ประกายดาบของเยี่ยนตี๋พุ่งลงด้านล่างไม่หยุด ทะลวงดินโคลนสีเหลืองคล้ำที่เกิดจากการประสานพลังฝ่ามือของฝ่ามือปราณสวรรค์และดินวิญญาณโบ่วกี้ของหวังเจิ้งเฉิง
ความเร็วในการถมเสริมของดินโคลนสู้ความเร็วในการพุ่งลงของประกายดาบไม่ได้ ถูกฟันจนแตกร้าว
หวังเจิ้งเฉิงสีหน้าเคร่งขรึม สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง
เยี่ยนตี๋ทำอะไรรูปภูผาธาราโบ่วกี้ไม่ได้ ทว่าการทะลวงพลังวิญญาณของรูปภูผาธาราโบ่วกี้อาจทำร้ายผู้ใช้งานมันได้
พริบตาที่ประกายดาบจะถึงศีรษะของหวังเจิ้งเฉิง เขาก็ประกบสองฝ่ามือ หุบห้านิ้วเป็นหมัด ตั้งท่าหมัดขึ้นมา
กระแสปราณสีเหลืองคล้ำหลายสายหมุนวนรอบๆ ร่างหวังเจิ้งเฉิง จากนั้นก็รวมตัวกลายเป็นม่านพลัง
วรยุทธ์การป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของผากิเลน หมัดดินกลับคืนสู่พระแม่!
พอหวังเจิ้งเฉิงตั้งท่าหมัดนี้ พลังป้องกันยังแข็งแกร่งกว่าตอนใช้ฝ่ามือลมหายใจสวรรค์ป้องกันสุดกำลังเสียอีก
ดินวิญญาณโบ่วกี้มากมายที่ปรากฏในรูปภูผาธาราโบ่วกี้รวมตัวกันโดยมีหวังเจิ้งเฉิงเป็นศูนย์กลาง แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ถึงแม้ไม่อาจกระตุ้นบัวทองโบ่วกี้ออกมาได้ ทว่าพอรูปภูผาธาราโบ่วกี้อันเป็นอาวุธเซียนเสริมพลังให้แก่หมัดดินกลับคืนสู่พระแม่ของหวังเจิ้งเฉิง ก็พลันกลายเป็นการป้องกันที่น่าตกตะลึง
วินาทีนี้หวังเจิ้งเฉิงเหมือนเปลี่ยนจากคนเป็นผืนดิน หนักแน่นเงียบงัน คล้ายกับสามารถรองรับการกดดันทุกอย่างได้
โลกบังเกิด เหมือนกับกลับคืนสู่หลังเบิกฟ้าผ่าดินในช่วงแรกสุดของฟ้าดิน
ดินต้นกำเนิด แหล่งกำเนิดของทุกสรรพวัตถุ ฟ้าดินมีแต่สีดำสีเหลือง ไม่สกปรกไม่สะอาด
เยี่ยนตี๋ฟันดาบหนึ่งลง ปราณสีดำเหลืองกระจายว่อน ฟ้าดินพังทลายไม่หยุด
หวังเจิ้งเฉิงยังรับดาบนี้ไว้ได้ เพียงแต่เขาในตอนนี้ละทิ้งการจู่โจมโดยสมบูรณ์ เพียงคิดป้องกันเท่านั้น
เยี่ยนตี๋เห็นดังนั้นกลับเลิกคิ้วขึ้น “ดูเหมือนประมุขปฐวีท่านจะไม่อาจกระตุ้นให้รูปภูผาธาราโบ่วกี้ให้กำเนิดบัวทองโบ่วกี้ได้จริงๆ เป็นเพราะท่านยังไม่ได้ผลักเปิดประตูเซียนกระมัง”
“น่าละอายนัก” ปราณสีดำเหลืองวนเวียน กลายเป็นวงกลงวงหนึ่งลอยอยู่กลางอากาศ ในวงกลมมีเสียงของหวังเจิ้งเฉิงดังมา
ขนาดของวงกลมไม่ใหญ่มาก ยามเผชิญกับการโจมตีของเยี่ยนตี๋ ถึงขั้นที่หดเล็กลงอีกขั้น พลังยิ่งมายิ่งผนึกตัวแข็งแกร่งมากขึ้น
“แต่ท่านในตอนนี้จะขวางทางข้าอย่างไร” เยี่ยนตี๋กล่าวอย่างราบเรียบ “เมื่อไม่มีบัวทองโบ่วกี้ แม้ท่านจะพกรูปภูผาธาราโบ่วกี้ติดตัวแล้วเป็นอย่างไร”
ขณะที่พูด เขาไม่สนใจหวังเจิ้งเฉิงอีก เท้าไม่หยุดลง มุ่งหน้าไปทางเหนือ
เยี่ยนตี๋ผ่านด้านข้างวงกลมนั้น รอบนี้ในวงกลมกลับเงียบงันไม่มีคำพูดใด
เยี่ยนตี๋ในตอนนี้คิดไปคือไป เพราะต้องการเพียงป้องกัน หวังเจิ้งเฉิงจึงไม่อาจพัวพันเขาไว้ได้
หวังเจิ้งเฉิงในวงกลมไม่ใช่ไม่คิดขวางทางเยี่ยนตี๋
ทว่าในความรู้สึกของประมุขปฐวี ผู้ชราที่สุดบนโลกซ้อนโลกสามารถรับรู้ได้ถึงความเย็นเยียบสายหนึ่ง ซึ่งลอยอยู่เหนือศีรษะของเขาอย่างชัดเจน!
นั่นเหมือนกับคมดาบที่แท้จริง หวังเจิ้งเฉิงรู้สึกว่าผิวหนังของตัวเองเหมือนกับอยู่ชิดกับความคมกริบนั้นอยู่
เขาไม่สงสัยแม้แต่น้อยว่าขอแค่ตนมีการเคลื่อนไหวผิดปรกติแม้แต่น้อย คิดจะไล่ตามไปขัดขวางอีกครั้ง จนทำให้การป้องกันของหมัดดินดำคืนสู่ต้นกำเนิดอ่อนแอลงเพียงนิดเดียว เยี่ยนตี๋จะหมุนตัวมาฟันใส่ดาบหนึ่งทันที!
“ทำร้ายตัวเอง คู่แค้นยินดี ฟ้าทำร้ายผู้คน โลกซ้อนโลกของเรามีแต่เรื่องวุ่นวายภายใน วันนี้เกรงว่าจะต้องทุ่มเทสุดกำลังแล้ว”
หวังเจิ้งเฉิงลอบถอนใจ กลับไม่ได้ป้องกันต่อ
หมัดดินกลับคืนสู่พระแม่สลาย ใช้ฝ่ามือปราณสวรรค์อีกครา
ดินวิญญาณโบ่วกี้หลายชั้นสร้างโลกขุนเขาแม่น้ำใหม่อีกครั้ง จากนั้นก็ครอบคลุมใส่เยี่ยนตี๋ คิดจะรั้งเขาไว้ ไม่ให้จากไป
“ประมุขปฐวียึดถือว่าข้าผู้แซ่เยี่ยนไม่กล้าฆ่าคนหรือ?” เยี่ยนตี๋หมุนตัวมาฟันดาบใส่โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
หวังเจิ้งเฉิงเคลื่อนฝ่ามืสองข้างเข้าไปด้านใน ประกบตรงกลาง หนีบคมดาบของเยี่ยนตี๋ไว้
“มีเรื่องบางเรื่องที่ต้องมีการเสียสละ” หวังเจิ้งเฉิงกล่าวอย่างแช่มช้า “คนอื่นเสียสละได้ ข้าย่อมเสียสละได้ ถ้าหากว่าชะตาชีวิตเป็นเช่นนี้จะทำอย่างไรได้”
คนหนุ่มอาภรณ์ม่วงผู้นั้นร่างกายลอยล่องไม่แน่นอน คล้ายว่างเปล่าไร้ร่างกายที่แท้จริง
ทว่าเมื่อประกายดาบของเยี่ยนตี๋กระจายออกไป จิตดาบอันรุนแรงก็เบียดอีกฝ่ายออกมาจากความว่างเปล่า ทำลายร่างกาลอวกาศกำเนิดของอีกฝ่าย ทำให้คนผู้นี้เปลี่ยนจากลวงเป็นจริงอีกครา
“ฮ่า! วิชาดาบที่ดุร้ายนัก ได้ยินร้อยครั้งมิสู้ได้พบพาน!” คนหนุ่มอาภรณ์ม่วงตาสาดประกาย ยื่นมือข้างหนึ่งออกมา
เขากางห้านิ้วออก บนนิ้วโป้งมีหยินหยางไหลเวียน บนนิ้วชี้มิติสั่นไหว นิ้วกลางกระแสเวลาเหมือนอุทก นิ้วนางสรรพวัตถุตัดสลับ นิ้วก้อยสรรพสิ่งก่อกำเนิด
กลางฝ่ามือส่งเสียงดังเล็กน้อย ขยับเหมือนกลองเล็กใบหนึ่ง และเหมือนกับหัวใจของผู้คน เสียงที่มีแบบแผนดังออกมาจากด้านใน
พอฟังเสียงนี้ จิตใจและความคิดของผู้คนเหมือนกับสั่นไหวตาม
เป็นการใช้วิชาในหกคัมภีร์หลังกำเนิดของคัมภีร์นภาแรกเริ่มออกมาพร้อมกัน
ผู้มาไม่จำเป็นต้องอธิบายมากความ เป็นประมุขทิศบนเฉินเฉียนหัว!
“เคยสู้กับเยี่ยนจ้าวเกอและเนี่ยจิงเสินมาแล้ว ข้าคิดสู้กับท่าน ต้องการเห็นว่าจะมีสภาพการณ์อย่างไร” เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม
เฉินเฉียนหัวใช้มือเปล่ารับคมดาบขาว ใช้ฐานของโลกเสริมพลังให้แก่ฝ่ามือของตัวเอง รับท่าดาบกฎเกณฑ์ของเยี่ยนตี๋!
เยี่ยนตี๋กล่าวอย่างเย็นชา “หลีก!”
ฐานโลกซึ่งเกิดจากการประสานหกคัมภีร์หลังกำเนิดสายหยกพิสุทธิ์เป็นหนึ่ง รองรับการเปลี่ยนแปลงก่อนกำเนิด จึงรับมือกับวรยุทธ์ก่อนกำเนิดได้ดี
ทว่าดาบกฎเกณฑ์ของเยี่ยนตี๋เปลี่ยนจากก่อนกำเนิดเป็นหลังกำเนิด หลังกำเนิดเปลี่นเป็นดับสูญ
ภายใต้การบดขยี้ของสภาวะใหญ่ ส่งธรรมชาติสู่ความสิ้นสูญ แม้ว่าจะเป็นฐานโลกของเฉินเฉียนหัวก็ไม่อาจต้านรับ!
หยินหยาง มิติ เวลา สรรพวัตถุ ชีวิต และจิตใจกำลังจะสูญสิ้นเพราะการทำลายจากประกายดาบ!
………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี