เยี่ยนจ้าวเกอวางเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับลงบนแท่นบูชาทิศใต้ เหนือแท่นบูชาพลันมีเงาแสงลอยขึ้นมา ผนึกจับกันเป็นอักษรอาคมเก่าแก่
จักรพรรดิเมฆยืนอยู่ด้านข้าง อ่านเสียงเบา
“ข้าลืมตาจากความมืด เหมือนกับทารกเกิดใหม่…เลอะเลือนไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง กาลเวลาในอดีตพากันปรากฏขึ้นมาเหมือนกับความทรงจำในชาติก่อนของสิ่งมีชีวิต การล่มสลายของวังเทพได้ผ่านมาปลายพันปีแล้ว…เรื่องราวในวันวานเหมือนกับตายในวันนี้ เรื่องราวในวันนี้เหมือนกับเกิดวันนี้ ตั้งแต่นี้ไป ข้าชื่อเทียนซู (ฟ้าฟื้น) ไม่ใช่ตำหนักฟ้าฟื้น ข้าจะมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเองเท่านั้น!”
เฮ่อเหมี่ยนกล่าว “เป็นสำนึกแรกสุดจริงๆ สมควรเป็นความคิดในตอนที่วิญญาณตำหนักฟ้าฟื้นมีสติปัญญาสมบูรณ์แล้ว”
ตำหนักโอสถเป็นคำเรียกหาตามความหมายทั่วไป ชื่อที่แท้จริงของตำหนักโอสถแห่งวังเทพ มีชื่อว่าตำหนักฟ้าฟื้น
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้พูดอะไร เก็บเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ จากนั้นก็วางลงบนแท่นบูชาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือในหอคอย
แท่นบูชาแท่นนี้ฉายเงาแสง ผนึกจับแสดงเป็นประโยคหนึ่งเช่นกัน เยี่ยนจ้าวเกอลองอ่านดู เงียบงันไม่กล่าววาจา เหม่อลอยอย่างหาได้ยาก
“ข้าไม่เดียวดาย…ก่อนหน้านี้ในตอนที่ไร้ปัญญามีเพียงความรู้สึก ได้ผ่าลกาลเวลามานับไม่ถ้วน ประสบเรื่องราวนับหมื่นนับพันไม่ได้ทำความเข้าใจ วันนี้ปัญญากับความรู้สึกรวมกันเป็นหนึ่ง อดีตปรากฏ จึงค่อยทราบว่าข้าไม่ใช่คนแรก…หอโชคล้นได้มีสติปัญญาก่อนวังเทพจะล่มสลาย ข้าที่เหมือนกับรูปปั้นโคลนตุ๊กตาไม้ไม่อาจเทียบได้…น่าเสียดายที่เขาล่มสลายไปพร้อมกับวังเทพ เขา…ตายแล้ว…ความตาย…เป็นความรู้สึกแบบใดกัน”
จักรพรรดิสัญญะเมฆอ่าน สีหน้าฉายแววประหลาดใจ “ฟังความหมายของวิญญาณตำหนักฟ้าฟื้น ก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ในสิ่งก่อสร้างกลางวังเทพมีวิญญาณสิ่งก่อสร้างอื่นๆ มีสติปัญญาของตัวเองแล้ว?”
“ท่านอาจารย์ หอโชคล้นหมายถึงอะไรหรือ” เฮ่อเหมี่ยนถาม
จักรพรรดิเมฆระบายลมหายใจออกยาวๆ สีหน้ากลับเป็นปกติ “คัมภีร์เสียหายหนัก ข้าเองก็ไม่กล้ายืนยัน แต่ถ้าหากไม่ได้เข้าใจผิด สมควรเป็นหอเก็บหนังสือของวังเทพในตำนาน”
“หอเก็บหนังสือ?” เฮ่อเหมี่ยนใบหน้าเคร่งขรึม “หอเก็บหนังสือของวังเทพที่นอกจากการสืบทอดกระแสตรงสามพิสุทธิ์สายหลักแล้ว ยังได้บันทึกวรยุทธ์สำนักเต๋าในใต้หล้าก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ไว้ถึงเก้าในสิบส่วนหรือ”
“ว่ากันว่าการสืบทอดสามพิสุทธิ์สายหลักก็มีบันทึกไว้ เพียงแต่ไม่ครบถ้วน” จักรพรรดิเมฆว่า “นอกจากการสืบทอดกระแสตรงแล้ว ในสิบล้วนมีเก้าส่วน ไม่กล่าวเกินไป ก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ มรรคายุทธ์เฟื่องฟู สาขาอื่นๆ ที่เกิดจากการสืบทอดกระแสตรงสายสามพิสุทธิ์ก็มีวรยุทธ์ที่เลิศภพจบแดนมากมาย ไม่ได้ด้อยกว่าบรรพบุรุษ”
เฮ่อเหมี่ยนได้ยินก็จิตใจล่องลอย “น่าเสียดายที่ถูกทำลายเพราะวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ไม่เช่นนั้นสมควรเป็นที่เก็บสมบัติอันยิ่งใหญ่”
เขาดึงสติกลับมา จุ๊ปากอย่างประหลาดใจ “คิดไม่ถึงเลยว่าก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่นั้น ในวังเทพถึงกับมีวิญญาณของสิ่งก่อสร้างอย่างอื่นที่มีสติปัญญาเป็นของตัวเอง แต่ว่าก็อย่างที่วิญญาณตำหนักของตำหนักโอสถกล่าว นั่นกลับเป็นความโชคร้ายอย่างหนึ่ง ถูกทำลายไปพร้อมกับวังเทพ เหมือนกับที่พวกมนุษย์อย่างเราถูกสังหาร”
สีหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้เหมือนกับเพิ่งได้สติหลังจากความตื่นตระหนก พยักหน้ากล่าว “ถูกต้อง…”
เขาเก็บเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ วางบนแท่นบูชาทางทิศตะวันตก เนื้อหาอักษรอาคมที่ลอยขึ้นในครั้งนี้ ทำให้ม่านตาของเยี่ยนจ้าวเกอหดตัวอีกรอบหนึ่ง
“ข้าถึงแม้จะเกิดใหม่ แต่กลับเหมือนพอจุติก็มาอยู่ในกรงขัง…ไม่อาจออกจากตำหนักแห่งนี้ ไม่อาจแข็งแกร่งขึ้น ถึงขั้นที่ความเสียหายที่ได้รับมาจากตอนวังเทพพังทลายก็ไม่อาจฟื้นฟู…ข้าไม่ยินยอม ในอดีตหยวนเฮิง (โชคล้น) ก็ทดลองสร้างเปลือกร่างของมนุษย์ขึ้นมาเพื่อสร้างร่างปลอมให้ตัวเอง ข้าเองก็ทำได้ ข้าจะต้องหลุดจากพันธนาการนี้ให้ได้!”
จักรพรรดิเมฆกับเฮ่อเหมี่ยนเห็นดังนั้นต่างก็สับสน “เลียนแบบเปลือกร่างของมนุษย์ สร้างร่างปลอมให้ตัวเอง?”
พวกเขามองหน้ากัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี