ยักษ์ที่รอบกายส่องแสงวาบตนนั้น มันใช้วิชาหัตถ์เทพกลางเวหาโจมตีออกไปอย่างเหี้ยมโหดอีกครั้ง
ร่างกายของมันเหมือนกับดวงตะวันที่แปลงกายเป็นมนุษย์ ส่องสว่างเจิดจ้าไปทั่วฟ้าทั่วแผ่นดิน
ทว่าคมดาบของผู้มาเยือนว่องไวยิ่งกว่า! แข็งกร้าวยิ่งกว่า! อีกทั้งอิทธิฤทธิ์รุนแรงยิ่งกว่า!
ดาบหนึ่งผ่าออกไป ลมเมฆดับสูญ ดวงอาทิตย์อับแสง!
เมื่อทั้งสองฝ่ายปะทะกัน ทั่วทั้งท้องฟ้าเต็มไปด้วยสะเก็ดไฟจนไม่อาจมองตรงๆ ได้
เยี่ยนจ้าวเกอใช้ปราณน้ำแข็งและปราณเพลิงทำให้การมองเห็นของตนแก่กล้าขึ้น ทว่าทันใดนั้นเองเขาก็รู้สึกแสบร้อนเล็กน้อย ทำให้มองไม่เห็นผลการต่อสู้ที่แน่ชัดนัก
ถึงกระนั้นไม่นานก็มีเสียงดังสนั่นขึ้น ราวกับคนถอยหลังแล้วเหยียบลงบนพื้นเต็มแรง ก่อนจะรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าบรรยากาศโดยรอบไม่ได้ร้อนลวกเช่นเมื่อครู่แล้ว
ลำแสงที่กะพริบระยิบระยับนั้นสลัวลงไปบ้าง จึงเห็นว่าพานป๋อไท่ที่แปลงกายเป็นยักษ์ถูกโจมตีจนถอยหลังไป!
พานป๋อไท่กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไอ้เด็กไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง พอในถ้ำไม่มีเสือ เจ้าลูกลิงอย่างเจ้าก็เหิมเกริมขึ้นมาเชียวนะ!”
ขณะที่เขาพูดอยู่นั้น ยักษ์แสงสีทองตนนั้นก็ยกมือขวาชี้ขึ้นฟ้า
จากนั้นยักษ์ก็ปรบมือครั้งหนึ่ง ก่อให้เกิดแสงสว่างไร้ข้อจำกัดส่องออกมาจากฝ่ามือของเขา
ชายชราร่างผอมแห้งที่อยู่ด้านข้างเยี่ยนจ้าวเกอหลุดปากกล่าวออกมาว่า “วิชาจรัสแสงโชติช่วง!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ภายในใจของเยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อย
วิชาอันดับหนึ่งของวิชาเจ็ดสุริยันแห่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ วิชาจรัสแสงโชติช่วง ส่องสว่างขาวโพลนไปทั่วหล้า!
หนึ่งฝ่ามือกับหนึ่งกระบวนท่า ก่อเกิดเป็นวิชาลับของสำนัก
หลังจากนั้นไม่มีกระบวนท่าอื่นต่อ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร มีเพียงท่าเดียวที่ประกอบขึ้นเป็นหนึ่งวิชา
ถึงกระนั้นฝ่ามือนี้กลับเป็นอันดับหนึ่งของวิชาเจ็ดสุริยะ อันเป็นวรยุทธ์สืบทอดหลักของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ อยู่เหนือกว่าวิชาลับมากมายทั้งวิชาหัตถ์เทพกลางเวหา วิชาจันทราในแสงรัตติกาล และเพลงกระบี่อรุณเบิกฟ้าเสียอีก!
เมื่อพานป๋อไท่ใช้ฝ่ามือนี้ออกไป ทุกคนในบริเวณนี้ก็เห็นทุกอย่างเป็นสีขาวโพลนในทันที
นอกจากแสงนั้นแล้ว ก็ไม่เห็นอะไรอีกเลย
แต่ท่ามกลางแสงที่สาดส่องอยู่ในโลกใบนี้ เยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่ได้รู้สึกถึงความอบอุ่นเลยสักนิด
ฟ้าดินไม่ได้ร้อนระอุจนแทบทนไม่ไหวเหมือนเช่นก่อนหน้านี้ แต่กลับยิ่งทำให้รู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นเป็นเท่าทวี
แสงสว่างนั้นไร้ขอบเขต ไร้จุดสิ้นสุด ท่วมท้นหาศาลยิ่งนัก อีกทั้งไม่สามารถรู้สึกได้ถึงจิตอาฆาตรุนแรงเหมือนเช่นดาบผลาญฟ้าคล้อยประจิม แต่กลับเปี่ยมไปด้วยพลังอันมหาศาลที่ไม่อาจต้านทานและไม่อาจทัดเทียมได้ ราวกับยกภูเขาทับไข่ไก่ ที่สามารถบดขยี้อีกฝ่ายให้แหลกละเอียดเป็นฝุ่นผงได้อย่างง่ายดาย
แต่ในขณะที่แสงสว่างอันโชติช่วงไร้ขีดจำกัดกำลังสาดแสงเจิดจ้าทั่วฟ้าทั่วแผ่นดินอยู่นั้น จู่ๆ ก็เกิดความไม่สมดุลขึ้นจุดหนึ่ง
และแล้วโลกที่เห็นเพียงแสงสว่างขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา ก็ปรากฏเส้นสีดำสายหนึ่งขึ้น
เส้นสีดำนั้นไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด เห็นเพียงแต่ว่ามันยืดยาวออกไปอย่างไร้ขอบเขต พาดอยู่ในโลกสีขาวเช่นนี้ดูแล้วสะดุดตามาก
เยี่ยนจ้าวเกอมีความรู้สึกบางอย่าง ราวกับว่าโลกเบื้องหน้านี้เหมือนกับแผ่นกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่ง โดยที่การมีอยู่ของเส้นสีดำเส้นนี้ ไม่ใช่เส้นที่วาดขึ้นบนกระดาษสีขาวแผ่นนี้แต่อย่างใด ทว่ากลับเป็นรอยที่ถูกฉีกออกจนขาด!
รอยขาดนี้พยายามเชื่อมกลับเข้าด้วยกัน แต่นั่นยิ่งทำให้โลกที่เหมือนกับกระดาษสีขาวนี้ยิ่งดูประหลาด!
แสงสว่างไร้ขีดจำกัดส่องไปทั่วผืนฟ้าและแผ่นดิน และพลังที่สร้างความกดดันที่น่ากลัวเมื่อครู่นี้ พลันหายไปพร้อมกับเส้นสีดำที่เกิดขึ้น!
ยิ่งเส้นสีดำนั้นลอยอยู่กลางท้องฟ้านานเท่าไร ก็ราวกับมิติของโลกกับกำลังบิดเบี้ยวไปเช่นกัน
กระดาษสีขาวที่เหมือนถูกฉีกออก มันแบ่งออกเป็นสองส่วนตามรอยขาด ส่วนหนึ่งลอยตัวขึ้น อีกส่วนลอยตัวลง ตำแหน่งเริ่มผิดเพี้ยนไป
พริบตานั้น แสงสว่างหายไปจนหมดสิ้น ทุกคนกลับมามองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ในที่สุด
ทว่าท้องฟ้าและผืนดินยังคงมีความบิดเบี้ยวบางอย่าง และในความว่างเปล่าก็คล้ายกับมีร่องรอยหนึ่งหลงเหลืออยู่
รอยดาบที่น่าประหวั่นพรั่นพรึง!
ร่างยักษ์ของพานป๋อไท่เก็บฝ่ามือกลับด้วยความรู้สึกไม่สบอารมณ์
บริเวณกลางฝ่ามือมีปากแผลฉีกออกเป็นแนวตั้ง ดูแล้วเตะตาและน่าหวาดกลัว ราวกับกับว่าจะแบ่งฝ่ามือเขาออกเป็นสองซีก
ลมเมฆทั่วหล้าพลันเกิดการเปลี่ยนแปลง แสงอาทิตย์จริงสาดส่องลงมาจากท้องฟ้าราวกับสร้างเป็นขั้นบันได
แล้วร่างของคนผู้หนึ่งก็ปรากฏกายขึ้น พร้อมกับท่าทีที่ไม่รีบร้อน ทว่าก็ไม่ชักช้า
กระนั้นเพียงแค่ก้าวเดียว เขาก็มาถึงข้างกายสือเถี่ยแล้ว และกำลังมองตรงไปที่พานป๋อไท่
เขาหันศีรษะกลับไปทางสือเถี่ย แล้วกล่าวว่า “ศิษย์พี่ใหญ่ ลำบากท่านแล้ว”
แสงรัตติกาลที่ยืนอยู่ไกลออกไป มีโลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปาก สายตาจ้องผู้มาเยือนอย่างไม่ลดละ “…เยี่ยนตี๋!”
องคาพยพทั้งห้าของผู้มาเยือนมีส่วนคล้ายกับเยี่ยนจ้าวเกออยู่หกเจ็ดส่วน สังเกตจากลักษณะภายนอกของเขาแล้ว อายุไม่น่าเกินสามสิบต้นๆ เพียงแต่ไรผมตรงขมับทั้งสองข้างกลับมีสีขาวเงินเสียแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี