หลิ่วหมิงสีหน้าเปลี่ยนไปในทันใด บุรุษจมูกอินทรีเล็งจังหวะโจมตีได้ดีเกินไป เวลานี้หลบไม่พ้นแล้ว
ในห้วงวิกฤติเขาครุ่นคิดเร็วไว ทันใดนั้นมือข้างหนึ่งก็ทำท่าเคล็ดวิชา ธงคำสั่งสีฟ้าลอยมาอยู่ตรงหน้าก่อนจะหมุนอย่างรวดเร็วรอบหนึ่ง
พริบตานั้นน้ำทะเลรอบด้านพลันม้วนโถมออกมาปะทะกับคมดาบสายลม เกิดเสียงดังซู่ ซู่
แม้บุรุษจมูกอินทรีจะฉวยจังหวะได้เปรียบไปได้ แต่สภาพรอบด้านยังอำนวยประโยชน์ให้หลิ่วหมิง คลื่นลูกแล้วลูกเล่าซัดสาดเพียงไม่กี่ลมหายใจคมดาบสายลมมากมายก็ถูกซัดมลายหายไปจนหมด
หลังจากนั้นปีกเนื้อบนแผ่นหลังหลิ่วหมิงจึงขยับ ทั้งร่างหายวับไปปรากฏตัวไกลๆ
“ดูท่าจะประมาทไป”
เขาลอบเป่าลมหายใจ เดิมทีคิดว่าอาศัยข้อได้เปรียบของปีศาจสมุทรแปดขา แม้เอาชนะบุรุษจมูกอินทรีอาจเป็นไปไม่ได้นัก แต่ปกป้องตนเองคงไม่มีปัญหาแน่นอน ใครจะรู้ว่าบุรุษจมูกอินทรีกลับมองวิชาหลบหนีของเขาออกจนเขาเกือบจะบาดเจ็บจากคมดาบสายลมเหล่านั้น
“ไป!”
เขาเพิ่งยืนตั้งหลักได้ก็เอ่ยท่องมนตร์พร้อมกับเหวี่ยงธงคำสั่ง กระแสน้ำรอบด้านถูกชักนำให้โถมเข้าใส่บุรุษจมูกอินทรี ปีกทั้งสองของตนกระพือครั้งเดียวก็พาร่างหายไปท่ามกลางผืนน้ำอีกครั้ง
บุรุษจมูกอินทรีสีหน้าเคร่งขรึม แขนทั้งสองข้างกระหน่ำตะปบส่งแสงกรงเล็บสีดำออกมาตะปบคลื่นน้ำที่โถมเข้ามาจนกระจุย
ในเวลานี้เองแสงสีเงินพลันส่องสว่างขึ้นวูบหนึ่ง เงาร่างของหลิ่วหมิงปรากฏด้านหลังบุรุษจมูกอินทรีพร้อมกับที่กำปั้นซึ่งถูกปราณสีดำหุ้มอยู่สองข้างต่อยออกมาอย่างรุนแรง
บุรุษจมูกอินทรีไม่หันศีรษะกลับมา ทว่าพริบตานั้นจิตสัมผัสรับรู้ทุกสิ่งที่อยู่ด้านหลัง เขาตวาดเบาๆ ปราณปีศาจบนร่างเพิ่มพูนก่อนที่ทั้งร่างจะกลายเป็นเงาสีน้ำเงินสายหนึ่งพุ่งตรงขึ้นไปด้านบน
แม้รอบด้านจะมีคลื่นน้ำรบกวน ทว่าสำหรับเขาแล้วไม่มีผลกระทบมากนัก
“คิดหนี ไม่ง่ายปานนั้นหรอก!”
หลิ่วหมิงหัวเราะหยันครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นธงควบคุมวารีข้างกายพลันส่องแสง น้ำทะเลรอบด้านก่อตัวเป็นวังน้ำวนหมุนเร็วไวลูกหนึ่งซึ่งมีแรงดึงมหาศาล ทำให้ลำแสงที่พุ่งขึ้นฟ้าหยุดชะงักในทันใด
บุรุษจมูกอินทรีที่อยู่กลางแสงสีน้ำเงินสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที
ทันใดนั้นเสียงเปรี้ยงพลันดังขึ้น หลิ่วหมิงต่อยโค้งหนึ่งหมัด พลังมหาศาลสายหนึ่งพุ่งผ่านอากาศโจมตีลงบนหัวไหล่ของบุรุษจมูกอินทรี
บุรุษจมูกอินทรีอ้าปากพ่นเลือดคำหนึ่งออกมา ร่างกายปลิวถอยออกไปอย่างห้ามไม่ได้
หนึ่งหมัดนี้โจมตีลงบนร่างปีศาจอย่างที่เขาไม่คาดคิด พลังมหาศาลที่บรรจุอยู่ด้านในทำให้พลังปีศาจซึ่งปกป้องร่างกายมันสะเทือนอย่างรุนแรงจนได้รับบาดเจ็บภายในไม่น้อย
ผู้ที่ชมการต่อสู้ทั้งหมดเห็นสถานการณ์นี้ บนใบหน้าล้วนเผยสีหน้าตกตะลึงออกมา
ฝั่งเผ่าปีศาจส่วนใหญ่สีหน้าย่ำแย่!
เผ่าปีศาจระดับแก่นแท้ผู้มีชื่อด้านความเร็วดันถูกเผ่ามนุษย์ระดับแก่นเสมือนตัวเล็กๆ คนหนึ่งโจมตีโดน เดิมทีก็เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ
“จิ๊ๆ ไม่เสียทีได้ฉายาว่าศิษย์สายในอันดับหนึ่งแห่งนิกายยอดบริสุทธิ์ ถึงขั้นทำร้ายผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจจำพวกวิหคจนบาดเจ็บได้” ฝั่งเผ่ามนุษย์ อู่หงหญิงสาวผิวดำเอ่ยชมด้วยแววตาเป็นประกาย
“เหอะ ก็แค่โจมตีโดนครั้งเดียวเท่านั้น ต่อจากนี้ถึงจะเป็นการต่อสู้ที่แท้จริง” ในกลุ่มมีคนเอ่ยขึ้นอย่างไม่ยอมรับทันที
ผู้ฝึกฝนแซ่ซุนเห็นเช่นนี้ก็อึ้งไปเล็กน้อยเช่นกัน ลึกลงไปในดวงตาประกายแสงสีเลือดสายหนึ่งทอแสงขึ้นวูบหนึ่งก่อนจะหายไป
“เผ่ามนุษย์สมควรตาย กล้าทำร้ายข้า!”
บุรุษจมูกอินทรีหน้าเขียว อาการบาดเจ็บเท่านี้สำหรับเขาไม่นับว่าเป็นอันใด แต่ถูกเผ่ามนุษย์ที่ดูแคลนมาตลอดทำร้ายทำให้เขาผู้หยิ่งยโสเสมอรับไม่ได้อย่างยิ่ง
เสียงเปรี้ยงดังสนั่น!
เสื้อผ้าทั้งร่างเขาบวมพอง พลังปีศาจบนร่างฉับพลันเพิ่มพรวด ปราณสีน้ำเงินระเบิดขึ้นสู่ท้องนภา กระแสน้ำหลายสิบจั้งรอบด้านถูกผลักออกในทันใด พื้นที่ว่างรอบตัวเขาเกิดเสียงดังอื้ออึง
หลิ่วหมิงเห็นภาพนี้ก็เผยสีหน้าตกตะลึงออกมาเล็กน้อยอย่างห้ามไม่ได้ เขายิงเคล็ดวิชาหลายสายออกมาอย่างต่อเนื่อง ธงควบคุมวารีกะพริบแสงสีฟ้ารัว ดินแดนแห่งผืนน้ำรอบด้านเกิดวังน้ำวนหน้าตาดั่งพายุหมุนสิบกว่าลูกขวางระหว่างเขากับบุรุษจมูกอินทรีไว้
ในเวลาเดียวกันนี้แสงสีน้ำเงินที่ระเบิดออกมาจากร่างบุรุษจมูกอินทรีก็ค่อยๆ สงบลง เมื่อแสงสว่างดับหาย เขาก็เผยร่างออกมาอีกครั้ง
หลิ่วหมิงหรี่ตามอง หัวใจสั่นสะท้าน
บุรุษจมูกอินทรียามนี้หน้าตาเปลี่ยนไปมาก ดวงตากลายเป็นสีทองอร่ามทั้งดวง บนร่างมีขนนกสีดำแวววาวมากมายงอกออกมาปกคลุมร่างกายทั้งหมดไว้ จมูกที่งองุ้มเล็กน้อยกลายเป็นจงอยปากอินทรีสีน้ำเงินเข้ม รอบปีกเปล่งสีน้ำเงินครามชั้นหนึ่ง พลังปีศาจน่าหวาดกลัวสายแล้วสายเล่าไหลวนเลือนรางอยู่ระหว่างสองปีกไม่หยุด
ทว่ามือเท้าของเขาดูเหมือนจะยังคงเค้าโครงลักษณะของมนุษย์ไว้
หลิ่วหมิงคุ้นเคยดีกับสภาวะเช่นนี้ นี่คือสภาวะกลายร่างเป็นครึ่งปีศาจ บางครั้งสำหรับผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจบางตนสภาพนี้เหมาะกับการต่อสู้มากกว่าร่างปีศาจเต็มตัว
เขาท่องมนตร์แผ่วเบาหลายประโยคออกมาจากปากทันที ปราณดำบนร่างทะลักออกมาก่อตัวเป็นพยัคฆ์สีดำขนาดสิบกว่าจั้งห้าตัวเบื้องหน้า พวกมันคำรามใส่บุรุษจมูกอินทรี
“เด็กน้อยเผ่ามนุษย์ เจ้ากล้าทำร้ายข้า ข้าจะฉีกศพเจ้าเป็นหมื่นชิ้น!”
บุรุษจมูกอินทรีเมินพยัคฆ์ที่โถมเข้ามาหา เขาตวาดลั่นแล้วพลิกฝ่ามือ กลางฝ่ามือส่องแสงสีน้ำเงิน ทันใดนั้นกรงเล็บสีน้ำเงินเข้มปลอดยาวราวหนึ่งจั้งกว่าก็งอกออกมา ปลายด้านบนของเล็บคมสี่นิ้วทอประกายเย็นเยียบ ดูคมกริบยิ่งนัก
“ฉึบ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา