ในที่สุดก็ใกล้จะครบหนึ่งปี
ในช่วงนี้ มีข่าวของตึกความลับฟ้าส่งออกมาอีกเป็นจำนวนมาก
มีการลือกันว่าที่นี่จะจำหน่ายยันต์เหลืองเจ็ดทบฟ้าเร้น อันเป็นของวิเศษของสำนักฟ้าเร้นซึ่งเป็นสำนักใหญ่ก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่เท่านั้น
สำหรับสำนักระดับเล็กไปจนถึงระดับกลาง วรยุทธ์ของสำนักฟ้าเร้นย่อมโดดเด่น
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ยิ่งใหญ่ในระดับเดียวกัน สำนักฟ้าเร้นมีเพียงการโจมตีธรรมดา การป้องกันก็ธรรมดาเช่นกัน
แต่ในกรณีเดียวกัน สำนักฟ้าเร้นกลับโดดเด่นถึงขีดสุด ถึงขั้นที่โด่งดังขึ้นบนโลกก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ นั่นเป็นเพราะท่าร่างและท่าหลบเร้นที่โดดเด่น และไม่มีใครเลียนแบบได้
กอปรกับได้ศึกษาและสร้างของวิเศษขึ้นมาบนพื้นฐานนี้ ช่วยให้คนเคลื่อนย้ายมิติ หนีจากห้วงอันตรายได้ นั่นก็คือยันต์เหลืองเจ็ดทบฟ้าเร้นนี่เอง
ยันต์ใบหนึ่งสามารถใช้ได้เจ็ดครั้ง
นอกจากนี้ หากต้องการ โอกาสเจ็ดครั้งนี้สามารถใช้ได้ติดต่อกัน มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมยิ่ง
ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถหนีรอดได้ในทุกสถานการณ์ แต่ก็ทำให้ทุกคนเกิดความต้องการ
ถ้าใช้อย่างเหมาะสม นี่จะเทียบเท่ากับมีทางรอดชีวิตอีกหลายเส้นทางเพิ่มขึ้นมา ไฉนจะไม่ทำให้ผู้คนสนใจ
สุราภูตผี ยันต์เหลืองเจ็ดทบฟ้าเร้นทำให้คนทั่วทั้งโลกซ้อนโลกวิพากษ์วิจาร์ณด้วยความสนใจ แต่ไม่ทันไรทางตึกความลับฟ้าก็มีข่าวส่งออกมาอีกว่าจะจำหน่ายกระดานก่อนพิรุณด้วย
ข่าวนี้พอกระจายออกไป ทีแรกคนส่วนใหญ่ต่างรู้สึกงงงันเล็กน้อย เพราะชื่อนี้ไม่ค่อยคุ้นหูนัก
ทว่าไม่ทันไร หลัวเป่ย บุคคลชนชั้นแม่ทัพรุ่นที่สอง บุตรคนโตของประมุขตระกูลจากตระกูลหลัวแห่งยอดเขาพยัคฆ์กระโจน ก็มาที่ตึกความลับฟ้าทันที
ถึงแม้หลัวเป่ยจะพยายามเคลื่อนไหวเงียบๆ อย่างเต็มที่ แต่ข่าวก็ยังหลุดออกไปเพราะความตั้งใจของใครบางคน
คนอื่นๆ เริ่มนึกอะไรออกแล้ว
ตระกูลหลัวยอดเขาพยัคฆ์กระโจนเป็นปรมาจารย์ค่ายกลที่มีชื่อเสียง ไม่เพียงแต่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในเขตมหานภากลางเท่านั้น ยังโด่งดังในโลกซ้อนโลกมากเช่นกัน
นอกจากสามกษตริย์ห้าจักรพรรดิ ประมุขทั้งสิบแล้ว ผู้คนต่างยอมรับว่าระดับด้านมรรคาค่ายกลของตระกูลหลัวแห่งยอดเขาพยัคฆ์กระโจนบนโลกซ้อนโลกมีเพียงหนึ่งไม่มีสอง
บิดาของหลัวเป่ย หลัวไป๋หยวนประมุขตระกูลหลัว ตอนนี้ยังโด่งดังในฐานะยอดฝีมือด้านค่ายกลอันดับหนึ่งในหมู่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนด้วย
จนกระทั่งหลังจากที่เยี่ยนจ้าวเกอได้สังหารยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ด้วยค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งในเขตเพลิงทักษิณ ก็ทำให้รัศมีบนศีรษะของหลัวไป๋หยวนจางลงไปหลายส่วน
หากแต่ยังคงไม่มีใครสงสัยถึงความแข็งแกร่งในมรรคาค่ายกลของตระกูลหลัวแห่งยอดเขาพยัคฆ์กระโจน
หลัวเป่ยในฐานะบุคคลชั้นแม่ทัพรุ่นที่สองของตระกูลซึ่งหลัวไป๋หยวนเชื่อถือที่สุด มีพลังโดดเด่นถึงขีดสุดอยู่แล้ว
ครั้งกระโน้นนักพรตสือที่ตายใต้เขากว่างเฉิง แม้มีระดับพลังฝึกปรือต่ำกว่าผู้วิเศษเซิง แต่ก็มีชื่อเสียงไม่ต่ำทราม ระดับค่ายกลของเขาถือเป็นตัวตนแถวหน้าในหมู่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนบนโลกซ้อนโลก
ทว่าในฐานะที่มีเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นะสพานเซียนระยะต้นเหมือนกัน ก็มีคนพูดกันว่าหลัวเป่ยยังเหนือกว่านักพรตสือขั้นหนึ่ง
บุคคลชนชั้นนี้หลังจากได้ยินข่าวของกระดาษก่อนพิรุณแล้วก็เร่งรุดมาถึง จึงดึงดูดความสนใจของผู้คนไปโดยปริยาย
ไม่ทันไร ทุกคนในที่สุดก็ทราบถึงประสิทธิผลของกระดานก่อนพิรุณเพราะมีคนจงใจเปิดเผย
กระดานก่อนพิรุณตั้งตามความหมาย ‘ซ่อมแซมหน้าต่างก่อนพิรุณ’
ทุกคนทราบดีว่าความแข็งแกร่งของค่ายกลอาศัยฟ้าดิน แต่มีได้ก็ต้องมีเสีย ค่ายกลเมื่อวางแล้วจะเกิดเงื่อนไขและข้อจำกัดมากมาย
คิดจะแสดงประสิทธิผลของค่ายกลที่แข็งแกร่งจำนวนมากอย่างแท้จริง จำเป็นต้องมีกาละฟ้า ชัยภูมิดิน และประชากรหนุน จะขาดไม่ได้เลยสักอย่างเดียว
อย่างเช่นค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งที่เยี่ยนจ้าวเกอวางในตอนนั้น ก็จำเป็นต้องยืมสภาวะของสายน้ำขนาดใหญ่ถึงจะใช้ได้เช่นกัน
คำว่า ‘ขนาดใหญ่’ ในที่นี้ต้องใหญ่มากพอจริงๆ ใหญ่จนทอดตัวไปทั่วโลกซ้อนโลก และสิ่งที่สอดคล้องกับเงื่อนไขมีแม่น้ำเพียงไม่กี่สายเท่านั้น
นอกจานี้มีค่ายกลที่แข็งแกร่งบางค่ายกล สามารถวางได้ในสถานการณ์ที่เงื่อนไขไม่ครบ ทว่าอานุภาพจะลดน้อยถอยหลัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี