ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 1131

ในช่วงที่เยี่ยนจ้าวเกอเร้นกายหลอมอุปกรณ์อยู่ในหุบเขาผีเสื้อมังกร กาลเวลาก็เลยผ่าน วันคืนเคลื่อนคล้อย พริบตาเดียวผ่านไปอีกเกือบหนึ่งปี

ในหนึ่งปีนี้ โลกซ้อนโลกสงบลงกว่าก่อนหน้ามาก สิ่งที่น่าสนใจที่สุดก็คือจักรพรรดิแพรขาวและดำกลับโลกซ้อนโลกตามลำดับ

การต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาวและอาภรณ์ดำ คล้ายกับจักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาวได้เปรียบมากกว่า แย่งชิงธงจตุกำเนิดอันเป็นอาวุธเซียนมาสำเร็จ

ตอนที่อาหู่ส่งข่าวนี้ให้เยี่ยนจ้าวเกอ ชายหนุ่มรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ตามการคาดการณ์ของเขาหากไม่มีแรงภายนอกเข้าแทรกแซง การต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิแพรดำขาว สมควรเป็นจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำเป็นฝ่ายลงมือได้ก่อนถึงจะถูก

‘มีคนอื่นสอดมือหรือ’ เยี่ยนจ้าวเกอคล้ายนึกอะไรได้

จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำกลับโลกซ้อนโลกก่อน หลังจากหยุดอยู่พักหนึ่งก็ออกจากโลกซ้อนโลกไปยังมิติต่างแดน

จักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาวติดตามไปติดๆ หลังจากหยุดพักอยู่สักพักก็ไล่ตามจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำไปต่อ

กระนั้น ตอนที่จักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาวกลับโลกซ้อนโลก ฟู่ถิงกับเมิ่งหว่านได้พบกับเขา

ฟู่ถิงถ่ายทอดหมัดแปลงกำเนิดที่ได้จากการแลกเปลี่ยนกับเยี่ยนจ้าวเกอให้แก่จักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาว

ดังนั้น ในที่สุดวิชาห้ากำเนิดแรกเริ่มในการสืบทอดของยอดเขาอัศจรรย์จึงมีครบสมบูรณ์

ความรู้สึกในใจของจักรพรรดิแพร เกรงว่าจะมีแต่ตัวเขาที่ทราบ

จักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาวไม่ได้แสดงความไม่เห็นด้วยต่อการใช้ดัชนีต้นกำเนิด ร่างกาลอวกาศกำเนิดและร่างสสารกำเนิดไร้ประมาณไปแลกเปลี่ยนกับหมัดแปลงกำเนิดวิชาเดียวของฟู่ถิง

การตัดสินว่าสิ่งของอย่างหนึ่งมีราคาขายสูงหรือต่ำ ไม่อาจเพียงแค่ดูที่คุณค่า ยังต้องดูด้วยว่าผู้ซื้อต้องการซื้อขนาดไหน ยิ่งมีความต้องการมากเท่าไร คุณค่าของมันก็ยิ่งสูงเท่านั้น

ดังนั้น การใช้สามแลกหนึ่งในแลกเปลี่ยนครั้งนี้ เยี่ยนจ้าวเกอย่อมได้กำไรแล้ว และยอดเขาอัศจรรย์ก็ไม่ได้ขาดทุน

โดยเฉพาะจักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาวที่ได้รับหมัดแปลงกำเนิดก็มีพลังเพิ่มขึ้น

บวกกับมีธงจตุกำเนิดอันเป็นอาวุธเซียน ตอนนี้ยามที่เผชิญหน้ากับจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำ ถ้าสู้กันตามลำพังจะมีความได้เปรียบอย่างเต็มเปี่ยม แต่ถ้ามีแรงภายนอกเข้าแทรกแซง สถานการณ์ก็จะไม่ชัดเจนแล้ว

ปัจจุบันจักรพรรดิแพรดำขาวหนึ่งหนีหนึ่งไล่ มุ่งหน้าไปยังมิติต่างแดนอีกครั้ง พวกเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่บนโลกซ้อนโลกได้แต่คอยจับตาดูเงียบๆ

สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอและเขากว่างเฉิง ยังมีเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญเรื่องหนึ่งเกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่งทีเดียว

เยี่ยนตี๋ บิดาของเยี่ยนจ้าวเกอ ผู้รับตำแหน่งเจ้าสำนักคนปัจจุบันของเขากว่างเฉิงได้รุดหน้าขึ้นอีกขั้น เลื่อนสู่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้าย

เดิมทีเยี่ยนตี๋แน่วแน่มุ่งมั่น พลังฝึกปรือพุ่งทะยาน ไม่มีสิ่งใดขวางกั้นอยู่แล้ว ครั้นมีพิธีเจ็ดแก่นโคจรช่วย ก็ประหยัดเวลาได้อีกขั้นหนึ่ง การเพิ่มขึ้นของระดับพลังฝึกปรือของเขายิ่งทำให้ผู้คนสั่นสะท้าน

ถึงแม้ข่าวนี้จะไม่ได้กระจายเป็นวงกว้าง แต่ก็ทำให้ยอดฝีมือระดับสูงที่ทราบเรื่องบนโลกซ้อนโลกต่างรู้สึกตะลึงลาน

จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนที่ได้สังหารประมุขคนหนึ่งกับมือ ปัจจุบันมีพลังฝึกปรือยิ่งมายิ่งเข้าใกล้ระดับประมุขแล้ว เมื่อเขาเลื่อนเป็นประมุข สำเร็จร่างมนุษย์เซียน จะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นบ้างนั้น บันดาลให้ผู้คนต้องขบคิดอย่างแท้จริง

ตัวเยี่ยนจ้าวเกอ นอกจากจะใช้เวลาไปกับการหลอมอุปกรณ์แล้ว การฝึกฝนประจำวันก็ไม่ได้ละทิ้ง

เขาครอบครองคัมภีร์พลิกฟ้า พอมาถึงระดับพลังฝึกปรือในปัจจุบัน การกระทำทุกอย่างในยามปกติจะมีลมปราณโคจรอยู่ตลอดเวลา สั่งสมอย่างเงียบๆ

ไม่ว่าจะทำอะไรล้วนเหมือนกับกำลังฝึกฝน เพียงแต่มีความแตกต่างด้านประสิทธิภาพเท่านั้น

การหลอมของวิเศษจำนวนหนึ่ง และได้ศึกษาหลักการข้างใน เดิมทีก็ส่งผลต่อการฝึกฝนของเขาอยู่แล้ว

พร้อมกับที่เวลาผ่านไป ระยะเวลาหนึ่งปีที่พวกเหิงเซียนต๋าเจ้าของจวนวายุอัสนีนัดไว้ก็ใกล้จะมาถึงแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี