หลิ่วหมิงสั่นสะท้านรีบเพ่งสายตามอง
แล้วเขาก็เห็นว่าสิ่งที่หมอกสีขาวหุ้มอยู่คือปีศาจอสูรหงส์สีขาวขนาดถึงสิบกว่าจั้งตัวหนึ่ง ดวงตาสีดำสนิทกำลังจ้องหญิงสาวผู้สวมชุดนางในกลางอากาศเขม็ง
เงาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางสองตัวที่อยู่เหนือศีรษะของหญิงสาวเริ่มผสานจากสองกลายเป็นหนึ่ง บนร่างของทั้งสองตัวมีแสงแวววาวดุจเส้นไหมละเอียดหลายเส้นกำลังแทรกเข้าไปในร่างของสตรีนางนี้ทีละน้อย
เวลานี้ดวงเนตรงามของหญิงสาวปิดสนิท คล้ายกับว่ากำลังเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญของการสืบทอดมรดกวิชา!
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ มือข้างหนึ่งก็จี้ดัชนีเข้าใส่วิญญาณปีศาจหงส์น้ำแข็งเบาๆ เงาเชอฮ่วนส่งเสียงดัง “ฟึบ” กลายเป็นแสงสีน้ำเงินพุ่งเข้าใส่ไอหมอกสีขาวทันที
วิญญาณปีศาจหงส์เห็นเช่นนี้พลันกระพือปีกทั้งสองข้าง เกล็ดน้ำแข็งสีขาวโพลนเล็กละเอียดเต็มฟ้าก่อตัวขึ้นจากความว่างเปล่าจากนั้นกลายเป็นเงาเข็มน้ำแข็งเรียวเล็กเล่มแล้วเล่มเล่าพุ่งรวดเร็วมากมายถี่ยิบมายังจุดที่เชอฮ่วนอยู่
เชอฮ่วนไม่มีสีหน้าลนลานแม้แต่น้อย มันเพียงอ้าปากกว้าง พายุหมุนสีน้ำเงินลูกหนึ่งก็ซัดออกมา
เสียง “เปรี๊ยะ” ดังขึ้นไม่ขาด!
เข็มน้ำแข็งเต็มท้องฟ้าถูกพายุหมุนพัดครั้งเดียวก็กลายเป็นเงาปราณวารีสีขาวสายแล้วสายเล่าสลายหายไปกับความว่างเปล่า
ดวงตาสองข้างของเชอฮ่วนทอประกายเจิดจ้าแล้วสูดลมอย่างแรง ปราณวารีทั้งหมดไหลประหนึ่งน้ำหลากทะลักเข้าไปในปากของมันแล้วหายไปหมดในเวลาเพียงครู่เดียว
จากนั้นร่างของเงาเชอฮ่วนก็ขยับ มันปรากฏตัวท่ามกลางไอหมอกสีขาวดุจภูตพรายแล้วขย้ำปีกข้างหนึ่งของหงส์ไว้
“แกว้ก!”
หงส์กรีดร้อง แสงสีขาวส่องสว่างวูบวาบบนปีก เกล็ดหิมะขนาดเท่าศีรษะเกล็ดแล้วเกล็ดเล่าก่อตัวขึ้นรอบด้านแล้วทอแสงสีขาวจับตัวบนปีกอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็แผ่ลามมาถึงบนร่างของเงาเชอฮ่วน
เวลาไม่กี่ลมหายใจหลังจากนั้นน้ำแข็งบางชั้นหนึ่งก็ปรากฏบนผิวของเชอฮ่วน มันกลายเป็นรูปสลักน้ำแข็งตัวหนึ่งที่กำลังอ้าปากกว้างกัดปีกของหงส์แน่นไม่ปล่อย
ปีศาจอสูรหงส์กระพือปีกกลางอากาศไม่หยุด มันกรีดเสียงร้องออกมาเป็นพักๆ พัดพายุเย็นเยียบเสียดกระดูกลูกแล้วลูกเล่าออกมา พยายามสุดกำลังหมายจะสลัดให้หลุดจากการกัดขย้ำของเชอฮ่วนทว่าดูเหมือนจะไม่มีผลสักนิด
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้พลันคิ้วขมวด มือข้างหนึ่งกระตุ้นเคล็ดวิชาในทันใด
รูปสลักน้ำแข็งเปล่งแสงเรืองรองหลากหลายสีออกมา!
น้ำแข็งแกร่งบนร่างเชอฮ่วนแตกกระจายดังเพล้งในพริบตา ในเวลาเดียวกันนั้นปราณปีศาจผสมกันมั่วสั่วก้อนหนึ่งก็พุ่งเร็วรี่ออกมา
เชอฮ่วนพ่นปราณของวิญญาณปีศาจที่ยังไม่ทันย่อยในร่างมันออกมาตรงๆ
นหงส์ขาวฉับพลันกรีดร้องเสียงแหลม ทันใดนั้นมันก็เลือนหายไปจากบนท้องฟ้า หลบปราณปีศาจที่ผสมปนเปกันนี้ไป ร่างกายขยับวูบหนึ่ง มันก็กลายเป็นแสงแวววาวสีขาวหมุนตัวหนีไป
หลิ่วหมิงเพ่งจิต คิดจะออกคำสั่งให้เชอฮ่วนไล่ตามไปสังหารวิญญาณปีศาจดวงนี้ ทว่าในเวลานี้เองเหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
เสียง “ฟึบ” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง แสงสีแดงสายหนึ่งพุ่งมาจากด้านหลังของเขา
หลิ่วหมิงตกตะลึงรีบขยับร่างทันทีจนหลบพ้นจุดสำคัญ ทว่าพร้อมกับเสียงดัง “ฉึบ” รอยกรงเล็บสีแดงสดสามเส้นก็ยังคงปรากฏขึ้นบนหลัง เลือดไหลรินออกมา
กรงเล็บสีแดงข้างหนึ่งเฉียดผ่านข้างลำตัวของเขาไป
ความเจ็บปวดดั่งไฟเผาส่งมาจากบนหลังของหลิ่วหมิง เขาหายตัวครั้งเดียวก็โผล่มาห่างสิบกว่าจั้ง แล้วพลิกมืออย่างรวดเร็วครั้งหนึ่ง เรียกโอสถสีเทาขมุกขมัวเม็ดหนึ่งจากในแหวนย่อส่วนมากลืนลงท้อง
ปราณอ่อนโยนสายหนึ่งไหลวนบนหลังของเขา รอยแผลลึกหนึ่งชุ่นกว่าสามสายประสานสนิทอย่างเร็วไว แต่ตรงขอบยังคงมีปราณปีศาจสีแดงหลายสายที่สลัดไม่หลุด
ตอนนี้หลิ่วหมิงเพิ่งได้กวาดสายตามองจุดที่ส่งการลอบจู่โจมมา แล้วเขาก็ต้องตกตะลึงอย่างยิ่ง!
เขาเห็นเงาร่างอ้อนแอ้นร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในทิศที่เคยเป็นด้านหลังของเขา หลังร่างมีหางจิ้งจอกเส้นแล้วเส้นเล่าส่ายไปมาไม่หยุด นางก็คือหญิงสาวเผ่าปีศาจผู้สวมชุดนางในผู้นั้น
สตรีนางนี้ยังคงล่อนจ้อนห่มแสงสีแดง เปลือยเรือนร่างอรชรขาวผ่องที่ชวนให้คนเลือดลมพลุ่งพล่านออกมามากกว่าครึ่ง ทรวงอกพองขึ้นยุบลงเล็กน้อยไม่หยุด ดวงเนตรงามทั้งสองข้างที่เคยกระจ่างใสดุจสายน้ำมีประกายแสงสีเลือดสองดวงเหมือนทับทิมสองเม็ดไหลวนต่อเนื่อง ทว่ามันกลับว่างเปล่าไร้ประกายคล้ายกับว่าสูญเสียสติสัมปชัญญะไป
หลิ่วหมิงมีสีหน้าสับสนเล็กน้อย เขากวาดสายตามองเหนือร่างสตรีนางนี้อย่างไม่รู้ตัว
เงาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางสองตัวด้านบนตอนนี้ผสานกลายเป็นร่างเดียวแล้ว มันกลายเป็นเงาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางสีขาวโพลนไร้ตำหนิตัวหนึ่ง
เทียบกับท่าทางทรงพลังก่อนหน้านี้ วิญญาณปีศาจดวงนี้ตอนนี้ขนาดเล็กลงหลายเท่า กระทั่งปราณปีศาจที่แผ่ออกมาก็อ่อนแอลงไม่น้อย ทว่าดวงตาทั้งคู่กลับเปล่งประกายดุจทับทิบจับจ้องหลิ่วหมิงเขม็งด้วยแววตาดุร้าย
แสงแวววาวสีขาวประหนึ่งเส้นไหมเรียวเล็กเส้นแล้วเส้นเล่าจากเงาปีศาจจิ้งจอกด้านบนที่เดิมทีแทรกเข้าไปในร่างหญิงสาวไม่ขาดตอนนี้หายไปแล้ว ดูท่าการสืบทอดมรดกครั้งนี้จะจบสิ้นลงแล้ว
แต่ปราณที่แผ่ออกมาจากสตรีนางนี้กลับเดี๋ยวมากเดี๋ยวน้อยไม่มั่นคง ทว่าแม้ในยามที่ปราณอ่อนแอที่สุดก็ยังระดับแก่นแท้ขั้นกลาง ส่วนพริบตาที่ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดเทียบเคียงได้กับระดับแก่นแท้ขั้นสมบูรณ์แบบ
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็พลันขมวดคิ้ว!
ตอนนี้ไหนเลยเขาจะยังมองไม่ออกอีกว่าระหว่างสืบทอดมรดกสตรีนางนี้คงเกิดปัญหาบางอย่างขึ้น ดูเหมือนนางจะถูกวิญญาณปีศาจจิ้งจอกเก้าหางตัวนั้นย้อนกลับมาควบคุมไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา