ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 118

เยี่ยนจ้าวเกอมองเฟิงอวิ๋นเซิง แล้วก็หันไปมองซือคงจิง จากนั้นก็หลุดยิ้มออกมาพลางส่ายหน “ในเมื่อท่านอาจารย์ฟู่ออกจากฌานแล้ว นี่ก็ยังนับว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในความคาดหมาย”

“ไปกันเถอะ พวกเราออกเดินทางไปเกาะนภาเหนือกัน” เยี่ยนจ้าวเกอปรบมือ แล้วก้าวเดินนำออกไป

คำกล่าวก่อนหน้านี้กลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมา จ้าวหมิงเองก็กำลังเตรียมออกเดินทางไปที่พรรคสายรุ้งสีชาดแห่งเกาะนภาเหนืออยู่พอดี จึงร่วมเดินทางไปโดยปริยาย

หลังจากพบกับผู้อาวุโสระดับหนึ่งแห่งเกาะนภาเหนือเป็นอันดับแรกแล้ว กลุ่มของเยี่ยนจ้าวเกอก็บอกลากับจ้าวหมิง โดยที่อีกฝ่ายจะเดินทางมุ่งหน้าไปที่พรรคสายรุ้งสีชาดด้วยตนเอง ส่วนกลุ่มของเยี่ยนจ้าวเกอก็เดินทางไปยังทะเลสาบศาลาเมฆต่อ

ทะเลสาบศาลาเมฆตั้งอยู่ในพื้นที่ของอาณาจักรเล็กๆ แห่งหนึ่งทางตะวันออกของเกาะนภาเหนือ แม้จะเป็นพื้นที่ขนาดเล็ก แต่กลับมีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก

เมื่อแสงกระทบกับผิวน้ำ และหากยืนมองอยู่ข้างทะเลสาบ จะมองเห็นเมฆสีขาวเคลื่อนตัวอยู่ใจกลางทะเลสาบตลอดทั้งปี ปราณวิญญาณอันเป็นเอกลักษณ์เคลื่อนไหวอยู่ทั้งสี่ทิศของทะเลสาบศาลาเมฆ และรวมตัวกันอยู่ที่ใจกลางของทะเลสาบ

ไอน้ำในอากาศควบแน่นจนกลายเป็นเมฆหมอก แต่กลับไม่มีลมไม่มีฝนแต่อย่างใด

ที่นี่เหมือนกับฤดูใบไม้ผลิตลอดทั้งปี ทั้งอากาศและอุณหภูมิก็มีการเปลี่ยนแปลงน้อยนัก ส่วนเมฆสีขาวที่ปกคลุมอยู่ตลอดเวลานั้น ก็คล้ายกับก่อตัวเป็นศาลาขนาดใหญ่ใจกลางทะเลสาบ

สิ่งก่อสร้างที่เกิดจากไอกับเมฆ ตั้งอยู่ที่ตรงนั้นไม่ไปไหน

กลุ่มคนของเยี่ยนจ้าวเกอทุกคนล้วนอยู่ในระดับปรมาจารย์หมดแล้ว จึงเดินเหินบนน้ำไปยังใจกลางทะเลสาบได้โดยตรง ยังไม่ทันจะได้เข้าใกล้ศาลาเมฆกลางทะเลสาบ จู่ๆ บนผิวน้ำก็มีดำแพงน้ำก่อตัวขึ้นมาเป็นแนวประดุจฉากกั้น

เมื่อเยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้าขึ้นมอง เขาก็ต้องกลอกตาทันที

เพราะบนกำแพงกั้นรวมกันเป็นตัวอักษรว่า

‘คนจากตระกูลเยี่ยนคอยด้านนอก คนอื่นๆ จงเข้ามา’

อาหู่เห็นดังนั้น ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นขมขื่น “คุณชายขอรับ…”

เฟิงอวิ๋นเซิงและซือคงจิงต่างมองหน้ากัน ต่อให้พวกนางไม่รู้เรื่องเลยก็ตาม แต่ตอนนี้ก็พอรู้ว่าผู้อาวุโสฟู่ในตำนานท่านนั้นไม่ชอบใจบุตรบิดาแซ่เยี่ยนอย่างมาก

ชายร่างใหญ่ถูมือไปมา พลางส่งกระแสจิตไปหาเยี่ยนจ้าวเกออย่างลับๆ ‘คุณชายขอรับ พื้นที่นี้พวกเราไม่มีทางบุกเข้าไปดื้อๆ ได้แน่’

กำแพงน้ำที่อยู่เบื้องหน้าดูเหมือนว่าจะเป็นแค่ชั้นบางๆ แต่ถ้าคิดว่ามันเปราะบางละก็ เช่นนั้นสมองก็คงมีปัญหาแล้ว เพราะนี่เป็นกำแพงน้ำที่ฟู่เอินซู ยอดฝีมือระดับมหาปรมาจารย์คนนี้ใช้วรยุทธ์วิชาสร้างขึ้น เหมือนเช่นตอนนั้นที่สือเถี่ยใช้วิชามวยควบคุมฟ้าดิน พันธนาการเหยียนซวี่เอาไว้

สำหรับผู้ที่มีระดับวรยุทธ์เท่าเทียมกันหรือสูงกว่าฟู่เอินซูแล้ว กำแพงน้ำที่อยู่เบื้องหน้านี้ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด ถึงกระนั้นสำหรับเยี่ยนจ้าวเกอและอาหู่แล้ว กำแพงน้ำชั้นบางๆ ชั้นหนึ่งนี้กลับแข็งแกร่งยิ่งกว่ากำแพงหินหรือกำแพงเหล็กเสียอีก

เยี่ยนจ้าวเกอมองกำแพงน้ำตรงหน้า ก่อนจะยิ้มออกมาพลางส่ายหน “ไม่เป็นไร”

จากนั้นชายหนุ่มก็หันกลับไปมองเฟิงอวิ๋นเซิงและซือคงจิง แล้วยิ้มพลางกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ฟู่มีคำสั่งออกมาแล้ว พวกเจ้าเข้าไปก่อนเถอะ”

หญิงสาวทั้งสองคนเห็นเพียงใบหน้าที่สงบนิ่งของเยี่ยนจ้าวเกอ

ด้วยรู้จักกันมานานพอสมควร พวกนางจึงพอจะรู้แล้วว่าเยี่ยนจ้าวเกอเป็นคนถือคติไม่ยอมเสียเปรียบผู้ใด ต่อให้เผชิญหน้ากับผู้อาวุโสสำนักก็ยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่ดี

เยี่ยนจ้าวเกอมองพวกนาง เขายิ้มบางๆ “พวกเจ้าเข้าไปแล้ว ข้าย่อมต้องเข้าไปได้ด้วย”

เฟิงอวิ๋นเซิงกระตุกมุมปาก ยิ้มด้วยใบหน้าคล้ายกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แล้วจึงแอบยกนิ้วโป้งให้กับเยี่ยนจ้าวเกอ จากนั้นก็เดินไปที่กำแพงน้ำนั้นทันที

ซือคงจิงมองเยี่ยนจ้าวเกอเงียบๆ แวบหนึ่ง นางพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็กลับหลังกันเดินไปทางกำแพงน้ำ

‘แต่ถ้าเป็นท่านผู้อาวุโสฟู่ละก็ โดยส่วนมากนางกระทำเรื่องอันใดมักขึ้นอยู่กับอารมณ์’

ชายหนุ่มยักไหล่ แล้วชูนิ้วขึ้นสามนิ้ว

‘ข้อแรก ถึงแม้ว่าท่านอาจารย์ฟู่จะค่อนข้างใช้อารมณ์ กระทำอันใดตามอำเภอใจ และตัดสินเรื่องต่างๆ ตามความชอบความเกลียดของตัวเอง แต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็รักสำนักของเราเป็นอย่างยิ่ง นางเกิด ณ ที่แห่งนี้ เติบใหญ่ ณ ที่แห่งนี้ ท่านอาจารย์ปู่เห็นท่านเหมือนกับบุตรสาว รักเสียยิ่งกว่ารัก แล้วมีหรือที่ท่านจะไม่เคารพและรักท่านอาจารย์ปู่เช่นบิดาคนหนึ่ง’

พูดแล้วเยี่ยนจ้าวเกอก็เก็บนิ้วลงหนึ่งนิ้ว ‘ต่อหน้าเรื่องสำคัญที่มีผลประโยชน์ต่อสำนักจริงๆ นางสามารถข่มอารมณ์ตัวเองได้ โดยถือผลประโยชน์ของสำนักเป็นหลัก’

‘ข้อสอง กล่าวนินทาลับหลังผู้อาวุโสเช่นนี้อาจจะไม่เหมาะสมนัก แต่ท่านอาจารย์ฟู่ผู้นี้ไม่ค่อยมีความอดกลั้นกับเรื่องต่างๆ มากนักหรอก ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่มีความสนใจ ก็มักจะเดี๋ยวทำเดี๋ยวเลิก’

เขาเก็บนิ้วลงอีกหนึ่งนิ้ว ‘แต่สำหรับเรื่องการบำเพ็ญเพียรฝึกวรยุทธ์ ท่านอาจารย์ฟู่กลับมีใจร้อนรนนัก ใช้เวลาหลายปีประดุจหนึ่งวัน อย่าได้มองว่าตอนเป็นสาวนางเป็นคนที่น่าปวดหัวมากที่สุด แต่ความขยันหมั่นเพียรในการฝึกวิชา แม้แต่ท่านอาจารย์ลุงใหญ่ก็ยังชื่นชมตลอดมา’

‘ท่านอาจารย์ป้าฟู่สนใจศึกษาความลับของวรยุทธ์ที่ยังไม่มีใครรู้เป็นอย่างมาก และมีความต้องการที่จะค้นคว้าสูงมาก ถ้ามีเรื่องที่นางยังไม่เข้าใจ ก็จะไม่กินไม่นอนจนกว่าจะทำความเข้าใจทั้งหมด’

ขณะที่กล่าว เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกชื่นชมอยู่บ้าง ‘หากไม่บ้าคลั่งจนสุดทางก็คงไม่เห็นผลลัพธ์ กว่าจะมาถึงวรยุทธ์ระดับตอนนี้ได้ แน่นอนว่าท่านอาจารย์ฟู่ไม่ได้พึ่งโชคอย่างแน่นอน’

‘ท่านอาจารย์ป้าฟู่ชอบชัยชนะ รักศักดิ์ศรี และชอบที่จะแข่งขันกับคนอื่นๆ เมื่อเทียบกับหน้าตาแล้ว การที่นางไขปัญหาเกี่ยวกับวรยุทธ์ไม่ได้นั่นทำให้ท่านไม่สบายใจมากกว่า’

กล่าวถึงตรงนี้ เยี่ยนจ้าวเกอก็เก็บนิ้วสุดท้ายลงพลางยิ้ม ‘ส่วนข้อสามน่ะหรือ หึหึ ทั่วทั้งเขากว่างเฉิงนี้ ท่านอาจารย์ป้าฟู่เป็นคนที่เลือดร้อน ไม่มีความอดทน…’

ยังไม่ทันสิ้นเสียงพูด กำแพงน้ำเบื้องหน้าก็พลันแหวกออกอย่างเงียบๆ

………………..

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี