แม้ดูเหมือนเขาป้องกันการโจมตีของฝ่ามือยักษ์สีดำกลางท้องฟ้าได้ แต่เพื่อรักษา ‘ธงหยาปี้’ ต้นแบบอาวุธเวทชิ้นนี้ไว้ พลังเวทในร่างจึงทะลักออกจากร่างประหนึ่งน้ำหลากจนรู้สึกว่าทนไม่ไหวอยู่บ้างแล้ว
การโจมตีที่แข็งแกร่งเช่นนี้ไม่เป็นรองผู้ฝึกฝนระดับแก่นแท้ขั้นปลายสักนิด ทว่าเมื่อจิตสัมผัสของเขากวาดผ่านไปกลับตรวจสอบพลังที่แน่นอนของหลิ่วหมิงไม่ได้แม้แต่น้อย
“นิกายยอดบริสุทธิ์ถึงกับส่งคนร้ายกาจเช่นนี้มาไล่ล่าสังหารข้า…” ในใจปีศาจพันมายาเคียดแค้นนัก แต่เขาทำได้เพียงกัดฟันกระตุ้นพลังเวทในร่าง แสงสีดำบนร่างโถมออกมาอย่างบ้าคลั่ง กรอกเข้าไปในเงาจิ้งจกต่อเนื่องไม่ขาดสาย
เงาของปีศาจอสูรตัวนี้สะบัดหางอย่างบ้าคลั่ง ต้านฝ่ามือยักษ์สีดำไว้ได้ชั่วครู่อีกครั้ง
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ ม่านตาพลันหดลงเล็กน้อยทันที!
หลังจากตัวเขากินโอสถกระดูกมรกตนักรบพระโพธิสัตว์ไปสิบกว่าเม็ด พลังมหาศาลในร่างก็เพิ่มพรวดขึ้นจากก่อนหน้านี้หนึ่งเท่ากว่า แม้เป็นผู้ฝึกฝนระดับแก่นแท้ขั้นต้นก็ไม่แน่ว่าจะรับการโจมตีเต็มกำลังของเขาได้อย่างง่ายดายเช่นนี้
ปีศาจพันมายาผู้นี้อาศัยธงคำสั่งสีดำที่ไม่สะดุดตาผืนหนึ่งต้านกำลังมหาศาลของเขาไว้ได้ ไม่แปลกที่จะหนีรอดจากการไล่ล่าตามจับของนิกายยอดบริสุทธิ์ได้หลายครั้ง
แต่มาถึงเวลานี้ หลิ่วหมิงย่อมไม่คิดจะออมมือ ร่างกายเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง ปราณดำทั่วร่างพลุ่งพล่านออกมา เสียงมังกรกู่ร้องพยัคฆ์คำรามสะเทือนแก้วหูแทบดับดังขึ้นพักหนึ่ง มังกรหมอกห้าตัวกับพยัคฆ์สีดำห้าตัวก็บินทะลวงตามออกมา หลังจากแยกเขี้ยวกางกรงเล็บบินวนอยู่กลางอากาศรอบหนึ่งก็ผสานเข้าไปในฝ่ามือยักษ์สีดำจนหมด
ฝ่ามือยักษ์สีดำฉับพลันเปล่งแสงสีดำสว่างเจิดจ้า ชั่วพริบตาขยายพรวดขึ้นมากกว่าหลายเท่า พร้อมกันนั้นบนหลังมือก็มีลวดลายจิตวิญญาณสีม่วงเข้มคล้ายเกล็ดมังกรปรากฏออกมาแผ่แสงรัศมีประหลาดเจิดจ้าแวววาว
ปีศาจพันมายารู้สึกว่าแรงกดดันเหนือศีรษะเพิ่มพรวดขึ้นหลายเท่าในพริบตา
ส่วนหางของจิ้งจกส่งเสียงแตกร้าวดังเปรี๊ยะๆ จากนั้นเพียงสองสามลมหายใจทั้งร่างของเงาปีศาจอสูรก็ส่งเสียงดัง “บึ๊ม” แล้วแตกเป็นชิ้นๆ กลายเป็นธงคำสั่งสีดำที่สูญเสียพลังจิตวิญญาณจากนั้นถูกโจมตีปลิวออกไปไกล
ฝ่ามือยักษ์สีดำร่วงลงมาพร้อมเสียงดังกึกก้อง เสียงดังสนั่นราวกับอสนีบาตคำราม
ปีศาจพันหน้าสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที ทันใดนั้นเขาก็กัดฟัน แสงสีขาวสว่างขึ้นบนฝ่ามือ ดอกหมู่ตันแกะสลักจากผลึกน้ำแข็งดอกหนึ่งพุ่งเร็วรี่ออกมาจากในแขนเสื้อ มันหมุนเร็วรี่รอบหนึ่งแล้วกลายเป็นกำแพงน้ำแข็งสูงสิบกว่าจั้ง หนาสองสามจั้งผืนหนึ่งขวางอยู่ด้านหน้า พร้อมกันนั้นในมืออีกข้างหนึ่งก็มียันต์สีเทาขมุกขมัวแผ่นหนึ่งเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ เขาขยี้จนแหลกอย่างไม่ลังเลสักนิด
แสงสีเทาดวงหนึ่งเพิ่งหุ้มร่างกายของปีศาจพันมายาเสร็จ มือยักษ์สีดำก็ตบลงบนกำแพงน้ำแข็งแล้ว
เสียง “ปัง” ดังสนั่นขึ้นครั้งหนึ่ง!
กำแพงน้ำแข็งต้านมือยักษ์สีดำไว้ได้อย่างหวุดหวิดเพียงไม่ถึงหนึ่งลมหายใจ ก็พังทลายกลายเป็นเศษน้ำแข็งเต็มฟ้า
มือยักษ์สีดำโจมตีลงบนร่างปีศาจพันมายาโดยที่พลังไม่ลดทอน ทว่าปราณสีเทาพลุ่งพล่านบนร่างปีศาจพันมายากลับกระจายหายไป จากนั้นเขาก็กลายเป็นเงาพร่ามัวแล้วหายวับไป
เสียงทึบหนักดังขึ้นครั้งหนึ่ง มือยักษ์สีดำโจมตีลงบนพื้นดิน!
เทือกเขารอบด้านสั่นไหวตามเล็กน้อย ในหุบเขามีเศษหินไม่น้อยร่วงกราวเกิดเสียงประหนึ่งอสนีบาตครวญคราง
“คิดหนีหรือ?”
หลิ่วหมิงหัวเราะแผ่วเบาแล้วโบกมือ ฝ่ามือยักษ์สีดำกลายเป็นปราณสีดำพลุ่งพล่านก่อนจะสลายไปอีกครั้ง แล้วผสานเข้าไปในร่างประหนึ่งวาฬดูดน้ำ
พื้นดินที่เดิมทีปีศาจพันมายายืนอยู่ปรากฏรอยประทับฝ่ามือขนาดสิบกว่าจั้ง ลึกหลายฉื่อรอยหนึ่ง
เมื่อครู่เขาเห็นชัดเจน พริบตาที่ฝ่ามือยักษ์ของเขาร่วงลงมา กลิ่นอายของปีศาจพันมายาพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอย เนื่องจากหายไปรวดเร็วเกินไป ตอนนี้ตรงที่เดิมจึงยังเหลือเงาเลือนรางสายหนึ่งไว้
“คงจะเป็นยันต์ล้ำค่าธาตุว่างเปล่าจำพวกยันต์เคลื่อนย้าย คนผู้นี้มีลูกเล่นพอตัวทีเดียว มิน่าจึงสังหารยากนัก…”
บนใบหน้าของหลิ่วหมิงไม่ได้เผยสีหน้าเสียดายออกมา เขาโบกมือส่งปราณดำสายหนึ่งไปม้วนธงคำสั่งสีดำผืนนั้นที่อยู่ไม่ไกลมา แม้ธงนี้เสียพลังจิตวิญญาณไปแทบหมดแล้ว แต่ด้านบนยังมีพลังเวทน้อยนิดหลงเหลืออยู่อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
มีของสิ่งนี้อยู่ ขอเพียงปีศาจพันมายายังอยู่ในบริเวณพันลี้ หลิ่วหมิงเชื่อมั่นว่าตนจะจับตัวเขาได้อย่างรวดเร็วยิ่งนัก
“บึ๊ม” คลื่นพลังเวทรุนแรงระลอกแล้วระลอกเล่าดังสนั่น หลิ่วหมิงหันศีรษะไปมอง บนใบหน้าเผยรอยยิ้มเย็นชาจางๆ อย่างอดไม่ได้
การเคลื่อนไหวนี้มาจากจั่วกงเฉวียนกับเซียเอ๋อร์ที่อยู่ไม่ไกล
เวลานี้ร่างกายของจั่วกงเฉวียนลอยอยู่กลางอากาศ เส้นผมหนวดเคราสยาย สองมือที่หุ้มด้วยเปลวเพลิงร้อนระอุโบกสะบัด ส่งเปลวเพลิงร้อนแรงสีแดงฉานแถบแล้วแถบเล่าออกมา จมลงไปในหมัดยักษ์สีแดงเพลิงสองข้างด้านหน้า
กำแพงศิลาสีน้ำตาลทองที่ต้านมันไว้ถูกฝ่ามืออัคคียักษ์ที่ร้อนระอุนี้โจมตีจนเกิดหลุมลึกหลุมหนึ่งและกำลังจะถูกแผดเผาจนทะลุ
เซียเอ๋อร์ที่ถูกแสงสีเหลืองครอบรอบร่างอยู่สีหน้าซีดขาว นางกระตุ้นพลังเวทในร่างบังคับศิลาใกล้ๆ ให้เข้ามารวมกันไม่หยุด พยายามถมลงไปในหลุมลึก
แต่จั่วกงเฉวียนในเวลานี้เห็นปีศาจพันมายาหนีไปเพียงลำพังแล้ว ในใจย่อมตกตะลึง ทันใดนั้นสองแขนก็หุบลง มืออัคคียักษ์พังทลายพร้อมเสียงดังกึกก้อง พร้อมกันนั้นเขาก็กลายเป็นเปลวเพลิงดวงหนึ่งบินเร็วรี่ออกไปไกล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา