‘ท่านอาจารย์คิดขัดขวางการกลับมาของมารน้ำกุ่ย มารตัวอื่นๆ ถึงแม้ไม่อาจทำอะไรเขา แต่ก็แบ่งแยกสมาธิเขาได้’
ดวงตาของจักรพรรดินีเป็นประกาย เจิดจ้าจนแยงตา ‘เขาแบ่งสมาธิมาจัดการพิธีกรรมของข้าได้อย่างไร’
นางตั้งสมาธิขบคิด พลันตื่นตระหนกขึ้น
‘เยี่ยนจ้าวเกอ!’
ตอนนี้ เหล่ามารกำลังอาละวาดบนธารน้ำแข็งไร้สิ้นสุดในชายฝั่งยมโลก แต่ว่าธารน้ำแข็งขยายขึ้นไม่หยุดยั้ง ลมและพายุผสมกัน ความเย็นที่รุนแรงกั้นเหล่ามารไว้ด้านนอก
ด้านในธารน้ำแข็ง กษัตริย์ดาราอยู่ในน้ำแข็ง รอยแผลสายหนึ่งเปิดขึ้นบนหน้าผาก แสงสว่างสีฟ้ากะพริบ ปราณมารเอ่อล้น แต่เขาสายตากระจ่างใส สีหน้าสงบนิ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอนั่งขัดสมาธิอยู่เหนือทะเลน้ำแข็งด้านข้างเขา ประกายโลหิตสายหนึ่งไหลเวียนตรงหน้าอย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้เขาได้ออกจากธารน้ำแข็ง เตรียมจะผละจากชายฝั่งยมโลก เข้าสู่นพยมโลก ทว่ามีเสียงลอดเข้ามาในหูของเขาเสียก่อน “จ้าวเกอหยุดก่อน”
เป็นกษัตริย์ดาราส่งกระแสเสียงหาเขา
ชายฝั่งยมโลกบริเวณนี้มีกษัตริย์ดาราเป็นผู้ปกครอง ต่อให้เขาจะถูกคุมขัง จักรพรรดินีมีพลังแข็งแกร่งสุดขีด ทว่าหากกษัตริย์ดาราคิดจะลอบจัดการให้ใครกลับมาในธารน้ำแข็งกลับไม่ใช่เรื่องยาก
ดังนั้นเยี่ยนจ้าวเกอจึงซ่อนตัวอยู่ในธารน้ำแข็ง ใช้สายตาส่งจักรพรรดินีออกไปไกลพร้อมกับกษัตริย์ดารา และมองดูการบุกจู่โจมของเหล่ามาร มองดูสองจักรพรรดิจากมรกตท่องฟ้าหลงเข้ามาด้านใน
“ผู้ใดจะรู้จักศิษย์เท่าอาจารย์ กษัตริย์ดาราคาดการณ์ถูกต้อง” เยี่ยนจ้าวเกอถอนใจชมเชย
“ข้าคิดไม่ถึงว่าหมิงคงจะเสียสติเช่นนี้” กษัตริย์ดาราสั่นศีรษะ เพียงมองออกว่า การมาในครั้งนี้ของจักรพรรดินีจะต้องมีเจตนาแอบแฝง
สายตาของกษัตริย์ดาราเหมือนทะลุมิติ ข้ามการกีดขวางจากควันมารและเขตมารของนพยมโลก สบเข้ากับสายตาที่มองมาทางด้านนี้ของจักรพรรดินี
สองศิษย์อาจารย์ประสานดวงตา สายตากลายเป็นซับซ้อน
“ท่านอาจารย์ ข้าไม่ต้องการให้ท่านยกโทษ และข้าไม่โทษว่าเยี่ยนจ้าวเกอด้วยเช่นกัน” จักรพรรดิพึมพำขึ้นหลังจากเงียบงัน “แต่ข้าจะต้องทำให้สำเร็จ!”
นางหมุนตัวไปตบใส่ดวงแสง
ดวงแสงที่ตอนแรกก็มีขนาดมหึมาอยู่แล้วนั้นพองขึ้นอีกขั้น ลำแสงหลายสายที่เหมือนกับผืนผ้าพุ่งออกมาจากด้านใน แล้วตัดสลับกัน
ตราอาคมเรืองแสงสีขาวที่อยู่ในมิติเวลาอีกที่หนึ่ง แสงสว่างยิ่งเจิดจ้าขึ้น สะกดริ้วเลือดที่แผ่ขยายด้านบน
แสงสีฟ้าจากรอยมารบนหน้าผากกษัตริย์ดาราเริ่มไหลออกด้านนอกทีละน้อยๆ
ผิวของตราอาคมแสงที่อยู่ในอากาศเริ่มมีแสงสีฟ้าปรากฏขึ้น
“จักรพรรดิปฐพีศานติและจักรพรรดิสัจอุรุจากมรกตท่องฟ้าร่วมมือกัน ก็ยังทำอะไรจักรพรรดินีไม่ได้หรือ” เยี่ยนจ้าวเกอนั่งขัดสมาธิเงียบๆ “จักรพรรดินีสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพิธีกรรม เช่นนั้นหมายความว่าจักรพรรดิทั้งสองคนไม่อาจสะกดนาง”
“ข้าได้ยินมาว่าจักรพรรดิศานติยังมีอาวุธเซียนอยู่กับตัวเอง” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวพลางยิ้มอย่างขื่นขม “มีคำพูดคำหนึ่งเหมาะกับการใช้ตรงนี้ยิ่ง เซียนจริงแท้บนโลกซ้อนโลกสามารถแบ่งเป็นสองประเภท ประเภทหนึ่งคือจักรพรรดินี ประเภทหนึ่งคือคนอื่น”
จากนั้นเยี่ยนจ้าวเกอก็ส่ายหน้า การเคลื่อนไหวไม่ได้เชื่องช้าลง เขาขวางมือหนึ่งประกบเป็นท่ามุทรากลางหน้าอก มืออีกข้างชี้ไปยังมิติที่อยู่ด้านบน
“กษัตริย์ดารา ข้าเพิ่งทดลองใช้พิธีนี้เป็นครั้งแรก เพราะต้องรับมืออย่างฉุกละหุก จึงสู้จักรพรรดินีที่วางแผนมาหลายปีไม่ได้” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวเสียงทุ้ม “ผลลัพธ์สุดท้ายถ้าเกิดความเสียหาย ขอให้ท่านเตรียมใจไว้ด้วย”
ยามนี้กษัตริย์ดาราหลับตา “ไม่เป็นไร คงไม่แย่ไปกว่าตอนนี้แล้ว”
พร้อมกับที่เขาหลับตา รอยมารที่เปิดขึ้นบนหน้าผากเริ่มสมานกันอย่างแช่มช้า
แสงสว่างสีฟ้ากะพริบไม่หยุด เหมือนกับกำลังดิ้นรน
เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้ามองตราอาคมแสงสีขาวที่อยู่ในอากาศนั้น เห็นแสงมารสีฟ้าบนตราอาคมส่ายไหว
ความลำบากของกษัตริย์ดาราอยู่ที่ต้องสะกดการกลับมาของมารน้ำกุ่ย และต้องป้องกันผลจากพิธีกรรมของจักรพรรดินี หากป้องกันประสิทธิผลที่พิธีกรรมของจักรพรรดินีนำมามากเกินไป อาจจะลดการสะกดมารน้ำกุ่ยลง
ด้วยเหตุนี้ ทางด้านฉู่หลีหลีที่มรกตท่องฟ้าย่อมไม่มีอะไรต้องห่วง กษัตริย์ดาราอาจจะร่วงหล่นสู่วิถีมาร กลายเป็นมารอย่างสมบูรณ์
ปัญหาในตอนนั้นไม่ใช่กษัตริย์ดารายอมสละตัวเอง กลายเป็นมารแทนฉู่หลีหลีอีกแล้ว แต่เป็นใครที่อยู่ที่นี่จะควบคุมกษัตริย์ดาราหลังจากกลายเป็นมารต่างหาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี