ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 100

ลมปราณที่แข็งแกร่งน่าหวาดกลัวดุจท้องฟ้าท้องทะเล ค่อยๆ ปรากฏเค้าลางขึ้นในที่ที่ไกลออกไป

ราวกับมีดวงอาทิตย์ทะยานขึ้นจากเส้นขอบฟ้าทางทิศตะวันออก ส่องแสงสีทองเจิดจ้า

จันทราในแสงรัตติกาลของแสงรัตติกาลเดิมทีเริ่มแตกสลายภายใต้แสงสว่างจ้านั้น บัดนี้ยิ่งดูอ่อนแรงลงไปอีก

ท้ายที่สุดไม่ว่าอย่างไรค่ำคืนมืดมิดก็ต้องผ่านพ้นไป ดวงอาทิตย์จะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า โลกมนุษย์เหลือเพียงแต่ความสว่างไสวเท่านั้น

เยี่ยนจ้าวเกอมองไกลออกไป พลางพูดเสียงเบาว่า “การสืบทอดของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ วรยุทธ์ของมหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรม”

ระดับมหาปรมาจารย์ขั้นสิบ ขั้นสูงที่สุดของทั้งสิบขั้น เรียกว่าขั้นบรรลุธรรม

ละทางโลกสู่ความศักดิ์สิทธิ์

เมื่อก้าวเข้าสู่ระดับขั้นนี้แล้ว นั่นหมายความว่าจอมยุทธ์เริ่มที่จะทะยานสู่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์อย่างเป็นทางการ

โดยปกติแล้วก็เหมือนกับจอมยุทธ์ระดับปรมาจารย์ขั้นฝ่านภา อันเป็นขั้นสูงสุดของระดับปรมาจารย์ โดยที่ส่วนมากจะเข้าฌานเพื่อเตรียมบรรลุสู่ระดับมหาปรมาจารย์

ยอดฝีมือขั้นบรรลุธรรมเดินดินอยู่ภายนอกน้อยมาก ส่วนมากมักจะเก็บตัวเพื่อฝึกฝนตนเอง โดยหวังว่าจะสามารถข้ามผ่านขอบเขตมนุษย์ที่เป็นขั้นสุดท้าย แล้วเข้าสู่ความศักดิ์สิทธิ์โดยพลัน!

การประสบความสำเร็จในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ ไม่เพียงแต่จะทำให้พลังความสามารถแก่กล้าขึ้นเท่านั้น ทว่ายังสามารถยืดอายุขัยของจอมยุทธ์ออกไปได้อีกนานมากด้วย

ดังนั้นมหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรมจึงเคลื่อนไหวอยู่ภายนอกน้อยนัก

ถึงกระนั้นเบื้องหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอในขณะนี้ กลับคล้ายว่าจะมีมหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรมผู้หนึ่งปรากฏกายขึ้น!

“พานป๋อไท่ ผู้อาวุโสสูงสุดแห่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างช้าๆ ว่า “คล้อยประจิมของเจ็ดสุริยันรุ่นแรก หลังจากที่ย่างก้าวเข้าขั้นบรรลุธรรมก็ถอนตัว และมอบตำแหน่งคล้อยประจิมให้กับรุ่นหลังแทน เพื่อจะเก็บตัวฝึกฝน”

“คงจะเป็นท่านตาของเซียวเซิงไม่ผิดแน่”

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่า “ในบรรดามหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรม เขานับว่าเป็นผู้ที่มีการเคลื่อนไหวค่อนข้างมาก อีกทั้งยังปรากฏตัวบนโลกอยู่บ่อยครั้ง”

อาหู่อึ้ง “คุณชายขอรับ ท่านผู้อาวุโสสืออาจจะต้านทานตาเฒ่าประหลาดนั่นไม่ไหว ยิ่งไปกว่านั้นยังมีแสงรัตติกาลอยู่ทางด้านนี้อีก”

ชายหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อย และในตอนนี้เองก็มีเงาคนผู้หนึ่งสว่างวาบขึ้น ชายชราร่างผอมแห้งคนหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้า ซึ่งนั่นก็คือผู้อาวุโสเขากว่างเฉิงคนนั้นที่ใช้วิชาฝ่ามือม่านทอง ช่วยเยี่ยนจ้าวเกอสกัดกั้นมหาปรมาจารย์แห่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ และหานเซิ่ง เฒ่ามารหัวขวานเอาไว้ก่อนหน้านี้

ชายชราร่างผอมแห้งมองเยี่ยนจ้าวเกอกับอาหู่ และเหยียนซวี่ที่ถูกบั่นศีรษะด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย

ถึงอย่างไรเหยียนซวี่ก็เป็นยอดฝีมือระดับมหาปรมาจารย์ อีกทั้งพลังความสามารถก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าชายชราร่างผอมแห้งผู้นี้เลยแม้แต่น้อย

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะถูกสือเถี่ยโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส ทว่าอย่างไรอูฐที่ผอมตายก็ตัวใหญ่กว่าม้า คิดไม่ถึงเลยว่าเยี่ยนจ้าวเกอกับอาหู่จะสังหารเขาจนสิ้นชีพโดยที่ไม่ต้องเสียอะไรเลย

อาการบาดเจ็บบนร่างกายของอาหู่ ก็เป็นแผลเก่าเกิดจากฝนสุริยะของเซียวเซิงทำร้าย ขณะอยู่ที่หุบเขาวายุวิญญาณ

ชายชราผอมแห้งที่เห็นภาพนี้แล้วก็สนอกสนใจอย่างยิ่ง

หากจะบอกว่าเป็นเพราะอาศัยพลังของอาวุธวิญญาณ เหยียนซวี่เองก็มีอาวุธวิญญาณ ต่อให้ถูกสือเถี่ยเล่นงานจนบาดเจ็บหนักเช่นกัน กระนั้นดาบแสงคลื่นครามซึ่งเป็นอาวุธวิญญาณระดับกลาง ก็ไม่น่าจะทำให้เขาถึงขั้นเสียเปรียบได้

ชายชราร่างผอมแห้งรีบสลัดคู่ต่อสู้ของตนเองแล้วรีบเร่งตามมา โดยเดิมทีเขาคิดว่าเยี่ยนจ้าวเกอกับอาหู่จะอาศัยอาการบาดเจ็บของเหยียนซวี่ใช้ชะลอการหนีของเขาได้

ทว่าใครจะไปคิด ว่าผลสุดท้ายกลับเป็นเหยียนซวี่ที่ถูกทั้งสองสังหารจนสิ้นชีพ

เขาหันไปถอนหายใจให้เยี่ยนจ้าวเกอ “คิดจะหนีตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว พานป๋อไท่มุ่งหน้ามาหาเจ้าเป็นการเฉพาะ”

เมื่อเอ่ยถึงนามของพานป๋อไท่ เสียงของชายชราร่างผอมก็หนักแน่นขึ้น

ชื่อของคน เงาของต้นไม้ พานป๋อไท่เป็นผู้อาวุโสเก่าแก่แห่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ และเป็นคนรุ่นเดียวกับ ‘สุริยันทิศบูรพา’ หวงกวงเลี่ย และ ‘ปราชญ์เทียมนภา’ หยวนเจิ้งเฟิง เจ้าสำนักคนเก่าของเขากว่างเฉิง

ชื่อเสียงเลื่องลือมาหลายปี ผลงานการรบเป็นที่น่านับถือ อีกทั้งเข้าสู่ระดับบรรลุธรรม นับว่าเป็นยอดฝีมือที่เป็นที่รู้จักไปทั่วในระดับมหาปรมาจารย์

ความกดดันที่มาจากเขาแน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งที่แสงรัตติกาล ทะยานบูรพา หรือคนอื่นๆ จะเทียบเคียงได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี