เทียบกับมรกตท่องฟ้า เทียบกับฝ่ายจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ที่ได้จากไป ความสัมพันธ์ระหว่างโลกซ้อนโลกกับโถงเซียนค่อนข้างนุ่มนวลกว่า แต่สองฝ่ายก็ไม่ได้อยู่บนเส้นทางเดียวกัน การสอดแนมและการหยั่งเชิงในที่ลับไม่เคยหายไปไหน
เรื่องราวของฟู่อวิ๋นฉื่อจักรพรรดิแพรงามในอดีตเป็นตัวอย่างที่ค่อนข้างโดดเด่น
เพียงแต่ว่าทุกอย่างนี้ดำเนินอยู่ในที่ลับ นอกจากผู้เกี่ยวข้องแล้ว มักจะไม่บอกให้คนอื่นๆ ทราบ
“ถึงแม้ว่าฟู่แพรงามถึงกับแบ่งหนึ่งเป็นสอง อยู่นอกเหนือความคาดหมายของข้าผู้แซ่หยาง…” พูดถึงตรงนี้ กษัตริย์เร้นลับก็มองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยรอยยิ้ม
เยี่ยนจ้าวเกอปั้นสีหน้าผ่าเผย ใบหน้าไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงที่กษัตริย์เร้นลับเข้าฌาน แต่ว่าการเข้าฌานไม่ได้หมายความว่าตัดขาดจากข่าวสารภายนอกโดยสิ้นเชิง ดังนั้นแม้กษัตริย์เร้นลับจะทราบเรื่องทีหลัง เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่ประหลาดใจ
ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องราวนี้ส่วนใหญ่แล้วยังอยู่ในการคาดการณ์ของกษัตริย์เร้นลับ ซึ่งรากฐานมาจากฝีมือของเขา
“แต่ต่อให้จะแบ่งจากหนึ่งเป็นสอง ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล” กษัตริย์เร้นลับพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง “เมื่อผ่านภัยพิบัตินี้ไปได้ ฟู่แพรงามอาจจะขจัดเภทภัยได้ พวกเขามีโอกาสรุดหน้าหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง”
กษัตริย์เร้นลับมองไปยังเยี่ยนจ้าวเกอ “คนที่เดินบนเส้นทางไร้รักจะก้าวหน้าอย่างไร ไม่ต้องกล่าวมากความ แต่คนที่เดินบนเส้นทางมีรัก ข้าได้เตรียมวิธีการไว้ให้แล้ว ถึงอย่างไรในตอนที่ทำให้ฟู่แพรงามให้กำเนิดบุตรีคนที่สอง ข้าก็ไม่ทราบว่าจะไปตามหาหมัดแปลงกำเนิดกับเมฆแปลงกำเนิดที่ใด เส้นทางไร้รักกลับไม่มีหวังจะก้าวหน้า ดังนั้นข้าจึงมีการเตรียมการสำหรับเส้นทางมีรัก หลังจากเขาขจัดเภทภัยได้”
เยี่ยนจ้าวเกอหรี่ตา “กษัตริย์เร้นลับคิดรอบคอบจริงๆ”
“เหมือนอย่างที่สหายร่วมเส้นทางเฉินบอก ถึงแม้เอกพิสุทธิ์กับหยกพิสุทธิ์จะมีข้อแตกต่าง แต่ทุกคนล้วนเป็นสามพิสุทธิ์สายหลัก ไม่ใช่มีอุดมการณ์แตกต่างเหมือนสายเหนือพิสุทธิ์ ข้าผู้แซ่หยางย่อมไม่อยากสูญเสียคนอย่างฟู่แพรงามไป” กษัตริย์เร้นลับพูดด้วยรอยยิ้ม
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะเหอะๆ
ไม่ใช่ไม่อยากสูญเสียคนที่มีอุดมการณ์ต่างกัน
ในทางตรงกันข้าม ความจริงเท่ากับพูดว่า ถ้าหากอุดมการณ์ไม่ตรงกัน เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องทะนุถนอมใดๆ
ฉู่หลีหลีไปซ่อนตัวที่มรกตท่องฟ้า เป็นฝีมือในที่ลับของผู้ใด ปัจจุบันไม่ต้องกล่าวมากความ
กษัตริย์เร้นลับพิจารณาเยี่ยนจ้าวเกอตั้งแต่หัวจรดเท้า หลังจากนั้นสักพักก็ค่อยพูดว่า “กล่าวกันอย่างยุติธรรม เทียบกับฟู่แพรงามแล้ว ข้าเสียดายท่านยิ่งกว่า”
“ขอบคุณความเมตตาอันเหลือล้นของกษัตริย์เร้นลับ” เยี่ยนจ้าวเกอมองใบหน้าของอีกฝ่าย ตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน
กษัตริย์เร้นลับพูดด้วยความประหลาดใจอยู่หลายส่วน “สหายร่วมเส้นทางเฉินหลุดออกมาได้ ผลลัพธ์สุดท้ายกลับเหมือนอยู่เหนือการคาดการณ์ของข้าไปบ้าง หรือว่าเป็นฝีมือของเจ้า”
เยี่ยนจ้าวเกอตอบ “ข้าคนเดียวไม่อาจกระทำได้ เพียงแต่ประสบพบเจอโดยบังเอิญ จึงลงมือสุดกำลัง”
“สหายน้อยฉู่ไม่ได้แบกรับรอยมารเพียงคนเดียว สหายร่วมเส้นทางเฉินคงยินดี แต่ว่าสหายน้อยเจี่ยศิษย์อีกคนหนึ่งเกรงว่าจะผิดหวังยิ่ง” กษัตริย์เร้นลับมองเยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ด้วยสภาพบนโลกซ้อนโลกในปัจจุบันของเจ้ากับเขากว่างเฉิง การกระทำที่ส่งผลดีที่สุด ความจริงคือการไม่ทำอะไรกระมัง”
การเมินเฉย กับการลงมืดขัดขวางหรือช่วยเหลือ เป็นคนละเรื่องกัน
หากเยี่ยนจ้าวเกอไม่ทำอะไร ก็นับว่าไม่ล่วงเกินกษัตริย์ดารา
ไม่มีคนสามารถขอให้อีกคนมีความสามารถทุกอย่าง จนสร้างปาฏิหาริย์ทั้งหมดได้
ด้วยนิสัยของกษัตริย์ดารา ไม่มีทางขอให้เยี่ยนจ้าวเกอเป็นเช่นนี้ ยิ่งไม่ระบายโทสะใส่เขาเพราะเขา ‘ไร้ความสามารถ’
หากเยี่ยนจ้าวเกอเมินเฉย แผนของจักรพรรดินีจะสำเร็จ มรกตท่องฟ้าอาจจะเกิดมรสุมขึ้นเพราะเหตุนี้ ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดคือกษัตริย์ลี้ลับและกษัตริย์เถาที่เข้าฌานถูกบีบให้ออกฌานก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี