ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 839

ตอนที่ 839 สูตรโอสถกระดูกมรกตนักรบพระโพธิสัตว์
หลัวโหวที่รู้มาตลอดแต่ไม่บอกได้ยินเข้าก็อึ้งไปชั่วครู่ ครู่หนึ่งให้หลังถึงเอ่ยตอบอย่างลังเลอยู่บ้าง

“เอาเถอะ วันนี้จะพูดกับเจ้าให้ชัด เจ้าจะได้ไม่ต้องเก็บความสงสัยไว้นาน ศิลาหุนเทียนที่จริงเป็นสมบัติพิสดารอีกชิ้นหนึ่งที่นายท่านคนก่อนของกรงขังผู้เป็นมนุษย์ปีศาจได้มาโดยไม่ได้ตั้งใจ เดิมไม่ได้มีความเกี่ยวพันกับกรงขัง แต่มนุษย์ปีศาจผู้นั้นเป็นอัจฉริยะผู้มากพรสวรรค์ เขาสร้างวิชาลับขึ้นมาวิชาหนึ่ง บังคับศิลาหุนเทียนกับกรงขังให้หลอมกลืนเป็นร่างเดียว หลังจากนั้นข้าได้หลอมศิลาหุนเทียนเพิ่มอีกเล็กน้อยหนหนึ่ง เจ้าถึงหยิบยืมพลังจากของสิ่งนี้เข้าออกที่แห่งนี้ได้ตามใจ”

หลิ่วหมิงฟังถึงตรงนี้ก็ลอบพยักหน้า

ศิลาหุนเทียนมีความเป็นมาเช่นนี้เอง มนุษย์ปีศาจผู้นั้นผสานศิลาหุนเทียนกับกรงขัง สมบัติสองชิ้นที่เดิมไม่มีความเกี่ยวข้องอันใดนี้ให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ ดูท่าคงเป็นผู้ที่ยอดเยี่ยมอย่างที่สุดในศาสตร์การหลอมอาวุธอย่างแน่นอน

คิดมาถึงตรงนี้เขาก็อดไม่ได้นึกถึงครั้งแรกที่ตนถูกยึดครองร่างขึ้นมา ‘มนุษย์ปีศาจ’ ที่ยึดครองร่างตนนั้น ไม่เพียงปรับปรุงกระบี่จันทราทองกับมุกพลังวารีของตนได้ด้วยมือเปล่าในเวลาสั้นๆ ยังไม่รู้ใช้วิธีการใดผสานเกล็ดมังกรแดงเข้าไปในร่างกายตนอีก สิ่งที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่าก็คือกระทั่งตัวอ่อนกระบี่ปราณแกร่งที่ปรมาจารย์ลิ่วอินทิ้งไว้ให้แก่ทายาทก็กลายเป็นหนึ่งเดียวกับตัวอ่อนกระบี่ที่เพิ่งหลอมออกมาของตนได้

หรือว่ามนุษย์ปีศาจในตำนานเหล่านี้ล้วนชำนาญศาสตร์การหลอมอาวุธ?

“ที่จริงข้าก็ไม่รู้เกี่ยวกับศิลาแท่งนี้ทุกอย่าง นอกจากยืมพลังของกรงขังให้เจ้าเข้ามาฝึกฝนในแดนมายาแล้ว โฉมหน้าที่แท้จริงของศิลาหุนเทียนที่จริงคือกุญแจซึ่งยากจะคาดเดาดีร้ายดอกหนึ่ง! เจ้าก็น่าจะจำปรากฏการณ์ประหลาดยามศิลาแท่งนี้ปรากฏขึ้นครั้งก่อนได้กระมัง?” หลัวโหวเอ่ยต่อ

หลิ่วหมิงได้ฟังคำนี้ในใจก็พรั่นพรึง นึกถึงประตูแสงประหลาดที่ศิลาหุนเทียนเปิดออกตอนนั้นขึ้นมาทันที

“ครั้งนั้นที่จริงข้ากำลังลองกุญแจดอกนี้ น่าเสียดายที่ล้มเหลว ดูท่าเวลาที่จะใช้มันยังมาไม่ถึง ในเวลาอันสั้นยากจะใช้กุญแจนี้นำผลประโยชน์อันใดมาให้เจ้า ส่วนเรื่องอื่นเกี่ยวกับศิลานี้ ตอนนี้เจ้ารู้ไปก็ไม่มีประโยชน์อันใด ไม่ต้องสนใจนักจะดีกว่า…” หลัวโหวเอ่ยถึงตรงนี้ก็หยุด เหมือนจะไม่ยินดีพูดอันใดเกี่ยวกับศิลาหุนเทียนเพิ่มอีก

“ขอบพระคุณผู้อาวุโสที่ชี้แนะ ผู้เยาว์นับว่าคลายข้อสงสัยจำนวนหนึ่งในใจได้แล้ว”

แม้ในใจหลิ่วหมิงยังคงสงสัยเกี่ยวกับคำว่า ‘กุญแจ’ อยู่มาก แต่หลังครุ่นคิดครู่หนึ่งก็ไม่ถามอันใดเพิ่มอีกอย่างรู้สถานการณ์

“เอาล่ะ อย่างอื่นไม่ต้องพูดมากแล้ว ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดของเจ้าก็คือเข้าสู่ระดับแก่นเสมือนให้เร็วที่สุด ต่อจากนั้นข้าจะหลับใหลเป็นช่วงเวลานานมากช่วงหนึ่ง พยายามสะสมพลังเพิ่ม เมื่อเจ้าเข้าสู่ระดับแก่นแท้แล้วจะได้ช่วยเจ้าอีกแรง ดังนั้นเมื่อฝึกฝนไปถึงระดับแก่นเสมือนแล้วก็ได้แต่พึ่งตัวเจ้าเองทั้งหมด” สายตาของหลัวโหวมองหลิ่วหมิงนิ่งนานพลางเอ่ยบอก

“ผู้เยาว์เข้าใจและจะไม่ทำให้ผู้อาวุโสผิดหวังแน่นอน” หลิ่วหมิงสีหน้าขึงขังเอ่ยตอบด้วยเสียงจริงจัง

หลังหลัวโหวพยักหน้าก็ถอยหลังไปหลายก้าว ร่างกายพร่าเลือนไม่ชัดอีกครั้งแล้วค่อยๆ หายไปจากเบื้องหน้าหลิ่วหมิงอย่างไร้ร่องรอย

หลิ่วหมิงมองเบื้องหน้าที่กลับมาว่างเปล่าอีกหนแล้วแหงนหน้าถอนหายใจยาว หลังจากนั้นจึงนั่งขัดสมาธิ ใช้นิ้วนวดหว่างคิ้วอย่างปวดหัวอยู่บ้าง

วันนี้เขารับรู้ข้อมูลสำคัญมากมายเช่นนี้ในคราวเดียว รู้สึกว่าสมองรับไม่ไหวนิดๆ ต้องเรียบเรียงความคิดดีๆ สักหน่อยถึงจะได้

การใคร่ครวญครั้งนี้ของหลิ่วหมิงใช้เวลาไปครึ่งชั่วยาม เนิ่นนานหลังจากนั้นเขาถึงหัวเราะเจื่อนๆ ทีหนึ่งขณะปรับอารมณ์ จากนั้นพลิกมือเรียกคัมภีร์หยกสีขาวเล่มหนึ่งออกมา

สิ่งที่บันทึกอยู่ในคัมภีร์หยกก็คือวิธีปรุงโอสถกระดูกมรกตนักรบพระโพธิสัตว์นั่นเอง

ครั้งนี้เขาอยู่ในห้องว่างเปล่าลึกลับแห่งนี้ได้ต่อกันนานสามสิบกว่าปี สิ่งที่จะฝึกฝนและร่ำเรียนในช่วงเวลานี้ย่อมต้องวางแผนทุกสิ่งให้ดีตั้งแต่ต้น

สิ่งแรกย่อมต้องศึกษาการปรุงโอสถกระดูกมรกตนักรบพระโพธิสัตว์นี้

โอสถแฝงจิตวิญญาณกับโอสถจินหยวนที่เขาปรุงก่อนหน้านี้เมื่อเทียบกับโอสถชนิดนี้ ความยากเหมือนรุ่นใหญ่เจอรุ่นเล็กโดยแท้

จากที่บันทึกไว้ในคัมภีร์หยก โอสถกระดูกมรกตนักรบพระโพธิสัตว์นี้มีที่มาจากนิกายวัชรนิกายใหญ่ของผู้ฝึกร่างแห่งหนึ่งในยุคโบราณ หลังกินเข้าไปมีฤทธิ์เพิ่มพูนพละกำลังของร่างเนื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผลทำให้กระดูกแข็งแกร่งขึ้นไม่น้อย วิธีการต่างแต่มีฤทธิ์คล้ายคลึงกับเคล็ดวิชากระดูกดำที่หลิ่วหมิงฝึกฝนอยู่บ้าง

สิ่งที่หาได้ยากก็คือโอสถนี้ไม่จำกัดจำนวนครั้งที่กิน แม้กินเข้าไปมากครั้ง ผลจะลดลงอยู่บ้าง แต่จากที่บันทึกไว้บนคัมภีร์หยก ก่อนร่างกายจะต่อต้านยา โอสถกระดูกมรกตนักรบพระโพธิสัตว์ก็สามารถทำให้พละกำลังของร่างเนื้อและกระดูกเพิ่มขึ้นได้มากกว่าครึ่ง

สำหรับผู้ฝึกฝนที่กายเนื้อแข็งแกร่งเช่นนี้อย่างหลิ่วหมิง คุณค่าของโอสถกระดูกมรกตนักรบพระโพธิสัตว์ย่อมไม่ต้องพูดถึง แน่นอนกระบวนการปรุงมันก็ซับซ้อนยากลำบากเพียงพอทำให้ปรมาจารย์ปรุงโอสถทั่วไปได้แต่มองแล้วถอนใจ

ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือต่อให้เป็นปรมาจารย์ปรุงโอสถที่มีคุณสมบัติปรุงโอสถนี้ โอกาสที่จะปรุงโอสถสำเร็จก็ต่ำเตี้ยจนน่าสงสาร สิ่งที่ทุ่มลงไปกับสิ่งที่ผลิตออกมาได้ต่างกันราวฟ้ากับดิน มันจึงไม่อาจดึงความสนใจของปรมาจารย์ปรุงโอสถที่มีชื่อเสียงเหล่านั้นได้แม้แต่น้อย ทำให้โอสถกระดูกมรกตนักรบพระโพธิสัตว์แทบจะไม่ปรากฏให้เห็นข้างนอก

แน่นอนสูตรโอสถนี้หลวงจีนกระดูกหยกถนอมเป็นของล้ำค่ามาตลอด น้อยนักที่จะมีคนเห็น นี่ก็เป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งของเรื่องนี้เช่นกัน

ไม่แปลกที่ตอนนั้นราชาโลหิตและเซียนหงส์ดำผู้ฝึกฝนระดับนี้ลงมือปล้นฆ่าหลิ่วหมิงด้วยตนเองอย่างไม่ลังเลเพราะโอสถกระดูกมรกตนักรบพระโพธิสัตว์เม็ดหนึ่ง

หลังหลิ่วหมิงท่องจำกระบวนการปรุงโอสถกระดูกมรกตนักรบพระโพธิสัตว์จนขึ้นใจก็พลิกมือทีหนึ่งเรียกยันต์เก็บของสิบแผ่นออกมา

เขาวางยันต์เก็บของเก้าแผ่นไว้ด้านข้าง จากนั้นขยี้ยันต์แผ่นนั้นที่เหลืออยู่ในมือเรียกวัตถุดิบปรุงโอสถจำนวนมากออกมา

จากนั้นหลิ่วหมิงจึงสะบัดแขนเสื้อทีหนึ่ง แสงสีน้ำเงินสายหนึ่งบินพุ่งออกมาจากด้านใน สิ่งที่ถูกแสงสีน้ำเงินหุ้มไว้ก็คือเตาหลอมโอสถขนาดเล็กที่ส่องแสงสีน้ำเงินเรืองๆ ทั้งเตาชิ้นหนึ่ง

เตาหลอมโอสถหมุนวนกลางอากาศอยู่พักหนึ่งก็ขยายใหญ่จนสูงถึงสามจั้งแล้วร่อนลงมาอย่างมั่นคง บนตัวมันมีลวดลายจิตวิญญาณลี้ลับแผ่อยู่ทั่ว เตาหลอมลิ่วเสินนั่นเอง!

เสียง “ฟึบ” ดังขึ้นทีหนึ่ง!

แทบจะในพริบตาที่เตาหลอมลิ่วเสินแตะพื้น เคล็ดวิชาสายหนึ่งก็ร่วงลงในเตาหลอมลิ่วเสินอย่างแม่นยำไม่พลาด เสียงพรึ่บดังขึ้นทีหนึ่งเปลวเพลิงร้อนแรงสีแดงฉานฉับพลันพวยพุ่งออกมาจากใต้เตาหลอมลุกโหมโชติช่วง

ผ่านไปไม่นานเตาหลอมโอสถสีน้ำเงินที่อยู่กลางแสงแวววาวระยิบระยับของเปลวเพลิงก็แผ่กลิ่นอายร้อนระอุออกมา คลื่นความร้อนสายหนึ่งเริ่มซัดสาดออกไปสี่ด้านแปดทิศ ทำให้อุณภูมิรอบตัวมันเพิ่มสูงขึ้นในทันใด

หลิ่วหมิงรอเตาหลอมโอสถร้อนเต็มที่แล้วจึงยกมือขึ้น เคล็ดวิชาสายหนึ่งร่วงลงในเตาหลอมลิ่วเสิน

เสียง “ปุ๊” ดังขึ้นทีหนึ่ง ฝาเตาลอยขึ้นบินวน ลอยไม่นิ่งอยู่เหนือเตาหลอมโอสถ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา