เสียงปังดังขึ้นหนึ่งหน
ลำแสงสีดำสายหนึ่งพุ่งออกมาจากกลางฝ่ามือ มันกะพริบทีหนึ่งก็จมหายไปกลางอากาศ
ครู่ต่อมาเงาโคสีน้ำเงินก็ร้องคำราม ร่างกายขยายใหญ่ยักษ์พรวดพราดในทันใด หลังมันพร่าเลือนหลายหนก็มีขนาดใหญ่ยักษ์ถึงสามสี่สิบจ้าง ดวงตาสองข้างสีแดงดุจโลหิต อ้าปากสีแดงออกกว้างพุ่งไปข้างหน้า
เสียง “บึ๊ม” ดังขึ้นหนหนึ่ง แสงเรืองรองสีเหลืองแถบหนึ่งซัดออกไปกลบผืนดินปิดผืนฟ้า จุดที่ผ่านไปหมอกโลหิตสีเลือดทั้งหมดถูกหอบม้วนกระชากลงไปในท้องของมัน
ถึงขนาดที่หนอนประหลาดหลายสิบตัวที่เหลืออยู่สักตัวก็หลบไม่พ้น กว่าครึ่งในนั้นถูกแสงสีเหลืองหอบเข้าไปด้านใน สูดเข้าไปในเงาร่างมหึมา
“ไม่ พลังกลืนฟ้า เป็นจู๋เสินจริงๆ!” หนอนประหลาดสิบกว่าตัวที่เหลืออยู่เห็นเช่นนี้ ตัวหนึ่งในนั้นก็กรีดร้องโหยหวน หลังจากนั้นหนอนประหลาดทั้งหมดก็หันหลังกลับหนีเตลิดไปสี่ด้านแปดทิศ
ทว่าเซียเอ๋อร์กับหัวบินที่อยู่ใกล้ๆ รวมถึงชายหนุ่มรถเงินที่ใบหน้ายินดียิ่งจะปล่อยเสือเข้าป่าได้อย่างไร สายลมสีเหลือง เปลวเพลิงสีเทาและเงากระบี่ซัดออกมาอย่างบ้าคลั่งระลอกหนึ่งทันที โจมตีหนอนประหลาดสิบกว่าตัวนี้ระเบิดกลายเป็นหมอกโลหิตสายแล้วสายเล่าเช่นเดียวกัน
แสงสีเหลืองกวาดผ่านมา หมอกโลหิตเหล่านี้ก็ถูกเงาโคสีน้ำเงินดูดไปหมดสิ้นดุจเดียวกัน
แม้กั้นขวางด้วยแสงสีน้ำเงินขมุกขมัว พวกหลิ่วหมิงก็ยังมองเห็นชัดเจน ไม่ว่าหมอกโลหิตหรือหนอนประหลาดมีชีวิตที่เงาโคสีน้ำเงินสูดเข้าไป เมื่อแสงสีน้ำเงินดวงแล้วดวงเล่ากะพริบด้านในเงาไม่กี่หน พวกมันก็ละลายสลายไปอย่างรวดเร็ว เวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจทั้งหมดก็ถูกกำจัดเกลี้ยงไม่เหลืออยู่อีกต่อไป
ท้ายที่สุดด้านในเงาโคสีน้ำเงินก็เหลือเพียงสิ่งที่หน้าตาเหมือนลูกแก้วสีดำขมุกขมัวขนาดเท่ากำปั้นลูกหนึ่งที่รอบด้านมีไอหมอกสีดำจางๆ สายแล้วสายเล่าวนล้อมอยู่ ผิวหน้ามีลวดลายจิตวิญญาณบิดเบี้ยวรูปลูกอ๊อดแผ่อยู่เต็ม ดูแล้วประหลาดทีเดียว
นี่คือ…
สองตาหลิ่วหมิงจ้องมองลูกแก้วอยู่ชั่วครู่ หลังยืนยันแล้วว่ามันไม่มีอันตรายอันใดถึงกวักมือข้างหนึ่งกับอากาศให้มันบินออกจากเงามาในพริบตา เมื่อมันหล่นลงในมือเขาอย่างมั่นคง เขาก็มองสำรวจบนจรดล่างอย่างละเอียด
“นี่อาจเป็นแก่นปีศาจของสัตว์ประหลาดที่เรียกตัวเองว่าเผ่าหนอนผีเสื้อตัวนั้นหรือไม่?” หลังชายหนุ่มรถเงินกวาดสายตาผ่านลูกแก้วกลมก็เอ่ยคาดเดา
“อืม เป็นไปได้จริงๆ” หลิ่วหมิงมองไม่เห็นสิ่งแปลกประหลาดอันใด เพียงสัมผัสได้ถึงพลังงานแข็งแกร่งบางอย่างที่บรรจุอยู่ด้านในเท่านั้น จึงพยักหน้าเหมือนคิดอะไรบางอย่างอยู่
เผ่าหนอนผีเสื้อหน้าตาเหมือนเผ่าปีศาจ พลังของร่างแยกร่างนี้ก็บรรลุถึงระดับแก่นแท้ สิ่งที่ก่อกำเนิดขึ้นในร่างก็น่าจะคล้ายกับแก่นแท้กระมัง
มือข้างหนึ่งของหลิ่วหมิงพลิกหมุนเก็บของในมือไปอย่างไม่เกรงใจสักนิด
ชายหนุ่มรถเงินยิ้มเล็กน้อย เห็นชัดว่าไม่ใส่ใจเรื่องนี้แต่อย่างใด
ในเวลาเดียวกันเงาโคสีน้ำเงินยักษ์ก็กะพริบวูบหนึ่งแล้วสลายไป หัวบินกับเซียเอ๋อร์ก็บินมาถึงตรงหน้าคำนับหลิ่วหมิงอย่างนอบน้อมอีกหน
“ครั้งนี้ลำบากพวกเจ้าแล้ว” หลิ่วหมิงพยักหน้าให้เด็กน้อยกับสตรีสาว เขาใช้เคล็ดวิชาด้วยมือเดียว ทั้งสองตัวก็กลายเป็นหมอกสีดำสองสายมุดเข้าไปในถุงหนังข้างเอว
ร่างแปลงอาภรณ์ทองด้านข้างกะพริบวูบหนึ่งก็จมเขาไปในร่างของหลิ่วหมิงหายไปไม่เห็นร่องรอย
ชายหนุ่มรถเงินเห็นเช่นนี้ ในดวงตาก็ฉายประกายประหลาด จากนั้นจึงหันไปมองภาพเละเทะรอบด้านอีกหนแล้วอดไม่ได้ถอนหายใจเอ่ยขึ้นว่า
“ครั้งนี้พวกเราสังหารสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้ง่ายดายเช่นนี้ต้องขอบคุณวิชาลับของสหายหลิ่วจริงๆ ที่พอดีข่มพลังของมันได้ มิเช่นนั้นครั้งนี้คงโชคร้ายมากกว่าโชคดีแล้วจริงๆ น่าเสียดายก็แต่กระบี่บินจักรกลสองชุดนั้นกับรถเลี่ยหยางของข้า”
“ผู้แซ่หลิ่วก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าวิชาลับนอกรีตวิชาหนึ่งที่ร่ำเรียนมาอย่างไม่ตั้งใจเมื่อตอนนั้นจะพอดีข่มสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้ มิเช่นนั้นเริ่มแรกก็คงใช้ออกมาแล้ว ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้สหายเคยได้ยินเกี่ยวกับเผ่าหนอนผีเสื้อที่มันเอ่ยถึงหรือไม่?” หลิ่วหมิงยิ้มเจื่อนก่อนทีหนึ่งแล้วจึงเอ่ยถามข้อสงสัยออกมา
“ชื่อนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆ ในตำรานานาชนิดที่เคยอ่านก่อนหน้านี้ก็ไม่ปรากฏชื่อเผ่าพันธุ์นี้ คิดว่าคงเหมือนเผ่าตรีศูลโลหิต เป็นเผ่าประหลาดอันแข็งแกร่งบางเผ่าจากโลกอื่น” ชายหนุ่มรถเงินครุ่นคิดเล็กน้อยก็เอ่ยเช่นนี้
“อืม ก็คงเป็นเช่นนั้นจึงจะเข้าเค้า แค่ร่างแปลงเล็กๆ เหล่านี้ก็ครอบครองพลังน่าหวาดกลัวเช่นนี้ หากร่างต้นมาเองล่ะก็ ในสายตาพวกมัน พวกเราก็คงจะเป็นตัวตนประหนึ่งมดปลวกจริงๆ” หลิ่วหมิงพยักหน้าเหมือนคิดบางอย่าง
“ข้ากลับประหลาดใจอยู่บ้าง เหตุใดร่างแปลงของสัตว์ประหลาดต่างโลกเหล่านี้จึงปรากฏตัวในแดนลึกลับประตูสวรรค์ได้ ข้างนอกเกิดเรื่องอันใดขึ้นหรืออย่างไร?” ชายหนุ่มรถเงินกลับเอ่ยอย่างครุ่นคิด
“เกิดเรื่อง? น่าจะไม่ใช่หรอก ด้านนอกวังสวรรค์ไม่ใช่แค่ผู้อาวุโสมากมายของท่านและข้าล้วนอยู่กันพร้อมหน้า ตัววังสวรรค์เองก็มีผู้ที่พลังแข็งแกร่งระดับเชี่ยวชาญมหัศจรรย์ดูแลอยู่ ไหนเลยจะเกิดเรื่องอันใดได้” หลิ่วหมิงส่ายศีรษะช้าๆ
“สหายหลิ่วพูดถูกต้อง เรื่องจริงที่แท้เป็นอย่างไร รอพวกเราไปจากสถานที่บัดซบนี่ได้ก็คงรู้ แต่พูดถึงออกไป พวกเราสังหารคู่ต่อสู้ได้แล้วกลับยังไม่อาจออกไปจากที่แห่งนี้ได้ เกรงว่าเรื่องนี้คงมีเบื้องหลังอันใดบางอย่างอยู่กระมัง” หลังชายหนุ่มรถเงินพยักหน้าก็ถอนหายใจยาวเอ่ยออกมา
“ก่อนหน้านี้ เจ้าตรีศูลโลหิตตัวนั้นด้านนอกเคยบอกว่าที่แห่งนี้คือในร่างกายของมัน มันคล้ายอยากแยกพวกเราออกแล้วไล่กำจัดทีละคน พวกเราจะรออยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้เด็ดขาด อย่างไรก็ต้องคิดวิธีออกไปให้เร็วที่สุด ลองโจมตีแบบต่างๆ ดูก่อน ดูสิว่าจะแหวกที่แห่งนี้ออกไปได้หรือไม่” หลิ่วหมิงได้ฟังสีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นมา
“สหายหลิ่วพูดมีเหตุผล พวกเราลงมือกันเลยเถิด” ชายหนุ่มรถเงินได้ยินก็ไม่แย้งอย่างใด
ไม่นานหลังจากนั้น ในมิติแห่งนี้ก็มีเสียง “บึ๊ม” ดังสนั่นลอยออกมาอีกครั้ง
………
นอกแดนลึกลับประตูสวรรค์ นิกายใหญ่ต่างๆ รวมตัวกันอยู่บนยอดเขาหิมะอย่างพร้อมเพรียง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา