ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 881

ตอนที่ 881 เรื่องน่ายินดีที่คิดไม่ถึง
“ประมุขจั่วเกรงใจไปแล้ว แม้นิกายเราจะมีอำนาจแถบเขตซานหูของแดนเหนืออยู่บ้าง แต่แถบเทือกเขาถงหยางก็ยังต้องการให้ประมุขจั่วดูแล” บุรุษชุดน้ำเงินรับป้ายคืนไปแล้วยิ้มน้อยๆ แต่กล้ามเนื้อบนใบหน้าแข็งทื่อ รอยยิ้มแลดูเหมือนกล้ามเนื้อกระตุกเสียมากกว่า

“ฮ่ะๆ สหายเยี่ยล้อเล่นแล้ว ในเมื่อหอรวมสมบัติของข้าเปิดประตูต้อนรับแขก สหายปรารถนาสิ่งใดย่อมต้องช่วยเหลือเต็มที่ แต่ฟังจากคำพูดที่สหายเอ่ยเมื่อครู่ เหมือนก่อนหน้านี้เคยพบกับข้ามาก่อน?” จั่วกงเฉวียนไม่ถือสาแล้วย้อนถามกลับ

“ข้ามาถึงที่นี่ครั้งแรก แต่ข้ามีสหายผู้หนึ่งแซ่อู เมื่อห้าปีก่อนเดินทางมาตามหาหญ้าประหลาดต้นหนึ่งที่เทือกเขาถงหยาง นับว่าเคยรู้จักกับประมุขจั่ว” บุรุษชุดน้ำเงินสีหน้านิ่งสนิท เอ่ยอย่างไม่รู้ว่าจริงหรือลวง

จั่วกงเฉวียนได้ยินก็ตะลึง เขาเดินทางในแถบเทือกเขาถงหยางเป็นประจำ ผู้ฝึกฝนที่เคยพบมากมายประหนึ่งขนวัว ชั่วขณะหนึ่งไหนเลยจะนึกออกว่าผู้ฝึกฝนแซ่อูคนไหน

“ดูท่าประมุขจั่วจะฐานะสูงศักดิ์พบคนมากมายจึงลืมเลือนเรื่องราวไปบ้าง สหายผู้นั้นของข้าเคยเข้าร่วมกลุ่มล่าอสูรกับประมุขจั่ว แล้วยังมีสหายร่วมทางแซ่ฟั่นอีกหนึ่งคน ได้ยินว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถคนหนึ่ง” บุรุษชุดน้ำเงินเห็นเช่นนี้ก็อ้าปากเอ่ยเสริมอีก

“เรื่องเมื่อตอนนั้นนี่เอง พักนี้ข้ายุ่งกับการจัดการกิจธุระในนิกาย สมองจึงเลอะเลือนไปบ้าง สหายเยี่ยอย่าได้ถือโทษ” ลึกลงไปในดวงตาของจั่วกงเฉวียนทอประกายเล็กน้อย แต่เอ่ยขึ้นโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย

บุรุษชุดน้ำเงินเพียงยิ้มบางๆ ไม่เอ่ยวาจา

“ถ้าเช่นนั้นไม่ทราบว่าสหายเยี่ยเดินทางมาครั้งนี้ ต้องการให้ข้าช่วยอันใด?” จิ่วกงเฉวียนเอ่ยถามอีก

“ระยะนี้พลังของข้ามาถึงด่านเลื่อนระดับจึงต้องการซื้อโอสถชื่อหยวนระดับสูงจำนวนหนึ่ง สิบเม็ดกำลังดี” บุรุษชุดน้ำเงินเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

“โอสถชื่อหยวน! นั่นเป็นโอสถระดับสูงในสายปีศาจ ปกติแล้วเม็ดหนึ่งก็หายากอย่างที่สุด สหายต้องการคราวเดียวสิบเม็ด นี่ทำให้ข้าลำบากอยู่บ้างแล้ว…”

จั่วกงเฉวียนสูดลมหายใจแผ่วเบาจากนั้นหัวเราะจืดเจื่อนขึ้นมา

“จากที่ข้ารู้มา ลึกเข้าไปในเทือกเขาถงหยางมีคางคกอัคคีที่เป็นปีศาจอสูรระดับผลึกชนิดหนึ่งอาศัยอยู่ แก่นปีศาจของอสูรตัวนี้คือวัตถุดิบหลักของการปรุงโอสถชื่อหยวน มีเงื่อนไขธรรมชาติที่ดีเช่นนี้ ในตลาดถงหยางไม่มีคนปรุงโอสถชื่อหยวนออกมาได้เลยหรือ?” บุรุษชุดน้ำเงินเอ่ยขึ้นเหมือนประหลาดใจอยู่บ้าง

“สหายเยี่ยล้อข้าเล่นแล้ว ปรมาจารย์ปรุงโอสถที่ปรุงโอสถชื่อหยวนได้ไหนเลยจะมาอยู่ในสถานที่เล็กๆ ในซอกหลืบอย่างที่แห่งนี้ของพวกเรา ส่วนแก่นปีศาจของคางคกอัคคีที่ได้มาจากเทือกเขาถงหยาง ส่วนใหญ่ก็ประมูลขายตามสมาคมการค้าหรือนิกายที่ใหญ่กว่า น้อยคนจะเก็บเอาไว้ใช้เอง” จั่วกงเฉวียนส่ายศีรษะรัวเอ่ยขึ้น

“ข้ากลับคิดไม่ถึงสถานการณ์เช่นนี้ แต่สหายผู้นั้นของข้าเคยบอกว่าผู้ฝึกฝนฟั่นในกลุ่มล่าอสูรตอนนั้นเหมือนจะมีวิชาปรุงโอสถค่อนข้างสูงส่ง น่าจะหลอมโอสถชนิดนี้ได้ ประมุขจั่วเป็นผู้รวบรวมคนของกลุ่มล่าอสูรครั้งนั้น ไม่มีวิธีติดต่อคนผู้นี้เลยหรือ เรื่องค่าใช้จ่ายย่อมเจรจากันได้” บุรุษชุดสีน้ำเงินผายมือสองข้างแล้วเอ่ยขึ้น

“สหายเยี่ยพูดถึงผู้ฝึกฝนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยแผลเป็นดาบใช่ไหม?” จั่วกงเฉวียนสายตาวูบไหวเล็กน้อยแล้วเอ่ยปากถามขึ้น

“ไม่ผิด คนผู้นี้นี่แหละ ไม่ทราบว่าสหายจั่วติดต่อสหายฟั่นคนนี้ เชิญให้เขาช่วยปรุงโอสถชื่อหยวนได้หรือไม่ เรื่องวัตถุดิบ ข้าเตรียมเอาไว้เองแล้วไม่น้อย แน่นอนว่าเสร็จธุระจะตอบแทนให้อย่างงาม!” บุรุษชุดสีน้ำเงินประสานมือ แล้วเอ่ยขึ้นขณะที่มองจั่วกงเฉวียนด้วยแววตาเป็นประกาย

“สหายเยี่ยอาจเข้าใจผิดแล้ว ที่จริงข้าก็พบกับสหายฟั่นผู้นั้นโดยบังเอิญเช่นเดียวกัน เพียงแค่ก่อนหน้านี้เคยเป็นสหายร่วมทางกันช่วงเวลาหนึ่งเท่ากัน” จั่วกงเฉวียนขมวดคิ้วตอบ

“เป็นเช่นนี้หรือ? ถ้าเช่นนั้นก็น่าเสียดายจริงๆ ข้ายังคิดว่าจะผูกมิตรกับปรมาจารย์ปรุงโอสถคนหนึ่งได้เสียอีก” บุรุษชุดน้ำเงินคิ้วขมวดเล็กน้อย บนใบหน้าเผยสีหน้าผิดหวังแล้วถอนหายใจแผ่วเบา

บุรุษชุดน้ำเงินผู้นี้ย่อมเป็นหลิ่วหมิงปลอมตัวมา หลังเขาออกจากพรรคอีกาเหมันต์ก็ใช้เวลาครึ่งเดือนเร่งเดินทางทั้งวันทั้งคืนมายังเทือกเขาถงหยางแห่งนี้ หลังสำรวจพักหนึ่งถึงจงใจเข้ามาพบจั่วกงเฉวียน เกิดเป็นบทสนทนาครั้งนี้ในวันนี้

จั่วกงเฉวียนเป็นผู้ฝึกฝนระดับแก่นแท้ขั้นกลางคนหนึ่ง แล้วยังเป็นประมุขของนิกายแห่งหนึ่ง เขาย่อมไม่อาจควบคุมโดยตรง ค่อยๆ เค้นถามเช่นนั้นอย่างผู้เฒ่าอูแห่งพรรคอีกาเหมันต์ได้ ดังนั้นถึงต้องใช้วิธีอ้อมค้อมสืบถามร่องรอยของปีศาจพันมายาเช่นนี้

แต่ตอนนี้ดูท่าผลลัพธ์จะไม่ดีนัก

ผลปรากฏว่าขณะที่หลิ่วหมิงครุ่นคิดหาวิธีอื่นเลียบเคียงถามข่าวของปีศาจพันมายาอีกสักหน่อยอยู่นั่นเอง เสียงของจั่วกงเฉวียนก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“สหายเยี่ยไม่ต้องผิดหวัง แม้ข้ากับสหายฟั่นไม่ได้คบหาสนิทกัน แต่หนึ่งปีก่อนหน้าข้าบังเอิญพบสหายฟั่นอยู่ที่เมืองหนานหลูซึ่งอยู่ไม่ไกล เหมือนเขาจะอาศัยอยู่ที่นั่นชั่วคราว ข้าเคยมีวาสนาพบหน้าสหายฟั่นอยู่หลายครั้ง จะยอมบากหน้าแนะนำให้สหายเยี่ยพบหน้าสักครั้งก็ย่อมได้ แต่จะขอให้เขาปรุงโอสถได้หรือไม่ ข้าก็ไม่กล้ารับประกันแล้ว” หลังจากจั่วกงเฉวียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็เอ่ยออกมาเช่นนี้

“จริงหรือ ถ้าเช่นนั้นไหว้วานสหายจั่วแล้ว ไม่ทราบว่ายามใดจึงจะออกเดินทาง”

หลิ่วหมิงได้ยินทีแรกก็ตกตะลึง แต่จากนั้นก็ยินดียิ่ง

“สหายเยี่ยรออยู่ที่นี่สักพัก ผู้แซ่จั่วต้องจัดการธุระเล็กน้อยในร้าน ครึ่งวันให้หลังออกเดินทางเป็นอย่างไร?” จั่วกงเฉวียนพูดพลางก็ลุกขึ้นยืน

“ดี ถ้าเช่นนั้นเชิญสหายตามสบาย ข้าจะไปเลือกซื้อของในตลาดสักหน่อย” หลิ่วหมิงลุกขึ้นยืน ประสานมือเอ่ยตอบด้วยใบหน้าซาบซึ้งเช่นเดียวกัน

ครู่หนึ่งให้หลังหลิ่วหมิงก็เดินออกจากร้านไป

จั่วกงเฉวียนมองแผ่นหลังที่ค่อยๆ ห่างออกไปไกลบนถนนจากช่องหน้าต่างชั้นบน ในดวงตาปรากฎความประหลาดใจบางๆ จนแทบสังเกตไม่เห็น

หลิ่วหมิงเดินออกจากหอรวมสมบัติก็มองซ้ายมองขวาหลายครั้ง แล้วเดินไปทางตลาดโดยไม่หันศีรษะกลับไปมอง

ตลาดถงหยางไม่มีสิ่งใดแตกต่างกับตลาดขนาดเล็กทั่วไป สองฟากฝั่งถนนคือร้านรวงสารพัดที่สูงต่ำไม่เท่ากัน

ที่แห่งนี้อยู่ใกล้กับเทือกเขาถงหยาง โบราณว่าไว้อยู่ใกล้ภูเขา หากินจากภูเขา ดังนั้นร้านรวงเหล่านี้จึงมีร้านที่วางขายของจิปาถะเช่นปีศาจอสูรหรือหินแร่เป็นส่วนมาก

บนถนนนอกจากหลิ่วหมิงแล้วยังมีผู้ฝึกฝนมากมายเดินเข้าออกร้านสองฟากฝั่ง แต่ละคนซื้อขายสิ่งที่ตนต้องการด้วยสีหน้าแตกต่างกันไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา