เสียง “บึ๊ม” ดังขึ้นทีหนึ่ง
ธงน้อยสีฟ้าอ่อนหกผืนที่ล้อมเป็นวงในค่ายกลฉับพลันปรากฏออกมา แสงสีฟ้าสว่างจ้าเกิดเป็นม่านแสงสีฟ้าชั้นหนึ่ง บนผิวหน้าปรากฏยันต์รูปหยดน้ำขนาดเท่ากำปั้นดวงแล้วดวงเล่า แผ่ปราณวารีสีฟ้าอ่อนสายแล้วสายเล่าออกมา
ชั่วพริบตาปราณวารีสายแล้วสายเล่าก็ผนึกรวมกันกลายเป็นทะเลสาบสีฟ้าผืนหนึ่งในค่ายกล คลื่นสีหยกกระเพื่อม ใสกระจ่างดั่งกระจก
อสูรกวางชะมดรู้สึกว่าแรงดันน้ำมหาศาลสายหนึ่งโถมเข้ามาจากสี่ด้านแปดทิศ ในดวงตาฉายแววประหลาดใจน้อยๆ ลายสีเทารอบร่างสว่างวูบ ร่างกายฉับพลันหายไปจากที่เดิม
เสียง “พรึ่บ” ดังขึ้นทีหนึ่ง
แสงสีเทาดวงหนึ่งฉับพลันส่องสว่างด้านในทะเลสาบสูงหลายจั้ง อสูรกวางชะมดปรากฏร่างอีกครั้ง
ด้วยการกักขังของค่ายกลปิดกั้นมิติธาตุน้ำนี้ พลังในการเคลื่อนย้ายชั่วพริบตาของอสูรตัวนี้จึงลดลงมาก ทำได้เพียงเคลื่อนย้ายออกไปเพียงไม่ถึงสิบจั้งเท่านั้น!
เฟิงชิงโม่เห็นสถานการณ์ก็ยินดียิ่ง โฉบร่างปรากฏตัวออกมาเช่นกัน สองมือตั้งท่าเคล็ดวิชาพร้อมกัน
เสียง “ฟึบๆ” ดังขึ้นสองหน
เคล็ดวิชาสีขาวสองสายพุ่งออกจากกลางฝ่ามือเขา กะพริบวูบเดียวก็มาถึงท้องฟ้าเหนืออสูรกวางชะมด ทันใดนั้นสองก็แบ่งเป็นสี่ สี่แบ่งเป็นแปด กลายเป็นหลายสิบสาย ทยอยจมลงไปรอบด้านค่ายกล
เสียงเปรี๊ยะๆ ดังออกมา!
ยันต์ที่ส่องแสงสีขาวขมุกขมัวแผ่นแล้วแผ่นเล่าใต้ดินระเบิดตามต่อกัน กลายเป็นพายุหมุนขนาดเล็กลูกแล้วลูกเล่าหมุนวนไม่หยุดทยอยพุ่งขึ้นฟ้า
เสียง “ฟู่ๆ” ดังลอยมา!
น้ำทะเลสาบสีฟ้าที่เดิมทีหยุดนิ่งไม่ขยับ ทันใดนั้นก็ปรากฏวังน้ำวนขนาดเล็กสิบกว่าลูก
ในเวลาเดียวกันรอบด้านค่ายกลแสงรัศมีสีฟ้าวงหนึ่งก็สว่างขึ้นอีกครั้ง ม่านแสงสีฟ้าอ่อนอีกชั้นหนึ่งก่อตัวขึ้นในพริบตา สีของน้ำทะเลสาบในค่ายกลเป็นสีฟ้าเข้มขึ้นกว่าก่อนหน้านี้หลายส่วน
อสูรกวางชะมดที่ถูกขังอยู่ในค่ายกลห้วงนทียังคงกระตุ้นพลังเคลื่อนชั่วพริบตา หายวับหนีไปริมค่ายกล คิดอยากหนีออกไปจากข้างใน
แต่หลังค่ายกลห้วงนทีชั้นที่สองถูกกระตุ้น ระยะทางที่อสูรตัวนี้เคลื่อนย้ายชั่วพริบตาได้ก็ลดลงอีกหนึ่งในสาม เหลือเพียงสี่ห้าจั้งเท่านั้นแล้ว
ขณะที่อสูรกวางชะมดว่างเปล่าปรากฏตัวขึ้นหลังหายตัวไปอีกครั้ง มีดสายลมนับไม่ถ้วนก็พุ่งมากมายถี่ยิบออกมาจากในน้ำวนโจมตีบนร่างที่ล้อมด้วยหมอกสีเทาของอสูรตัวนี้
“บึ๊มมม” เสียงระเบิดดังออกมา รัศมีสีขาวกับแสงสีเทาเกี่ยวกระหวัดอยู่ด้วยกัน
วิชาวายุสะบั้นในฐานะยันต์โจมตีระดับกลาง พลังย่อมไม่อาจดูแคลน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อยี่สิบกว่าแผ่นทำงานพร้อมกัน แม้ไอหมอกสีเทาที่ล้อมรอบอสูรกวางชะมดจะขวางมีดสายลมส่วนใหญ่ไว้ได้ แต่ภายใต้การโจมตีที่ต่อเนื่องไม่ขาดสาย ร่างกายก็ยังคงถูกมีดสายลมส่วนหนึ่งฟัน เลือดสายแล้วสายเล่าพุ่งกระฉูดออกมาทันที ร่างกายโงนเงนจะล้มอยู่บ้าง
อสูรกวางชะมดได้รับความเจ็บปวด สองตาสีเขียวหยกก็พลันเปลี่ยนเป็นสีเลือด ขนบนร่างแต่ละเส้นๆ ตั้งชัน หลังร้องเสียงแหลมทีหนึ่งก็อ้าปากพ่นปราณสีเทาผืนใหญ่ทะลักออกมาซ่อมแซมเกราะปราณสีเทารอบร่าง
“อสูรตัวนี้เคลื่อนย้ายชั่วพริบตาต่อเนื่องหลายหนผลาญพลังเวทไปไม่น้อย! นายน้อย ค่ายกลห้วงนทีชั้นอื่นยังต้องการเวลาอีกครู่หนึ่งถึงจะทำงานอย่างสมบูรณ์ ดีที่สุดถ่วงเวลาไว้อีกสักหน่อย” ผู้เฒ่าอ้วนตะโกนเสียงดังบอกผู้ฝึกฝนชุดขาว สองมือขยับทำท่าเคล็ดวิชารัวอีกครั้ง เคล็ดวิชาสีฟ้าสายแล้วสายเล่าพุ่งออกมาต่อเนื่องไม่ขาด
ธงค่ายกลสีฟ้าอ่อนผืนแล้วผืนเล่าในค่ายกลถูกกระตุ้นหลังเคล็ดวิชาจมลงไป ขอบค่ายกลส่องแสง ม่านแสงสีฟ้าอ่อนอีกสองชั้นเริ่มทำงาน ทำให้สีของน้ำทะเลสาบด้านในค่ายกลเข้มขึ้นไม่น้อยอีกครั้ง
เฟิงชิงโม่ไม่เอ่ยตอบ แต่เคล็ดวิชาในสองมือเปลี่ยนแปลงไม่หยุด ควบคุมน้ำวนมีดสายลมขนาดเล็กสิบกว่าลูกในค่ายกลให้มารวมกันตรงกลางในทันใด จากนั้นมีดสายลมแวววาวมากกว่าเดิมก็พุ่งเร็วรี่ออกมาทันที
กวางชะมดว่างเปล่าเผชิญหน้ากับการกักขังของค่ายกลใหญ่หลายชั้น ผนวกกับต้องอ้าปากพ่นปราณสีเทาต้านการโจมตีของมีดสายลมไม่หยุด ชั่วขณะหนึ่งจึงไม่อาจใช้วิชาลับเคลื่อนย้ายชั่วพริบตาได้อีก
ทว่าเมื่อมีดสายลมมากมายโจมตีปราณสีเทาคุ้มร่างของอสูรกวางชะมดทลายอีกหน ทิ้งรอยเลือดเส้นแล้วเส้นเล่าไว้ อสูรตัวนี้ก็คำรามเสียงดัง เขาคู่หนึ่งเหนือหัวสั่นระริก ทันใดนั้นลวดลายจิตวิญญาณสีเทาสลับดำก็ส่องแสงสว่างจ้า
เสียง “เปรี๊ยะ” ดังขึ้นทีหนึ่ง!
แสงสายฟ้าสีเทาสายหนึ่งปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าตรงกลางระหว่างเขา ชั่วพริบตาผนึกรวมเป็นลูกบอลสายฟ้าสีเทาลูกหนึ่ง มันหมุนติ้วรอบหนึ่ง จากนั้นแสงสายฟ้าเจิดจ้าก็ส่งเสียงอสนีบาตคำรนดังสนั่นในทันที!
หลังเสียง “เปรี้ยง” ดังขึ้น ลูกบอลสายฟ้าพลันกลายเป็นตาข่ายสายฟ้าผืนหนึ่งบินเข้าไปวังน้ำวนหลายลูก
มีดสายลมแวววาวสัมผัสถูกตาข่ายอสนีบาตสีเทาปุบก็กระจุยทันทีอย่างประหลาด ทยอยกลายเป็นแสงจิตวิญญาณจุดแล้วจุดเล่าพังทลาย
พร้อมกับที่ตาข่ายสายฟ้าก่อตัวขึ้นกะทันหัน เส้นสายฟ้าหนาหลายเส้นก็แลบแปลบปลาบ
หลังเสียงอสนีบาตดังขึ้นสองสามครั้ง น้ำวนมีดสายลมหลายลูกก็สลายไปพร้อมกับเสียง
ในเวลาเดียวกันนั้นระหว่างกลางเขาของอสูรตัวนี้ก็ผนึกลูกบอลอสนีบาตสีเทาลูกหนึ่งออกมาอีกหน มันกระพริบวูบหนึ่งแล้วกลายเป็นตาข่ายสายฟ้ายักษ์ครอบลงไป
เสียงอสนีบาตดังขึ้นไม่ขาด สองลมหายใจผ่านไปน้ำวนมีดสายลมด้านล่างก็หายไปไร้ร่องรอยจากน้ำในทะเลสาบ
ค่ายกลห้วงนทีเวลานี้เพิ่งทำงานไปถึงชั้นที่ห้าด้วยการกระตุ้นของผู้เฒ่าอ้วน
อสูรกวางชะมดว่างเปล่าหลุดจากการโจมตีของมีดสายลมปุบ รัศมีสีเทารอบร่างก็สว่างวูบ หายตัวไปจากที่เดิมทันที แต่เมื่อปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งกลับเคลื่อนย้ายชั่วพริบตาห่างจากที่เดิมมาได้เพียงสองสามจั้ง
ทว่าอสูรตัวนี้อยู่ห่างจากขอบค่ายกลแค่เพียงสิบกว่าจั้งเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา