ประมุขอิสานหลิวเจิงกู่กับประมุขบูรพานักพรตเทียนอี้คุมเชิงกันอยู่บนท้องฟ้า
ใกล้ๆ กันนั้น ประมุขพายัพเลี่ยนจู่หลินกับประมุขทักษิณจวงเซินยืนเคียงไหล่ก้มมองเขากว่างเฉิง ซึ่งตั้งตระหง่านบนน่านน้ำของดินแดนจิตคุณธรรมด้านล่าง
ประมุขประจิมหลางชิงปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันบนผิวทะเล ประสานสายตากับประมุขอาคเนย์เฉาเจี๋ยที่อยู่บนยอดเขานภากาศของเขากว่างเฉิง
แรงกดดันที่หกประมุขในหมู่คนนำมา อย่าว่าแต่ดินแดนจิตคุณธรรมที่เขากว่างเฉิงตั้งอยู่ ทะเลหวงเจียทั้งผืนในตอนนี้เหมือนกับผนึกแข็ง
คลื่นบนทะเลราบเรียบราวกับผิวกระจก
การกระเพื่อมในยามปกติหยุดลงโดยสมบูรณ์ มหาสมุทรเหมือนกับกลายเป็นแผ่นดิน
กลิ่นอายที่แข็งแกร่งกวนคนมิติเวลา ก่อเกิดเป็นเงาบนทะเลหวงเจีย
จอมยุทธ์ส่วนใหญ่บนพื้นที่ของเขตตะวันอาคเนย์และเขตเพลิงทักษิณที่อยู่ติดกัน มองเห็นเหตุการณ์ในทะเลหวงเจีย
ทุกคนมองพวกจวงเซินกับเฉาเจี๋ยอย่างตะลึงลาน พูดอะไรไม่ออก
แม้ว่าจะคาดการณ์ไว้แล้ว แต่การมารวมตัวกันบนทะเลหวงเจียของยอดฝีมือระดับสุดยอดจำวนมากขนาดนี้ ยังบันดาลให้คนที่ชมดูรู้สึกสั่นสะท้าน
สามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิ ประมุขทั้งสิบ
คำพูดนี้หมายถึงตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดบนโลกซ้อนโลกในปัจจุบัน
การกำหนดรูปเช่นนี้มีมานานมากกว่าพันปี ได้ซึมซาบสู่จิตใจคน
เนื่องจากเหตุผลมากมาย ในกาลเวลาอันยาวนานจึงเคยมีการสับเปลี่ยนคนในบรรดาสามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิและประมุขทั้งสิบมาก่อน
นอกจากตัวอย่างที่พิเศษถึงขีดสุดแล้ว จักรพรรดิ กษัตริย์ และประมุข มีช่วงเวลาที่มีคนน้อย แต่ไม่มีช่วงเวลาที่มีคนเกิน
อย่างเช่นในตอนที่คุณชายฟ้าเฉินกานหัวยังไม่ได้เลื่อนเป็นระดับประมุขเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน โลกซ้อนโลกเคยมีช่วงสั้นๆ ที่มีประมุขเก้าคน
จนกระทั่งเฉินกานหัวได้แสดงความสามารถน่าตื่นตะลึง ปีนถึงฟากฟ้าในก้าวเดียว ประมุขทั้งสิบจึงค่อยมีชื่อพ้องกับความจริง
ส่วนใหญ่แล้วในยามปกติ ประมุขแต่ละคนจะแยกกันอยู่บนดินแดนของใครของมัน นานๆ ครั้งถึงจะออกมาด้านนอก
ทว่าในปัจจุบันกลับมีประมุขถึงหกคนมารวมตัวกันบนเขากว่างเฉิง
หลายปีมานี้ นอกจากการไปยังเขาคุนหลุนในเขตมหานภากลางพร้อมหน้ากันแล้ว นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด
กระนั้นต่อจากนี้ก็เป็นไปได้ว่าจะเกิดสงครามใหญ่ของโลกซ้อนโลก ที่หลายปีมานี้หายากยิ่ง
สงครามระหว่างจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับประมุข ผู้เป็นมนุษย์เซียน
ถึงแม้ว่าจะมีแค่ประมุขอิสานกับประมุขบูรพาที่แสดงสภาวะออกมาทั้งหมด พวกเฉาเจี๋ยและจวงเซินสี่คนยังไม่ได้ลงมือ แต่ในตอนนี้ คนของเขากว่างเฉิงที่สัมผัสได้ถึงพลังที่น่าสั่นสะท้าน ก็เกิดความหวาดกลัวขึ้น
ครั้งนี้บนเขากว่างเฉิงยังมีแม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์กับยอดฝีมือระดับสุดยอดในฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ที่รับคำเชิญมา ยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายมีไม่ต่ำกว่าหนึ่งคน
กระนั้นแม้ว่าจะเป็นพวกเขา พอได้สัมผัสได้ถึงแรงกดดันนั้น ก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว ไม่อย่างนั้นมีแต่ทางตายสถานเดียว
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับประมุข ร่างของมนุษย์เซียน
ไฉนจึงเป็นมนุษ์เซียน
อยู่ต่ำกว่าเซียน อยู่เหนือมนุษย์ ไม่ได้สำเร็จเป็นเซียน และไม่ใช่มนุษย์
มนุษย์ที่ใช้โอกาสน้อยนิดทดลองสู้กับตัวตนระดับจักรพรรดิได้ มีแต่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสิบ ขั้นประมุขในหมู่คน
สำหรับพวกเขาแล้ว การก้มมองจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์คนอื่น ใกล้เคียงกับการที่จักรพรรดิระดับเซียนก้มมองจอมยุทธ์ที่เป็นมนุษย์
นอกจากประมุขอาคเนย์เฉาเจี๋ยแล้ว ตอนนี้บนเขายังมีคนอีกสองคนที่เยือกเย็น สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง
เป็นเยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋สองพ่อลูก
“ยอดฝีมือระดับประมุขทุกท่านเดินทางมาไกลเพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดสำนักในวันนี้ของเขากว่างเฉิง ข้าผู้แซ่เยี่ยนขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย” เยี่ยนตี๋มีสีหน้าเฉื่อยชา สายตาดุดันน่ากลัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี