พอได้ยินคำพูดที่ไม่มีต้นสายปลายเหตุของอินจิ่วหลิง ในใจหลิ่วหมิงก็เต็มไปด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่าที่ประมุขนิกายยอดบริสุทธิ์ลงมือทดสอบเขา มีวัตถุประสงค์ใดกันแน่
แต่ดูจากสีหน้าของอินจิ่วหลิงในเมื่อครู่แล้ว เห็นได้ชัดว่าอาจารย์รู้ต้นสายปลายเหตุเป็นอย่างดี
ขณะที่หลิ่วหมิงกำลังมองดูทิศทางที่เทียนเกอเจินเหรินจากไปด้วยสีหน้าครุ่นคิดนั้น น้ำเสียงของอินจิ่วหลิงก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
“เมื่อครู่ท่านประมุขเพียงแค่ทำทดสอบเล็กน้อยเท่านั้น งานประตูสวรรค์ในอีกสองปีข้างหน้า ทางนิกายตัดสินใจให้เจ้ากับศิษย์นิกายสายในอีกหลายคนที่มีการฝึกฝนต่ำกว่าระดับแก่นแท้เข้าร่วม หากเจ้าสามารถสร้างผลงานในงานประตูสวรรค์ได้ ถึงเวลานั้นทางนิกายย่อมตบรางวัลให้อย่างงาม”
“งานประตูสวรรค์!” หลิ่วหมิงหันตัวกลับมาด้วยใจที่เต้นแรง และกล่าวด้วยความประหลาดใจ
เรื่องราวเกี่ยวกับงานประตูสวรรค์ เขาไม่รู้ที่มาของมันเลยแม้แต่น้อย จำได้ว่านอกวังมายานภาหยกในปีนั้น ชายหนุ่มเผ่าปีศาจเคยพูดถึงงานประตูสวรรค์อยู่ แต่ว่าตอนนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้ คิดไม่ถึงว่าตอนนี้กลับได้เป็นตัวแทนนิกายยอดบริสุทธิ์ไปร่วมงานนี้
แม้หลิ่วหมิงจะรู้สึกฉงนเป็นอย่างมาก แต่ในเมื่อเป็นคำสั่งของนิกาย ทั้งยังมีการอนุญาตจากอาจารย์อินจิ่วหลิง เขาย่อมไม่อาจปฏิเสธได้ หลังจากคิดไตร่ตรองอย่างรวดเร็วแล้ว ก็ตอบกลับไปอย่างนอบน้อม
“ได้เข้าร่วมงานประตูสวรรค์ ถือว่าเป็นโชคดีของศิษย์ ศิษย์จะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อนิกายของเรา”
“ดีมาก! แต่ว่าในระยะเวลาสั้นๆ แค่ยี่สิบกว่าปีที่ไม่ได้เจอกัน เจ้าสามารถทะลวงระดับได้ถึงสองขั้น มันก็เหนือความคาดหมายของข้าไปมากแล้ว เดิมทีคิดว่าหากเจ้ายังมีการฝึกฝนที่ระดับผลึกขั้นต้นล่ะก็ ข้าอาจจะลังเลเรื่องนี้เล็กน้อย เพราะแม้ว่าการเข้าร่วมงานประตูสวรรค์จะได้ประโยชน์ไม่น้อย แต่ก็อันตรายไม่เบาเช่นกัน เพียงแค่ไม่ระวัง ก็อาจจะเสียชีวิตในนั้นได้ แต่ถ้าเป็นตอนนี้ล่ะก็ ข้าก็วางใจเป็นอย่างมากแล้ว หลายปีมานี้เจ้าสามารถบรรลุระดับผลึกขั้นปลายได้ ดูท่าคงจะมีโอกาสดีไม่น้อย” อินจิ่วหลิงเห็นหลิ่วหมิงตอบรับอย่างเต็มปากเต็มคำ เขาก็ค่อนข้างรู้สึกพอใจมาก หลังจากสังเกตดูอีกสองทีแล้ว ก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที
“บอกอาจารย์อย่างไม่ปิดบัง หลายปีมานี้ศิษย์ได้พบโอกาสอันดีในหนานฮวงค่อนข้างมาก” หลิ่วหมิงอธิบายไปสองประโยค
ก่อนมาที่นี่เขาได้เก็บเคล็ดวิชาภาพสัญลักษณ์เชอฮ่วนเข้าไปแล้ว เพราะหากจงใจปิดบังระดับการฝึกฝนต่อหน้าอาจารย์ อาจจะปล่อยไก่ออกมาได้
แม้ว่าเคล็ดวิชาภาพสัญลักษณ์นี้จะสามารถปิดบังการรับรู้ของระดับดาราสวรรค์ทั่วไปลงมาได้ แต่ว่าอินจิ่วหลิงมีสถานะเป็นหนึ่งในผู้ควบคุมยอดเขาของนิกายยอดบริสุทธิ์ ไหนเลยที่ผู้ฝึกฝนระดับแก่นแท้ทั่วไปจะสามารถเทียบได้ แม้จะบอกว่าสามารถสังหารผู้ฝึกฝนอิสระระดับดาราพยากรณ์ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยแม้แต่น้อย
“ในเมื่อมีโอกาสอันดีเช่นนี้ ก็เป็นความโชคดีของเจ้า ข้าเพียงแค่อยากจะเตือนสักหน่อย หากอาศัยโอสถเพิ่มพลังเวทอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า อาจส่งผลกระทบต่อการบรรลุระดับในภายหน้าของเจ้าเป็นอย่างมาก นอกจากนี้หากเจ้าพบปัญหาอะไรในการฝึกฝน ก็สามารถมาให้ข้าชี้แนะได้ตลอดเวลา” อินจิ่วหลิงได้ยินกลับกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ
“ขอบคุณอาจารย์ ศิษย์เข้าใจแล้ว” หลิ่วหมิงตอบกลับอย่างนอบน้อม
ต่อมาหลิ่วหมิงก็สอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับงานประตูสวรรค์อีกสองสามประโยค จากนั้นก็กล่าวลาอินจิ่วหลิงอย่างรีบร้อน และขี่เมฆไปยังหอเก็บคัมภีร์
ครึ่งวันต่อมา ภายหอเก็บคัมภีร์ หลิ่วหมิงค่อยๆ ปิดคัมภีร์เล่มหนึ่งลง และนำกลับไปวางไว้บนชั้นไม้
หลังจากตรวจสอบไปหนึ่งรอบ เขาถึงเข้าใจว่างานประตูสวรรค์คืออะไรกันแน่
ที่แท้งานประตูสวรรค์ที่พูดถึง เป็นงานประลองใหญ่ที่กลุ่มอิทธิพลลึกลับที่เรียกว่า ‘วังสวรรค์’ ที่มีมาแต่บรรพกาล เป็นผู้ดำเนินการ
ตามที่กล่าวไว้ในคัมภีร์ ทุกๆ แปดร้อยปี ‘วังสวรรค์’ จะเปิดแดนลึกลับแห่งหนึ่งที่เรียกว่าประตูสวรรค์ และส่งเทียบเชิญไปยังนิกาย และตระกูลใหญ่ต่างๆ ในแผ่นดินจงเทียนตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ให้เข้าร่วมทำการประลองแย่งชิงโอกาสอันดีและชะตาชีวิต
และผู้ที่เข้าไปในแดนลึกลับประตูสวรรค์ จะต้องเป็นศิษย์ระดับแก่นแท้ลงมาที่มีอายุไม่เกินหนึ่งร้อยปีเท่านั้น
ว่ากันว่าในแดนลึกลับประตูสวรรค์มีสมบัติและวัตถุจิตวิญญาณชนิดต่างๆ มากมาย แม้กระทั่งยังมีซากของนิกายในสมัยบรรพกาลกับผนึกสืบสานอยู่ในนั้นด้วย และผู้ชิงสมบัติยิ่งมีมาก ก็จะได้รับโชคมากขึ้นด้วย
ใครก็ตามที่สามารถคว้าโชคในแดนลึกลับได้มาก นิกายที่สังกัดก็จะรับความรุ่งเรืองในระยะเวลาหนึ่งพันปีด้วย และนิกายที่คว้าโชคได้น้อย ก็จะเกิดภัยพิบัติในช่วงระยะเวลาหนึ่งพันปีหลังจากนี้อยู่ไม่หยุด ทำให้อิทธิพลลดลงไปมาก
แม้ว่าสี่ยอดนิกายใหญ่ และผู้ทรงพลังในกลุ่มอิทธิพลชั้นนำต่างๆ จะค่อนข้างรู้สึกประหลาดใจและฉงนสนเท่ห์กับเรื่องนี้มาก จนลงมือตรวจสอบเส้นสนกลในของวังสวรรค์อยู่หลายครั้ง แต่ทั้งหมดก็กลับมาอย่างไร้ประโยชน์ รู้แค่ว่าวังสวรรค์ที่ลึกลับเป็นพิเศษนี้ ก็มีผู้ทรงพลังระดับเชี่ยวชาญมหัศจรรย์ประจำการอยู่เช่นกัน ทั้งยังไม่ได้มีแค่คนเดียว จะต้องไม่ใช่เรื่องที่สามารถดูถูกได้
ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าก็คือ คนของวังสวรรค์จะปรากฏตัวในการเปิดแดนลึกลับประตูสวรรค์ในแต่ละครั้ง และก็หายไปอย่างลึกลับหลังจากแดนลึกลับประตูสวรรค์ปิดลง แม้ว่านิกายต่างๆ จะใช้วิชาเสี่ยงทายตามผังปากว้าตรวจสอบเรื่องนี้ ก็ไม่อาจทำนายออกมาได้
เวลานานเข้า เมื่อเห็นว่าผู้เข้าร่วมงานประตูสวรรค์ไม่มีผลกระทบอันใดต่อนิกายต่างๆ การส่งคนเข้าร่วมในทุกๆ แปดร้อยปีจึงกลายเป็นเรื่องที่ต้องทำสำหรับกลุ่มอิทธิพลใหญ่ต่างๆ มิเช่นนั้นต่อให้จะเป็นนิกายใหญ่ หากโชคร้ายติดต่อกันหลายปี ก็รู้สึกรับไม่ไหวเช่นกัน
งานประตูสวรรค์ในครั้งที่แล้ว นิกายยอดบริสุทธิ์ชิงมาได้แค่อันดับสามเท่านั้น อยู่อันดับหลังของนิกายเทียนกง นิกายปีศาจลี้ลับ ซึ่งอยู่หน้าสำนักเฮ่าหรานเท่านั้น
จากคำพูดของอินจิ่วหลิง งานประตูสวรรค์ในครั้งนี้ สถานการณ์ของนิกายยอดบริสุทธิ์แย่กว่าครั้งก่อนมาก เพราะงานประตูสวรรค์ตรงกับช่วงที่ศิษย์สายในของนิกายยอดบริสุทธิ์ขาดแคลน ศิษย์เก่งกาจหลายคน หากไม่อายุเกิน ก็เพิ่งบรรลุระดับแก่นแท้ ซึ่งล้วนแต่ไม่อาจเข้าร่วมได้
มิเช่นนั้นเรื่องนี้คงมาไม่ถึงมือหลิ่วหมิงที่เพิ่งกลายเป็นศิษย์สายในในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เช่นนี้
เพราะการที่ได้เข้าร่วมงานประตูสวรรค์ แม้ว่าจะมีอันตรายเป็นอย่างมาก แต่ว่าแดนลึกลับประตูสวรรค์ก็มีโอกาสอันดีมากมานเช่นกัน อีกอย่างหากช่วยนิกายคว้าโชคมาได้ล่ะก็ ทางนิกายจะต้องตอบแทนให้อย่างงามแน่นอน
“อายุไม่เกินหนึ่งร้อยปี ระดับแก่นแท้ลงมา!” หลิ่วหมิงพูดพึมพำออกมา และรู้สึกโล่งใจขึ้นมามาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา