้อจากตลาดมืดมาได้หนึ่งต้น เพื่อใช้ในการผสมของเหลวจิตวิญญาณโดยเฉพาะ
ตามที่บันทึกในคัมภีร์ ของเหลวนี้ใช้เพื่อเตรียมฟื้นฟูจิตวิญญาณของยันต์นักรบพลังผ้าเหลืองโดยเฉพาะ เพราะยันต์นี้สร้างขึ้นในสมัยบรรพกาล หลังจากผ่านเวลามานานเช่นนี้ มันก็ได้เสียหายไปบ้างแล้ว
การต่อสู้ของหลิ่วหมิงที่ผ่านมา ยังเคยสั่งให้นักรบยันต์พลังผ้าเหลืองระเบิดตัวในช่วงเวลาสำคัญอยู่หลายครั้ง ด้วยเหตุนี้จึงอาจจะทำให้จิตวิญญาณของมันได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก หากตอนนี้จะปรับแต่งให้แบ่งร่างได้ คงต้องให้มันบ่มเพาะอยู่ในของเหลวจิตวิญญาณสักรอบ รอฟื้นฟูจิตวิญญาณมาจำนวนหนึ่งแล้วค่อยว่ากัน
ขณะนี้หลิ่วหมิงยื่นนิ้วสีขาวออกมาสองนิ้ว และนำยันต์ในของเหลวสีม่วงจางๆ ออกมาอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็นำมาสังเกตดูตรงหน้า
ของเหลวจิตวิญญาณนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ!
จะเห็นว่ายันต์สีเหลืองที่เดิมทีมืดไร้แสง ตอนนี้ราวกับถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ส่วนที่ได้รับความเสียหายรวมถึงรอยขาดขนาดต่างๆ ต่างก็ถูกซ่อมแซมจนสมบูรณ์ ไม่จำเป็นต้องใส่พลังจิตวิญญาณเข้าไปอีก บนพื้นผิวของยันต์มีแสงสีทองเปล่งประกายหมุนวนอยู่ไม่หยุด
หลิ่วหมิงพยักหน้าด้วยความพอใจ และนำยันต์แช่ลงในบาตรสีเงินอีกครั้ง จากนั้นก็ยกแขนเสื้อปิดฝาบาตร
เขาเตรียมรอหาโอกาสดีๆ แล้วก็จะเริ่มปรับแต่งการแบ่งร่างของยันต์นักรบพลังผ้าเหลือง
ขณะนี้เวลาก็ไม่เช้าแล้ว เขาจึงออกไปจากห้องลับแล้วเข้าไปในห้องนอน
การต่อสู้กับระดับดาราพยากรณ์อย่างปีศาจสายฟ้าทุกวัน นับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นพลังจิตหรือว่าพลังกายล้วนได้รับการกดขี่เป็นอย่างมาก ตอนนี้เขาต้องการนอนหลับให้อิ่มสักรอบ ทำให้จิตใจอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด
เช้าวันที่สอง หลังจากหลิ่วหมิงตื่นขึ้นมาแต่เช้าแล้ว ก็ตรงเข้าไปในห้องลับทันที เขาหลับตาทั้งคู่ลง และทำความเข้าใจเคล็ดกระบี่ปราณแกร่ง
ตอนนี้เขาทะลวงเข้าสู่ขั้นปลายของระดับผลึกแล้ว เคล็ดวิชาการขี่กระบี่ต่างๆ ในคัมภีร์ปราณแกร่งที่เขาน้ำลายยืดมานาน ในที่สุดก็เริ่มฝึกฝนได้แล้ว
หลังจากทำเช่นนี้ติดต่อกันสามวันสามคืนโดยไม่หยุดพัก เขาก็ลืมตาทั้งคู่ขึ้นมาและออกมาจากทะเลจิตรับรู้ แววตาของเขาในตอนนี้สว่างวาบขึ้นมา
หลังจากคิดไตร่ตรองเล็กน้อยแล้ว เขาก็หลับตาทั้งสอง และเข้าไปในห้องว่างเปล่าลึกลับอีกครั้ง จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อนำหนอนพลังจิตออกมา
พอเอามือข้างหนึ่งชี้ไปยังดวงตามายาปีศาจบนศิลาหุนเทียน พลังจิตของหนอนพลังจิตก็ค่อยๆ พุ่งเข้าไปในนั้น
ครู่ต่อมา ดวงตามายาปีศาจก็ลืมตาขึ้นมาทันที หลิ่วหมิงรู้สึกเพียงแค่ว่ามีแสงสว่างโจมตีเข้ามา ขณะที่เขาเห็นทุกอย่างชัดเจนนั้น ภาพตรงหน้าก็เป็นเทือกเขาหินโล้นระเกะระกะที่มีขนาดสูงต่ำแตกต่างกัน นอกจากยอดเขาที่มีความสูงต่ำไม่เท่ากันแล้ว ที่เหลือก็เป็นเศษหินขนาดต่างๆ
วิธีการสร้างแดนมายาด้วยตนเองอย่างง่ายๆ โดยไม่ต้องพึ่งหลัวโหวเช่นนี้ หลิ่วหมิงเพิ่งทำได้หลังจากที่หลัวโหวยกระดับอำนาจของ ‘กรงขัง’ ให้กับเขาเมื่อหลายปีก่อน
แต่ว่าเขาสร้างได้แค่แดนมายาง่ายๆ เช่นทะเลทราย ทุ่งหญ้า เป็นต้น ยังไม่อาจสร้างแดนซับซ้อนที่มีอสูรจิตวิญญาณ ศัตรูแข็งแกร่ง หรือสายฟ้า และสายฝนกระหน่ำได้
ตามที่หลัวโหวกล่าวไว้ ต้องรอให้เขาถูก ‘กรงขัง’ ดูดซับอีกหลายครั้ง ถึงจะพอฝืนสร้างขึ้นมาได้
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หลิ่วหมิงก็รู้สึกพอใจมากแล้ว
เพราะว่าการฝึกฝน และทดสอบความสามารถบางอย่าง ไม่สามารถแสดงได้สะดวกในห้องลับ แต่หลังจากมีแดนมายาแล้ว ก็สามารถลงมือทดสอบได้อย่างเต็มที่
หลิ่วหมิงกวาดสายตาดูรอบด้าน พอยกแขนข้างหนึ่งขึ้น กระบี่เล็กสีทองก็ถูกโยนขึ้นไป หลังจากหมุนตัวติ้วๆ กลางอากาศแล้ว ก็ลอยอยู่บนนั้นอย่างมั่นคง
ดวงตาหลิ่วหมิงเป็นประกายแวววาว พอทำท่าเคล็ดกระบี่ แสงสีทองก็เปล่งประกายบนกระบี่เล่มเล็ก พริบตาเดียวก็กลายเป็นแสงกระบี่สีทองที่ยาวเจ็ดแปดจั้ง
ขณะนั้นเอง มือทั้งคู่ของเขาก็เคลื่อนไหวในทันที และชี้ไปบนกาศอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็ร่ายคาถาออกมา
หลังจากแสงกระบี่ส่งเสียงดังกังวานผ่านไป มันก็แยกตัวออกมา ทุกครั้งที่ชี้ไปกลางอากาศก็จะมีแสงกระบี่แยกตัวออกมาหนึ่งลำ
ครู่ต่อมา แสงสีทองก็ปรากฏตัวกลางอากาศอีกแปดลำ แต่ละลำต่างก็เหมือนกับต้นแบบไม่มีผิด
“ไป!”
เขาตะโกนออกมา หลังแสงกระบี่เก้าลำสั่นสะท้านอยู่กลางอากาศหนึ่งที ก็พุ่งยิงออกไปพร้อมกัน ภายใต้การเปล่งประกายของแสงสีทองที่ปกคลุมเต็มฟ้า ทำให้ท้องฟ้าเกือบครึ่งหนึ่งเต็มไปด้วยแสงสีทองเจิดจ้า
“ปังๆ!” เกิดเสียงดังขึ้นติดต่อกัน!
หลังจากแสงสีทองกะพริบผ่านไป และสัมผัสกับยอดเขาหินแต่ละลูก มันก็จะระเบิดออกมาเป็นเศษหินภายในพริบตา
“การแบ่งร่างของแสงกระบี่นี้ช่างมหัศจรรย์จริงๆ!”
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ ก็พูดพึมพำออกมา
พอเขาเปลี่ยนท่ามือ สายรุ้งกระบี่สีทองทั้งเก้าที่อยู่ไม่ไกลก็พุ่งกลับมา และรวมตัวกันเป็นกระบี่เล็กสีทองเล่มหนึ่งอีกครั้ง
ครู่ต่อมา ลูกเปลวไฟอันร้อนแรงก็ก่อตัวบนปลายนิ้วของเขา พอเขาร่ายคาถา นิ้วทั้งสิบก็ดีดออกไปเบาๆ และลูกเปลวไฟก็พุ่งใส่กระบี่เล็กสีทอง “ฟู่!”
ฉากน่าประหลาดใจได้บังเกิดขึ้นแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา