“ยังมีอีก พวกนี้คือดอกแมวเพลิง ดูระดับแล้วคงเป็นระดับสุดยอด”
“หญ้าเสียงหงส์!”
“ผลมังกรตระหง่าน!”
จินเทียนชื่อดูเหมือนคุ้นเคยกับหญ้าจิตวิญญาณและสมุนไพรจิตวิญญาณอย่างยิ่ง เขาเอ่ยชื่อและอายุของสมุนไพรแต่ละชนิดออกมาราวกับนับสมบัติในบ้าน แต่ไม่เอื้อมมือออกไปเด็ด
ครึ่งหนึ่งของหญ้าจิตวิญญาณกับสมุนไพรจิตวิญญาณในสวนอายุเกินหนึ่งหมื่นปี แต่นี่ก็ไม่แปลก เศษซากโลกบนเปิดออกสามหมื่นปีหน อีกทั้งที่นี่ยังค่อนข้างเร้นลับ อาจไม่มีใครมาถึงที่แห่งนี้หลายหมื่นปีแล้ว
“หญ้าจิตวิญญาณเหล่านี้มีค่ากับนิกายยิ่งนัก ศิษย์น้องหลัว หลังเจ้าออกจากเศษซากโลกบนหากมอบหญ้าจิตวิญญาณกับสมุนไพรจิตวิญญาณเหล่านี้ทั้งหมดให้แก่นิกาย เชื่อว่านิกายจะต้องไม่เอาเปรียบเจ้าแน่” จินเทียนชื่อสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วเอ่ยกับหลัวเทียนเฉิง
หลัวเทียนเฉิงฟังแล้วแววตาร้อนแรง รีบประสานมือเอ่ยว่า
“เรื่องนี้แน่นอนอยู่แล้ว ขอบคุณศิษย์พี่จินยิ่งนักที่ชี้แนะ”
“เอาล่ะ ทุกคนเก็บหญ้าจิตวิญญาณกับสมุนไพรจิตวิญญาณที่โตเต็มที่ตรงนี้ไปให้หมดแล้วรีบไปจากที่นี่ ข้ารู้สึกว่าที่แห่งนี้พิกลอยู่บ้าง” จินเทียนชื่อเอ่ยกับคนที่เหลือรอบด้าน
หนึ่งเค่อหลังจากนั้นหญ้าจิตวิญญาณกับสมุนไพรจิตวิญญาณทั้งสวนสมุนไพรก็ถูกเด็ดมาหมดสิ้น ครึ่งหนึ่งมอบให้หลัวเทียนเฉิง ส่วนสมุนไพรจิตวิญญาณอีกครึ่งหนึ่งแบ่งให้ศิษย์ห้าคนที่เหลือเท่าๆ กัน จินเทียนชื่อเก็บไว้เพียงไม่กี่ชนิดในนั้นเท่านั้น
“ไปเถอะ” จินเทียนชื่อกล่าว จากนั้นแสงดาวก็หุ้มรอบร่างแล้วเหาะนำไปยังทางที่เข้ามาก่อนหน้านี้
ทุกคนเห็นเช่นนี้ย่อมไม่รั้งอยู่ต่อ พวกเขาพากันกลายเป็นลำแสงตามไปติดๆ
เพราะยามมากังวลว่าในทางเดินนี้จะมีอันตราย ทุกคนจึงเดินช้าอย่างยิ่ง เวลานี้ยามกลับพวกเขากลายเป็นลำแสงเหาะไปตลอดทาง เพียงครู่เดียวก็เหาะออกมาจากตำหนักศิลาสีน้ำเงินแล้ว
ทุกคนมองสภาพรอบประตูตำหนักศิลาก็เห็นเพียงรอบด้านเงียบสงบ ไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติแม้แต่น้อย สีหน้าจึงผ่อนคลาย
“ฮ่าๆ รอบนี้เสียแรงไม่เท่าไรก็ได้สมุนไพรล้ำค่ามาไม่น้อย ต้องขอบคุณศิษย์น้องหลัวมาก” ศิษย์หนุ่มรูปร่างกำยำคนหนึ่งยิ้มแย้มเอ่ยขึ้นมา
สามคนที่เหลือรวมทั้งเวินเจิงได้ยินก็พยักหน้าแล้วเอ่ยตามอีกหลายประโยค
หลัวเทียนเฉิงหัวเราะแผ่วเบา ขณะที่กำลังจะเอ่ยถ้อยคำถ่อมตนสักสองสามประโยค ทันใดนั้นจินเทียนชื่อที่ยืนอยู่ด้านหน้าพวกเขาก็เปลี่ยนสีหน้า สายตากวาดมองรอบด้านอย่างเร็วไวแล้วเอ่ยเสียงเย็นชาขึ้นว่า
“ระวัง พวกเราถูกล้อมแล้ว”
คนที่เหลือได้ยินต่างตกตะลึงทันที แต่ยังไม่ทันที่จะทำสิ่งใด จู่ๆ บึงน้ำรอบแอ่งกระทะก็พลันมีแสงสีฟ้าสิบกว่าสายส่องสว่าง พร้อมกับที่ไอเย็นยะเยือกสีขาวโถมไปทั่วทุกสารทิศ พริบตาเดียวปกคลุมพื้นที่หลายร้อยจั้ง อากาศหนาวขึ้นจนเกล็ดหิมะสีขาวลอยละล่องลงมา
ชายหนุ่มร่างกำยำสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ร่างกายขยับคิดจะเหาะขึ้นไปบนท้องฟ้า
“อย่าขึ้นไป ด้านบนก็มีคน!” จินเทียนชื่อดึงเขาไว้พร้อมกับเอ่ยเสียงเย็นชา
เมื่อคำนี้เอ่ยออกมา พวกหลัวเทียนเฉิง เวินเจิงและคนอื่นๆ ล้วนเปลี่ยนสีหน้าไปในทันใด เดิมพวกเขาก็คิดจะเหาะขึ้นไปข้างบนเช่นกัน แต่เวลานี้ได้ยินคำพูดของจินเทียนชื่อจึงรีบหยุดร่างกายไว้
ผลปรากฏว่าสิ้นเสียงจินเทียนชื่อไม่นาน รอบด้านและบนท้องฟ้าพลันเกิดคลื่นไหวสะเทือน เงาคนสีฟ้ากลุ่มหนึ่งปรากฏตัวออกมาอย่างเชื่องช้า
พวกหลัวเทียนเฉิงปฏิกิริยาว่องไวที่สุด เวลานี้บนร่างมีเกราะป้องกันหลากสีส่องสว่าง มีเพียงจินเทียนชื่อที่ไม่ได้ทำสิ่งใดเลย เขายังคงยืนเอามือไพล่หลัง ดวงตากวาดมองเงาคนสีฟ้าที่อยู่รอบด้าน สุดท้ายก็หยุดสายตาอยู่บนร่างคนสีฟ้าสองร่างกลางท้องนภาแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“พวกเจ้าเป็นผู้ใด เหตุใดต้องซุ่มโจมตีพวกเราที่นี่”
เวลานี้แสงสว่างบนร่างเงาคนสีฟ้ารอบด้านค่อยๆ จางลงจนเผยโฉมหน้าที่แท้จริง พวกเขาก็คือพวกต่างเผ่าร่างสีฟ้าที่ลอบมองคนของนิกายยอดบริสุทธิ์ก่อนหน้านี้นั่นเอง บนร่างพวกเขามีเกล็ดใสแวววาวสีฟ้าอ่อนงอกอยู่เต็มไปหมด
“จิ๊ๆ พวกเจ้าเผ่ามนุษย์ช่างน่าขันเสียจริง กำลังจะตายอยู่แล้วยังจะเปลืองคำพูดมากมายอะไรปานนั้น!” ปราณที่แผ่ออกมาจากร่างพวกต่างเผ่าสองคนกลางท้องฟ้ามหาศาลอย่างยิ่ง กลางหว่างคิ้วของแต่ละตนมีตราสัญลักษณ์สีม่วงคล้ายกลีบดอกไม้ดวงหนึ่ง พวกต่างเผ่าตนหนึ่งในนั้นที่สะพายหอกยาวสีฟ้าอยู่ข้างหลังได้ยินคำถามของจินเทียนชื่อก็หัวเราะหยันอย่างอดไม่ไหว
“ศิษย์พี่จิน เจ้าพวกนี้ก็คือพวกต่างเผ่าที่ลอบจู่โจมฐานที่มั่นชั่วคราวของพวกเราเมื่อหลายวันก่อน!” เมื่อชายหนุ่มกำยำเห็นร่างจริงของเงาคนสีฟ้ารอบด้านก็เอ่ยขึ้นอย่างโกรธแค้นยิ่งนัก
คนที่เหลือต่างก็ตกใจจนหน้าถอดสี!
“เผ่าเกล็ดผลึกจากสุดยอดเผ่าทั้งสาม แล้วยังมีสายเลือดราชวงศ์อีกด้วย!”
เมื่อจินเทียนชื่อเห็นหน้าตาของพวกต่างเผ่าสีฟ้าสองตนกลางท้องฟ้าชัดก็สูดลมหายใจลึก สีหน้าเปลี่ยนไปเป็นครั้งแรก
“ค่ายกลผลึกเกลียวคลื่น ตั้ง!”
พวกต่างเผ่าระดับแก่นแท้อีกตนหนึ่งเป็นสตรี หน้าตาคล้ายกับสหายที่สะพายหอกยาวบนหลังอยู่บ้าง นางเหมือนคร้านจะเปลืองคำพูดแล้วจึงโบกมือ แสงสีฟ้าอ่อนสว่างขึ้นบนร่างในทันใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา