นิ้วมือของเยี่ยนจ้าวเกอลูบบนแหวนที่เต็มไปด้วยรอยร้าว
แหวนวงนี้ครั้งหนึ่งเคยกลายเป็นลำแสง อีกทั้งหลอมรวมเข้าไปในร่างกายของเยี่ยจิ่ง แต่ตอนนี้มันกลับคืนรูปเดิมอีกครั้ง
เพียงแต่แหวนที่ก่อนหน้านี้ราวกับเปลวเพลิงที่ดึงดูดสายตา ขณะนี้กลับมืดมนไร้แสงคล้ายกับมีฝุ่นเกาะ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
บนผิวของแหวนเต็มไปด้วยรอยแตกนับไม่ถ้วนราวกับใยแมงมุม และเหมือนพร้อมจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ได้ทุกเมื่อ ทว่าเมื่อเยี่ยนจ้าวเกอนำแหวนมากำเอาไว้ในมือ ก็ยังคงสัมผัสได้ถึงความอุ่นของแหวนอยู่เลือนราง
เยี่ยนจ้าวเกอหรี่ตาลงจนเป็นเส้นตรง รวบรวมสมาธิ เชื่อมเข้าสู่ภายในแหวน
ภาพสถานการณ์ตรงหน้าเกิดการเปลี่ยนแปลงในทันที
ในตอนแรกเป็นความมืดมิดไปทั่วทั้งผืน จากนั้นท่ามกลางความมืดที่มองไม่เห็นแม้แต่นิ้วมือทั้งห้า จู่ๆ ก็พลันเกิดแสงส่องสว่างขึ้น
แท้จริงแล้วลำแสงนั้นอ่อนกำลังเป็นอย่างยิ่ง เป็นเพียงแค่ลำแสงจางๆ สายหนึ่งเท่านั้น แต่เพราะรอบข้างมีแต่ความมืด ดังนั้นต่อให้เป็นเพียงแค่แสงสว่างที่อ่อนแรง มันก็ยังคงสะดุดตามาก
เมื่อเยี่ยนจ้าวเกอเพ่งมองไป มันดูเหมือนเป็นเพียงแค่ประกายเพลิงสีแดงขนาดเล็กเท่านั้น
ประกายเพลิงค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น ส่องแสงสว่างมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นเพลิงเล็กๆ ดวงหนึ่ง
เปลวเพลิงเผาไหม้ลุกโชน ขณะเดียวกันก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากดวงเพลิงขนาดเล็ก กลายเป็นดวงเพลิงขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า กระทั่งต่อมาก็กลายเป็นทะเลเพลิงในที่สุด
และท้ายที่สุดแล้ว ความมืดก็สลายไปทั้งหมด แสงไฟแผดเผาไปทั่วทั้งแผ่นดิน เบื้องหน้ากลายเป็นโลกแห่งเปลวเพลิงโดยสิ้นเชิง
ไม่มีสิ่งใดอยู่เลย นอกจากเพลิงไฟที่กำลังโชติช่วง
เยี่ยนจ้าวเกอสงบจิตใจลง แล้วก้าวช้าๆ ไปยังโลกทะเลเพลิง เพื่อสัมผัสระดับพลังจากภายในของมัน
ทั่วทั้งสี่ทิศเต็มไปด้วยไฟโหมกระหน่ำ แต่เยี่ยนจ้าวเกอสัมผัสพลังของมันอย่างละเอียดแล้ว เขาพบว่าแม้เปลวเพลิงจะลุกโชนไปทั่ว แต่ก็ไม่ได้สะเปะสะปะไร้กฎเกณฑ์
เปลวเพลิงก็เหมือนกับกระแสน้ำทะเล มีทิศทางกฎเกณฑ์การเคลื่อนไหวและการหมุนเวียนในตัวของมันเอง
ชายหนุ่มพิจารณาจนได้บทสรุป เขาเริ่มเข้าใจแล้ว
เพลิงลุกโชนบ้าคลั่งที่กำลังกลืนกินรอบด้าน จู่ๆ ก็เปลี่ยนรูปร่างต่อหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ
มันคล้ายกันรวมตัวเป็นอักขระที่แปลกประหลาดมากมาย เรียงรายเป็นแถวอักษรนับไม่ถ้วน จากนั้นก็ตัดสลับเข้าหากัน หมุนวนอยู่กลางอากาศอย่างไม่หยุดหย่อนซ้ำแล้วซ้ำอีก
เขามองดูอักษรเหล่านี้ มุมปากกระตุกยิ้มเล็กน้อย “อักษรที่จักรพรรดิปีศาจอัคคีสร้างขึ้น ก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่”
“แม้ว่าจะยังไม่เคยศึกษาจริงจังมาก่อน ทว่าข้าก็พอรู้หลักเกณฑ์คร่าวๆ ยู่บ้าง แค่ลองคาดเดาดูก็น่าจะพอเข้าใจเนื้อหาสำคัญได้บ้าง”
“เป็นการสืบทอดของจักรพรรดิปีศาจอัคคีดังคาด”
เยี่ยนจ้าวเกอกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่บ้าง “ในฐานะที่เป็นคนของโลกแปดพิภพ ได้รับการสืบทอดเช่นนี้มา บัดนี้ก็ไม่รู้ว่าเยี่ยจิ่งโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่”
หลังจากที่อ่านอักขระที่แปลกประหลาดพวกนี้อย่างละเอียด และสัมผัสระดับภายในนั้นแล้ว ภายในใจของเยี่ยนจ้าวเกอก็ค่อยๆ เข้าใจอะไรบางอย่าง
“เทียบกับแนวทางการฝึกฝนของเผ่าปีศาจอัคคีในปัจจุบัน ยังคงมีความแตกต่างอยู่มากดังที่คาดไว้ ในฐานะที่จักรพรรดิปีศาจอัคคีเป็นยอดฝีมือก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ การสืบทอดของเขาก็มีวรยุทธ์อันแกร่งกล้ามากเช่นกัน”
“อาศัยพลังสาย ‘เพลิง’ ก็สร้างพลังหลายสายได้”
ชายหนุ่มกล่าวในใจว่า ‘เพียงแค่เปลี่ยนไปทางด้านจิตใจของเยี่ยจิ่ง ดูอย่างไรก็คล้ายกับวิธีการฝึกฝนของเผ่าปีศาจอัคคีในปัจจุบัน’
ท่ามกลางแสงจากเปลวเพลิงเบื้องหน้า ค่อยๆ ปรากฏประตูขนาดใหญ่ที่ปิดสนิทเอาไว้บานหนึ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอสัมผัสถึงประตูบานนั้นอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะนำจิตรับรู้ออกจากโลกแห่งทะเลเพลิง กลับสู่ความเป็นจริงอีกครั้ง
จากนั้นเขาก็ขับเคลื่อนพลังปราณของเชื้อไปไฟสัจจะอัคคีเข้าสู่แหวน ทำให้แหวนที่เต็มไปด้วยรอยแตกคล้ายกับได้รับการหล่อเลี้ยง ค่อยๆ ส่องแสงสีแดงวาบหลายสายออกมา
เขานำจิตสำนึกของตนเองเข้าไปภายในแหวนอีกครั้ง ก่อนจะพบว่าประตูบานใหญ่ที่ปิดสนิทเอาไว้ บัดนี้ได้เปิดออกแล้ว
ด้านในประตู ท้องฟ้าเป็นสีแดงเข้มทั้งผืน บนพื้นดินเต็มไปด้วยหินหลอมเหลวปะทุ หินหนืดก็ขยายขอบเขตไปทั่วทุกทิศ
ภาพเหตุการณ์วันสิ้นโลกที่เคยเห็นมาก่อนหน้านี้ ปรากฏขึ้นตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง
เปลวเพลิงที่กระจายอยู่ทั่วท้องฟ้าก็หลอมรวมกันอยู่กลางอากาศอย่างช้าๆ แล้วกลายเป็นเทพยักษ์เพลิงมายาที่ทั้งเก่าแก่และแข็งแกร่ง
พลังของภัยพิบัติขนาดใหญ่ การทำลายล้างขนาดใหญ่ และความทรมานอย่างยิ่งส่งออกมาจากภายใน ช่างรกร้างไร้ความเจริญ ต่างจากโลกแปดพิภพในปัจจุบันโดยสิ้นเชิง
ทว่าเพราะถูกสือเถี่ยและเยี่ยนจ้าวเกออย่างหนัก ขณะนี้แหวนจึงอ่อนกำลังลงอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี