หลิ่วหมิงที่ชมศึกอยู่ท่ามกลางผู้คนด้านล่างจ้องเขม็ง
ผู้ฝึกฝนแซ่ซุนไม่สนใจสิ่งนี้สักนิด เขาเพิ่งหนีออกมาได้ สองมือก็ใช้เคล็ดวิชา ลำแสงสีขาวที่พุ่งออกมาจากในกระจกแสงสีขาวแปดบานรอบตัวฉับพลันระเบิดกลายเป็นลูกศรแสงมากมายนับไม่ถ้วนพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
“ฟึบ” “ฟึบ” เสียงแหวกอากาศดังลั่น!
ใบหน้าหมีสีดำถูกห่าฝนธนูสีขาวกลืนกินทะลวงเป็นรูนับไม่ถ้วนในพริบตา มันร้องโหยหวนจากนั้นสลายหายไปพร้อมเสียงดังกึกก้อง
บุรุษกำยำผิวดำเห็นเช่นนี้สีหน้าพลันเคร่งเครียด เขาตวาดแผ่วเบาคำหนึ่ง ปราณปีศาจสีดำบนร่างลุกโหมขึ้นในทันใด เส้นขนสีดำหนาอย่างยิ่งงอกออกจากทั้งสองมือและทั่วทั้งร่างอย่างรวดเร็ว
มองจากไกลๆ ทั้งร่างของเขาเหมือนลูกบอลขนสีดำขนาดยักษ์ลูกหนึ่งที่ลอยอยู่กลางท้องฟ้า
เมื่อธนูแสงสีขาวโจมตีลงบนนั้นพลันเกิดเป็นลายด่างดวงสีขาวจุดแล้วจุดเล่า เสียงปริแตกดังขึ้นดุจเม็ดฝนกระทบใบตอง แต่ไม่อาจโจมตีทะลุเข้าไปได้แม้แต่น้อย
“สลาย!”
ผู้ฝึกฝนแซ่ซุนเห็นเช่นนี้ ดวงตาพลันเปล่งประกายวูบหนึ่งแล้วตวาดเบาๆ จากนั้นสะบัดเคล็ดวิชาที่มือ
ทันใดนั้นธนูแสงทั้งหมดที่อยู่กลางอากาศล้วนระเบิดดังกึกก้อง แสงสีขาวแสบตากลืนบุรุษกำยำผิวดำเข้าไปด้านในทั้งตัว
บุรุษกำยำผิวดำรู้สึกเพียงด้านหน้าขาวโพลน สีหน้าเขาเปลี่ยนไปในทันใด เขารีบพุ่งถอยไปด้านหลังอย่างไม่คิดพลางยกสองมือขึ้นไขว้ต้านรับ
ทว่าเขาเพิ่งขยับตัว เหนือศีรษะพลันมีแสงสีขาวกะพริบวูบหนึ่ง กระจกแสงสีขาวแปดบานราวกับเคลื่อนย้ายชั่วพริบตามาปรากฏเหนือศีรษะบุรุษกำยำผิวดำ วงแหวนแสงสีขาวมหึมาวงหนึ่งครอบลงมาพร้อมกับเสียงครวญแผ่วเบา ล้อมบุรุษกำยำผิวดำไว้ด้านใน
บุรุษกำยำผิวดำหน้าถอดสี เขาตกตะลึงเมื่อพบว่าร่างกายไม่อาจขยับได้แม้แต่น้อยราวกับว่าอากาศรอบด้านจับตัวแข็ง
บุรุษร่างใหญ่เคร่งเครียด ป้ายเหล็กที่ซ่อนอยู่กลางฝ่ามือเปล่งแสงสีดำเจิดจ้า พริบตานั้นเกราะแสงปกป้องร่างสีดำจึงผุดขึ้นมา
สายตาของผู้ฝึกฝนแซ่ซุนจับจ้องการเคลื่อนไหวของบุรุษกำยำผิวดำอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ปากท่องมนตร์ สองมือก็สะบัดไม่หยุดทำท่ามือซับซ้อนหลากหลายท่า ก่อนจะอ้าปากพ่นโลหิตบริสุทธิ์หลายคำออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับที่ยื่นดัชนีนิ้วหนึ่งจี้กลางอากาศต่อกันหลายครั้ง
“ฟู่” “ฟู่” หลังจากเสียงฟู่ดังขึ้นต่อเนื่อง โลหิตบริสุทธิ์ฉับพลันแยกเป็นแปดก้อน พุ่งลงไปตกบนกระจกแสงสีขาวแปดบานในพริบตา
หลังจากทำทุกสิ่งนี้เสร็จสิ้น สีหน้าของผู้ฝึกฝนแซ่ซุนก็ซีดขาวไม่เห็นสีเลือดในพริบตา
หลังจากกระจกแสงแปดบานได้โลหิตบริสุทธิ์เสริมส่ง บานกระจกพลันเปล่งแสงเรืองรองเจิดจ้าส่งบุปผาเพลิงสีขาวดวงแล้วดวงเล่าร่วงลงบนเกราะแสงที่ปกป้องร่างของบุรุษกำยำผิวดำอยู่ เพียงพริบตาเดียวทะเลเพลิงสีขาวก็กลืนบุรุษกำยำผิวดำเข้าไปด้านในแล้วลุกโหมกระหน่ำ
ทันใดนั้นผู้ฝึกฝนที่ชมการต่อสู้อยู่สองด้านก็เห็นแต่เปลวเพลิงสีขาวที่ลุกโหมอยู่กลางวงแหวนแสงมหึมา ไม่อาจมองเห็นสภาพด้านในได้แม้แต่น้อย ทว่าเสียงดังสนั่นดังออกมาเป็นระยะ เห็นชัดว่าผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจหมีด้านในกำลังพยายามโจมตีวงแหวนแสงสุดชีวิต
ผู้ฝึกฝนแซ่ซุนขยับร่างกายวูบเดียวก็ปรากฏร่างบนท้องฟ้าเหนือกระจกแสงสีขาวแปดบาน
การโจมตีที่บรรลุผลติดต่อกันไม่ได้ทำให้เผยสีหน้ายินดีแม้แต่น้อย กลับกันเขากลับทรุดนั่งขัดสมาธิด้วยสีหน้าถมึงทึงอยู่บ้าง สองมือตั้งท่าเคล็ดวิชา แสงสีขาวเรียวเล็กสายหนึ่งบินออกมาจากร่างแล้วเชื่อมกับกระจกแสงสีขาวเบื้องล่าง
ทันใดนั้นเกราะแสงสีขาวเบื้องล่างเริ่มเลือนหาย แสงจิตวิญญาณเริ่มกะพริบ
“ผู้อาวุโสอิง หัวหน้าสยงเยวี่ยอยู่ด้านในจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” บุรุษร่างใหญ่แห่งเผ่าหมีเถื่อนตนหนึ่งเห็นภาพนี้ตรงหน้าก็เผยสีหน้ากังวล เอ่ยกับบุรุษจมูกอินทรีอย่างนอบน้อม
“หากอันตรายจริง พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องรักษาสัญญาประการใด บุกเข้าไปช่วยหัวหน้าเลยก็ได้” บุรุษเผ่าหมีเถื่อนอีกคนหนึ่งเอ่ยด้วยสีหน้ากระเหี้ยนกระหือรือ
“ฮ่าๆ พวกเจ้ากังวลอะไร? แม้ผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์คนนี้จะมีพลังอยู่บ้าง แต่เขาใช้วิชาติดๆ กันเช่นนี้ย่อมเสียพลังเวทไปมาก เปลวเพลิงสีขาวเหล่านั้นแม้พลังมาก แต่ด้วยการป้องกันของป้ายเทพเจ้าหมีชิ้นนั้นของสยงเยวี่ยย่อมต้านไว้ได้แน่นอน รอดูซิว่าพลังเวทของใครจะใช้หมดก่อน หากไม่ไหวจริงๆ ค่อยลงมือก็ไม่สาย” บุรุษจมูกอินทรีหัวเราะเสียงประหลาดเบาๆ ท่าทางไม่กังวลแม้แต่น้อย
บุรุษเผ่าหมีเถื่อนทั้งสองได้ยินต่างมองตากันครั้งหนึ่งแล้วรับคำถอยหลังไป
ฝั่งผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์ไกลออกไป ทุกคนกำลังยินดีระคนกังวลปะปนกัน
เริ่มแรกเมื่อเห็นผู้ฝึกฝนแซ่ซุนกักขังผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจหมีเถื่อนเอาไว้ได้ ทุกคนต่างก็ตื่นเต้นยินดีกันพักหนึ่งจริงๆ ทว่าตอนนี้สถานการณ์กลายเป็นสองฝ่ายแข่งพลังเวทกัน พวกเขาย่อมกังวลอย่างยิ่ง
หลิ่วหมิงขยับไปด้านหลังทุกคนอย่างเงียบเชียบ สายตาทอประกายวูบไหวมองผู้ฝึกฝนแซ่ซุนที่อยู่กลางท้องฟ้า ไม่ทราบว่าคิดสิ่งใดอยู่
เวลาผ่านไปทีละน้อย ผู้ฝึกฝนทั้งสองฝ่ายเริ่มอดรนทนไม่ไหว
ฝั่งเผ่ามนุษย์ด้านนี้ยังดี แต่เหล่าผู้ฝึกฝนเผ่าหมีเถื่อนหากไม่มีบุรุษจมูกอินทรีขวางไว้คงพุ่งออกไปนานแล้ว
กลางท้องฟ้าผู้ฝึกฝนแซ่ซุนสีหน้าซีดเผือดดุจกระดาษ ดวงตาทั้งสองข้างหม่นแสงลงบ้าง ลมปราณบนร่างยิ่งเหลือไม่ถึงหนึ่งหรือสองส่วนในสิบส่วนจากยามที่พลังเต็มเปี่ยม
วงแหวนแสงสีขาวที่กระจกแสงแปดบานข้างใต้ตัวเขาแผ่ออกมาหม่นแสงลงไปมาก แต่เปลวเพลิงสีขาวด้านในยังคงโหมกระหน่ำ
ในเวลานี้เองเสียงทุ้มต่ำเสียงหนึ่งพลันดังออกมาจากในวงแหวนแสง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา