ปีศาจสามตนที่เหลือเห็นดังนั้นต่างตกตะลึง จากนั้นในที่สุดก็บังเกิดความเย็นเยียบในส่วนลึกของจิตใจ
อีกฝ่ายทั้งๆ ที่ทราบแล้วว่าการเข้ามาในตำหนักโอสถในครั้งนี้ของพวกตนมียอดฝีมือระดับสุดยอด กลับยังกล้าสังหารโดยไร้ข้อกริ่งเกรงเช่นนี้
ในเมื่อฆ่าเกาหลิ่งแล้ว นั่นหมายความว่าต้องการฆ่าพวกเขาสามคนจนหมดสิ้นอย่างไม่เกรงใจเช่นกัน
ปีศาจจิ้งจอกหัวเราะ “ประเสริฐ ประเสริฐ ประเสริฐนัก! พวกท่านกล้าลงมือ หมายความว่าพวกท่านยังคิดช่วงชิงตำหนักโอสถนี้กับท่านบรรพบุรุษ หาที่ตายเองแท้ๆ ท่านบรรพบุรุษจะต้องน้อมสนองให้ พวกเราพี่น้องขอไปก่อน จะรอพวกท่านอยู่บนเส้นทางไปปรโลก!”
“พิรี้พิไร” จักรพรรดิสัญญะเมฆส่ายหน้า ออกกระบี่ติดต่อกัน แทงปีศาจกระทิงดำกับปีศาจจิ้งจอกสองตนที่เหลืออยู่จนตาย
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “เรื่องราวไม่อาจชักช้า พวกเรารีบออกเดินทางเถอะ”
สามคนออกเดินทางต่อ มุ่งหน้าไปยังทิศทางของโกดังสมุนไพร
เยี่ยนจ้าวเกอขณะเดินทาง ความจริงความสนใจมีอยู่ส่วนหนึ่งอยู่ที่ตัวจักรพรรดิสัญญะเมฆโดยตลอด รักษาความระมัดระวัง
สำหรับจักรพรรดิเมฆแล้ว สุดท้ายก็ต้องการเตาโอกสถล้ำค่าเช่นเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ ของวิเศษทรัพยากรอย่างอื่นในตำหนักโอสถ ในสายตาของเขาอยู่รองลงไป โดยเฉพาะตอนนี้นอกจากวิญญาณตำหนักแล้ว ยังอาจจมีปีศาจกวางขาวจอมปีศาจในตำนานสอดมือเข้ามา
จักรพรรดิสัญญะเมฆเผชิญมรสุมมาหลายปี อันตรายที่เคยพบมีอยู่มากมายเหลือคนานับ จิตใจแน่วแน่ ไม่กลัวอันตราย แต่ถ้าหากสิ่งที่จะได้มากับความเสี่ยงที่จำเป็นต้องแบกรับไม่สอดคล้องกัน เสี่ยงอันตรายยิ่งใหญ่กลับได้ประโยชน์อย่างจำกัด เช่นนั้นหากไม่มีเหตุผลพิเศษ จักรพรรดิสัญญะเมฆใช่ว่าจะยินดีเสี่ยงแล้ว
ในมุมมองด้านหนึ่ง การคิดหาวิธีชิงเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับจากมือของเยี่ยนจ้าวเกอในสถานการณ์ตอนนี้ เกรงว่าจะง่ายดายกว่าเล็กน้อย
เวลาแบบนี้ เยี่ยนจ้าวเกอย่อมต้องระวังจักรพรรดิเมฆสองศิษย์อาจารย์สร้างความลำบากอย่างกะทันหัน หรือว่าฉวยโอกาสตอนที่เขาต่อสู้กับคนอื่น ทำตัวเป็นชาวประมงได้ประโยชน์
จักรพรรดิเมฆบอกว่าไม่ยินยอมกลับไปมือเปล่า ถ้าหากมีโอกาสชิงเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับมาได้ ย่อมไม่นับว่ากลับไปมือเปล่าแล้ว
ถึงจักรพรรดิสัญญะเมฆจะสังหารจอมปีศาจสี่ตนนั้นด้วยตัวเอง ตัดความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือกับเผ่าปีศาจ แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ เยี่ยนจ้าวเกอกลับยิ่งระวังตัวกว่าเดิม
คนที่อำมหิตเด็ดเดี่ยวเช่นจักรพรรดิเมฆ ไม่มีโอกาสยังพอทำเนา หากว่ามีจะต้องไม่มีการลังเลใดๆ แน่นอน
สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดอย่างแท้จริงไม่ใช่โอสถเซียนในโกดังโอสถ ยาวิญญาณในโกดังสมุนไพร สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นผลพลอยได้
สิ่งที่เขาต้องการคือตำหนักโอสถทั้งตำหนัก เมื่อได้ตำหนักโอสถนี้มาครอง แผนการที่ตอนแรกหยุดบนหน้ากระดาษจะมีโอกาสกลายเป็นจริง
คนทั้งสามไม่พูดอะไรกัน เคลื่อนไหวอยู่ในจักรวาลตำหนักโอสถอย่างรวดเร็ว
ในตอนที่พวกเขาเริ่มเข้าใกล้อาณาเขตที่โกดังสมุนไพรอยู่ กลางอากาศพลันมีเสียงพิณดังขึ้น ไพเราะแผ่วโผย
ทว่าเสียงพิณเหมือนกลายเป็นระลอกคลื่นที่จับต้องได้หลายระลอก กระเพื่อมไปทั่ว มิติจักรวาลพังทลายเสื่อมโทรม
ในระลอกคลื่นทรงโค้งกลับปรากฏเจตจำนงกระบี่อันคมกล้า ทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกว่าวิญยาณถูกทะลวง
เยี่ยนจ้าวเกอกับเฮ่อเหมี่ยนต่างขมวดคิ้ว เป็นเพราะว่าพวกเขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า เจตจำนงกระบี่อันคมกล้ากับการคุกคามจากคลื่นเสียง คล้ายไม่เห็นญาณจริงแท้ของจอมยุทธ์ที่เหนือกว่าจอมยุทธ์มนุษย์ธรรมดาโดยสิ้นเชิง
การระวังป้องกันกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง
“เซียนลี้ลับสงบนิ่ง มนุษย์ไม่อาจรบกวน…” เยี่ยนจ้าวเกอหรี่ตา “เจตจำนงกระบี่ที่อันตรายเช่นนี้ วิชากระบี่สายเหนือพิสุทธิ์ แตกฉานเรื่องทำนอง ใช้พิณแทนกระบี่…”
เขาหันไปมองจักรพรรดิสัญญะเมฆกับเฮ่อเหมี่ยน “ตรงหน้าเป็นกษัตริย์อนันต์?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี