แม้หน้าตาไม่เปลี่ยนไปเท่าไร แต่เส้นผมกลายเป็นครึ่งเทาครึ่งขาว ไม่เหลือสีดำมันเงาแต่เดิมแม้แต่น้อย
“ไม่เป็นไร ตรงนี้ไม่มีอันตรายใดแล้ว พวกเจ้าสองตัวไปฝึกฝนก่อนเถิด ข้าจะโคจรปราณสักพัก” หลิ่วหมิงสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ฟื้นกลับมาเป็นปกติในทันที แล้วหันไปพูดกับอสูรเลี้ยงทั้งสองตัว
“รับคำสั่ง นายท่าน”
เฟยเอ๋อร์กับเซียเอ๋อร์เห็นหลิ่วหมิงไม่เป็นอะไรมากจริงๆ จึงวางใจเช่นกัน หลังคำนับอย่างนอบน้อมทีหนึ่ง ต่างคนก็ไปหามุมเริ่มฝึกฝนพลังของตนเอง
หลังหลิ่วหมิงหยิบโอสถจินหยวนเม็ดหนึ่งออกมากลืนลงไป พลังเวทในทะเลจิตวิญญาณที่แห้งเหือดไปก็ค่อยๆ ฟื้นกลับมาบ้าง พร้อมกันนั้นในใจเขาก็รู้สึกยินดี รู้สึกว่าประสบคราวเคราะห์ใหญ่แต่รอดตาย
หากฟองอากาศลึกลับดูดซับนานขึ้นอีกพักหนึ่ง ต่อให้เขาไม่ตาย ชีวิตในร่างก็คงถูกทำลายไปมากอย่างที่สุด
หลิ่วหมิงกระตุ้นพลังเวทชักนำพลังจิตวิญญาณให้ไหลเข้าสู่สี่แขนขาร้อยกระดูกทันที เส้นผมสีขาวดอกเลาจึงค่อยๆ ฟื้นกลับมาเป็นสีดำขลับ ความรู้สึกวิงเวียนศีรษะก็ค่อยๆ หายไป
ครึ่งชั่วยามให้หลังเขาก็หยุดนั่งสมาธิจากนั้นลุกขึ้นยืนอย่างปลอดโปร่ง
เวลานี้รูปลักษณ์ภายนอกของเขาเกือบฟื้นคืนกลับสภาพเดิมแล้ว แต่อารมณ์กลับหนักอึ้งอย่างยิ่ง!
ตอนที่นั่งสมาธิเมื่อครู่เขาลอบสำรวจสภาพภายในร่างรอบหนึ่ง พบว่าอายุขัยที่เสียไปครั้งนี้มากกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้ามาก อย่างน้อยก็เสียไปเกือบห้าหกสิบปี
จากที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ด้วยพลังระดับผลึกขั้นปลายของเขา สมควรจัดการกับการดูดกลืนพลังเวทครั้งนี้ได้อย่างเหลือเฟือ
ตอนนี้เกิดเรื่องที่ทำให้อายุขัยของเขาเสียหายหนัก เห็นชัดว่ากรงขังลึกลับนี่เกิดสิ่งผิดปกติบางอย่างที่เขาไม่รู้ขึ้นแล้ว
“ผู้อาวุโสหลัวโหวเชิญออกมาพบหน้ากันหน่อย! ผู้เยาว์มีเรื่องบางอย่างต้องการขอคำชี้แนะเล็กน้อย” หลังหลิ่วหมิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ประสานมือเอ่ยเสียงดังใส่พื้นที่ว่างเปล่าสีเทาขมุกขมัว
“ไม่ต้องเสียงดังเช่นนี้ ข้าได้ยินแล้ว” เงาคนพร่าเลือนวูบหนึ่ง หลัวโหวก็โผล่ออกมาเบื้องหน้า เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
“ผู้อาวุโสหลัว…” หลิ่วหมิงสูดลมหายใจลึกเฮือกหนึ่ง กำลังคิดจะพูดอะไรบางอย่าง
“ไม่ต้องพูดมาก สถานการณ์เมื่อครู่ข้าเห็นแล้ว” หลัวโหวโบกมือห้ามไม่ให้หลิ่วหมิงพูด จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นนิ่งๆ
หลิ่วหมิงอ้าปาก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกไปอีก
ในเมื่ออีกฝ่ายพูดเช่นนี้ ดูท่าคงจะบอกสาเหตุของเรื่องนี้ให้ฟังแน่
หลัวโหวเงียบไปชั่วครู่บนใบหน้าถึงปรากฏสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อยขณะที่เอ่ยขึ้นช้าๆ
“เดิมทีคิดว่าผ่านไปอีกสักพักจะบอกเจ้า แต่ตอนนี้ดูท่า ไม่พูดคงไม่ได้แล้ว ต้องคุยกับเจ้าดีๆ สักหน่อย”
“เชิญผู้อาวุโสคลายข้อสงสัย!”
หลิ่วหมิงขมวดคิ้ว หลังประสานมืออีกครั้ง ในใจก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีอยู่เลือนราง
“ที่จริงเรื่องนี้จะว่าไปแล้วก็ไม่มีอะไรซับซ้อน ก็แค่จิตวิญญาณอาวุธที่แท้จริงของกรงขังกำลังจะตื่น ดังนั้นพลังเวทที่ดูดเข้าไปถึงเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน แต่โชคของเจ้ายังนับว่าไม่เลว กายเนื้อกับความบริสุทธิ์ของพลังเวทเหนือจินตนาการไปไกลถึงไม่ถูกดูดจนแห้ง” หลัวโหวอ้าปากปุบก็เอ่ยคำพูดที่ทำให้หลิ่วหมิงตกตะลึงออกมา
“จิตวิญญาณอาวุธที่แท้จริงของกรงขังหรือ? คำนี้หมายความว่าอย่างไร ผู้อาวุโส ท่านไม่ใช่…?” หลิ่วหมิงตะลึงงัน
“เจ้าเชื่อมาตลอดว่าข้าคือจิตวิญญาณอาวุธของกรงขังสินะ” หลัวโหวมองหลิ่วหมิงนิ่งๆ มุมปากเผยรอยยิ้มเยาะนิดๆ ออกมา
“ไม่ผิด”
หลิ่วหมิงพยักหน้าตามตรง
“ก่อนหน้านี้ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่ามิติกรงขังแห่งนี้คือผนึกอันหนึ่ง ด้านในผนึกวิญญาณมารไว้มากมายนัก พูดให้ชัดที่จริงข้าก็เป็นผู้หนึ่งที่ถูกผนึกไว้เช่นกัน”
“แต่ข้าแตกต่างจากวิญญาณมารทั่วไป ข้ากับจิตวิญญาณอาวุธกรงขังนี้มีต้นกำเนิดเดียวกัน เป็นจิตวิญญาณที่มีความคิดของตัวเองส่วนน้อยในหมู่วิญญาณที่ถูกนายท่านของกรงขังจับมาตอนนั้น ยามนั้นนายท่านของกรงขังผสานวิญญาณเข้าไปในอาวุธชิ้นนี้เพื่อสร้างจิตวิญญาณอาวุธ แต่ข้ากลับไม่ถูกกลืนหายไปเพราะสาเหตุบางอย่างจึงได้แต่ถูกผนึกไว้ในกรงขัง เพราะเรื่องนี้ขณะที่จิตวิญญาณอาวุธหลับใหลอย่างยาวนานนั้น ท้ายที่สุดข้าจึงทลายผนึก ปรากฏตัวออกมาควบคุมพลังส่วนหนึ่งของกรงขังได้” ในที่สุดหลัวโหวก็เล่าความเป็นมาที่แท้จริงของตนเองช้าๆ
“ที่แท้เป็นเช่นนี้ ผู้เยาว์นับว่าเข้าใจข้อสงสัยจำนวนหนึ่งก่อนหน้านี้แล้ว แต่ตามที่ผู้อาวุโสกล่าวเมื่อจิตวิญญาณอาวุธที่แท้จริงของกรงขังตื่นขึ้น ท้ายที่สุดจะกลายเป็นอย่างไร?” หลังหลิ่วหมิงฟังจบก็ดูเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว
“ถ้า ‘เขา’ ตื่นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ ข้าก็คงถูกเขากลืนกินหลอมเป็นหนึ่งเพื่อซ่อมแซมตัวเขา ส่วนเจ้า นายท่านตัวปลอมที่กรงขังนี้ยอมรับชั่วคราวย่อมจะถูกดูดจนแห้งอย่างไร้ปรานี ใช่แล้ว มิติที่เจ้าอยู่ตอนนี้ก็เป็นสิ่งที่ ‘เขา’ สร้างขึ้นมากับมือเมื่อตอนนั้น” หลัวโหวเอ่ยถ้อยคำที่ทำให้หลิ่วหมิงขนพองสยองเกล้าออกมา
ทันใดนั้นหลิ่วหมิงก็ทำหน้าหายใจไม่ออก ผ่านไปครู่หนึ่งถึงหัวเราะเจื่อนๆ เอ่ยขึ้นว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา