ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 79

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 79 เรื่องยุ่งยาก
ตอนที่ 79 เรื่องยุ่งยาก
โดย
Ink Stone_Fantasy
“ดูเหมือนนายท่านตระกูลไป๋ผู้นี้จะมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าข้าคงไม่ผิดใจกันกับตระกูลไป๋เพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ แต่มันก็เป็นแค่การหมั้นเท่านั้น ตอนนี้ข้าเป็นศิษย์จิตวิญญาณขั้นปลายแล้ว ขอแค่สามารถเข้าไปอยู่ในศิษย์แกนนำได้ ต่อให้ตระกูลไป๋จะเปิดโปงสถานะของข้าทางนิกายก็คงไม่ลงโทษร้ายแรงอะไร และถ้าหากกลายเป็นอาจารย์จิตวิญญาณได้ล่ะก็ คาดว่านิกายปีศาจยิ่งไม่สนใจเรื่องนั้นเข้าไปใหญ่” หลิ่วหมิงกล่าวพึมพำโดยได้วางแผนไว้ในใจแล้ว

เดือนต่อมา ขณะที่หลิ่วหมิงกำลังปรับพลังเวทย์ในร่างให้มั่นคงพอประมาณแล้ว เสียงระฆังเรียกประลองเล็กก็ดังมาจากบนเขาเก้าทารก

พอหลิ่วหมิงได้ยินก็รีบไปยังลานกว้างบนยอดเขาโดยไม่ชักช้า

การประลองเล็กในครั้งนี้นอกจากกุยหรูฉวนแล้ว ก็ไม่เห็นวี่แววการปรากฏตัวของจูชื่อกับนักพรตจงเลย

และการประลองก็ดูรีบร้อนกว่าครั้งก่อนมาก กุยหรูฉวนที่ทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการประลองก็ดูเหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

การประลองครั้งนี้ การฝึกฝนของศิษย์เก่าเหล่านั้นไม่ค่อยก้าวหน้าเท่าไหร่ แต่วั่นเสี่ยวเชี่ยนที่เป็นศิษย์ใหม่กลับก้าวเข้าสู่ระดับศิษย์จิตวิญญาณขั้นกลางแล้ว เซวียซานยังติดแหง็กอยู่ที่ระดับศิษย์จิตวิญญาณขั้นต้นอยู่ การฝึกฝนของเขาไม่รุดหน้าเลยแม้แต่น้อย ทำให้เขาดูเหงาหงอยเศร้าซึมขึ้นมา

สำหรับศิษย์เก้าชีพจรจิตวิญญาณอย่างเซียวเฟิงนั้น ถึงแม้ตอนที่แสดงวิชาจะเห็นได้ชัดว่ายังอยู่ในระดับศิษย์จิตวิญญาณขั้นกลาง แต่กลิ่นไอพลังกลับดูแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมาก ดูเหมือนว่าจะห่างจากระดับศิษย์จิตวิญญาณขั้นปลายไม่มากแล้ว

ส่วนตัวหลิ่วหมิงเอง ก็ระงับกลิ่นไอพลังของตัวเองให้อยู่ที่ระดับศิษย์จิตวิญญาณขั้นกลาง ทั้งยังผ่านการทดสอบทั้งสามรอบไปอย่างลวกๆ โดยแกล้งแสดงออกมาดีกว่าครั้งก่อนเล็กน้อยเท่านั้น

รางวัลเล็กน้อยในการประลองเล็กนี้ มันไม่ค่อยสำคัญสำหรับเขาแล้ว เขาจึงไม่คิดที่จะแสดงพลังที่แท้จริงออกมาให้เป็นที่สนใจมากนัก

มิเช่นนั้นระดับการฝึกฝนของศิษย์สามชีพจรจิตวิญญาณที่รวดเร็วกว่าศิษย์เก้าชีพจรจิตวิญญาณนี้อาจนำความยุ่งยากมาให้ได้

ดีที่กุยหรูฉวนไม่ได้ให้ความสนใจการประลองเล็กในครั้งนี้เหมือนกับครั้งก่อน มิเช่นนั้นถึงแม้หลิ่วหมิงจะระงับกลิ่นไอของพลังไว้ได้ ก็ไม่รับรองว่าจะปิดบังต่อไปได้

หลังผลการประลอง เขาได้รับโอสถฟื้นฟูพลังเวทย์หนึ่งขวด แล้วก็ลงเขาไปพร้อมกับศิษย์คนอื่นๆ

แต่พอกลับถึงที่พัก กลับมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญผู้หนึ่งรออยู่ที่นั่นก่อนแล้ว

“ศิษย์พี่มู่!” หลิ่วหมิงเรียกชื่อหญิงสาวตรงหน้าด้วยความรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

“ศิษย์น้องไป๋ไม่คิดที่จะเชิญข้าเข้าไปนั่งข้างในสักหน่อยหรือ?” หญิงนางนี้ยิ้มอย่างสวยงาม

“ศิษย์น้องเสียมารยาทแล้ว ศิษย์พี่เชิญ!” หลิ่วหมิงรีบเก็บอาการให้สงบลงอย่างรวดเร็ว เขาเชิญหญิงสาวเข้ามาในห้องแล้วพาไปยังห้องโถงที่อยู่ด้านข้างของที่พัก

“ศิษย์น้อง ที่นี่เรียบง่ายมากเลย!” พอมู่อวิ๋นเซียนสังเกตดูรอบด้านเล็กน้อยก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา

ห้องโถงที่ใช้รับแขกโดยเฉพาะนี้ นอกจากมีโต๊ะไม้หนึ่งตัวกับเก้าอี้สองสามตัวแล้วก็ไม่มีสิ่งของใดจัดวางอยู่เลย

“ศิษย์น้องสนใจแต่การฝึกฝน ไม่ค่อยใส่ใจกับสิ่งของภายนอกมากนักทำให้ศิษย์พี่ท่านขบขันเสียแล้ว ใช่สิ! ศิษย์พี่มู่มาหาข้าครั้งนี้มีเรื่องสำคัญอันใดหรือ?” หลิ่วหมิงผายมือเชิญหญิงสาวนั่งลงไปแล้วกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม

“ศิษย์น้องไป๋ มู่หมิงจูเจ้าเด็กคนนี้ได้มาหาศิษย์น้องเมื่อหลายวันก่อนใช่หรือไม่” มู่อวิ๋นเซียนถามออกมาตรงๆ

“แม่นางมู่หมิงจูเคยมาหาข้าครั้งหนึ่ง” หลิ่วหมิงตอบกลับไปตามจริงโดยไม่รู้สึกแปลกใจ

“ดูเหมือนศิษย์น้องจะทราบเรื่องที่พี่ชายข้ารับหมั้นเจ้ากับมู่หมิงจูแล้ว” มู่อวิ๋นเซียนได้ยินก็มีสีหน้าคลี่คลายลง

“เดิมทีก็ไม่ทราบ แต่เมื่อมู่หมิงจูมาหาข้าเช่นนี้ข้าถึงได้ทราบ เรื่องการแต่งงานครั้งนี้ใครเป็นคนหยิบยกขึ้นมาก่อน ถ้าหากไม่มีคนออกหน้าข้าไม่เชื่อว่าทั้งสองตระกูลจะให้ข้ากับมู่หมิงจูหมั้นหมายกัน” หลิ่วหมิงยิ้มอย่างขมขื่น

“ทำไมล่ะ! หรือว่าศิษย์น้องคิดจะหาตัวคนผู้นั้นเพื่อกล่าวขอบคุณหรือ?” มู่อวิ๋นเซียนหัวเราะออกมาเบาๆ

“หรือว่าคนผู้นั้นก็คือศิษย์พี่?” หลิ่วหมิงเห็นใบหน้ายิ้มแย้มที่แฝงไปด้วยแววเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายก็ฉุกคิดขึ้นได้ฉับพลัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา