ต้นผมขาวที่สูงชะลูดตั้งอยู่กลางมิติจักรวาลด้านในตำหนัก ครอบคลุมจักรวาล แทงทะลุความว่างเปล่า
พอเห็นต้นผมขาว เสวี่ยชูชิงก็กราบกรานอย่างแช่มช้า “ศิษย์เสวี่ยชูชิง คำนับบูรพาจารย์”
เยี่ยนจ้าวเกอมองต้นไม้วิญญาณสูงใหญ่ โน้มกายคำนับเช่นกัน
ราชันพระพฤหัสบดีเซ่าจวินหวง เหมือนกับราชันพระศุกร์เยี่ยนซิงถางสองสามีภรรยา ด้วยอายุขัยจากระดับพลังฝึกปรือของพวกเขา อายุในตอนที่เสียชีวิต ต่างนับได้ว่าเป็นวีรบุรุษจากไปแต่วัยเยาว์
และเป็นเพราะว่าการเสียสละของคนรุ่นก่อนจำนวนนับไม่ถ้วนเหมือนกับพวกเขา ความหวังที่สามพิสุทธิ์สายหลักสำนักเต๋ารุ่งเรืองขึ้นอีกครั้งในตอนนี้จึงเกิดขึ้น
ในฐานะคนรุ่นหลัง ต่างเป็นคนได้รับผลประโยชน์
กิ่งใบของต้นผมขาวที่สูงใหญ่สั่นไหว เคลื่อนไหวโดยไร้ลมอยู่ในจักรวาลในตำหนัก
สั่วหมิงจางเงยหน้ามองต้นไม้วิญญาณต้นนี้ เงียบงันเนิ่นนาน
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอกับเสวี่ยชูชิงผุดลุกขึ้น ต่างก็เงียบงันเช่นกัน
กษัตริย์ดาราเฉินเสวียนจงประสานมือให้แก่ต้นไม้วิญญาณ มีเพียงเสียงถอนใจ
“ฟังว่าครั้งกระโน้นเยี่ยนซิงถางกับตี๋ชิงเหลียนร่วมมือกันสร้างวรยุทธ์สะท้านโลกชนิดใหม่ สุดท้ายเป็นบิดาเจ้ารับช่วงต่อ?”
สักพักหนึ่ง สั่วหมิงจางทำลายความเงียบก่อน หันไปถามเยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอทราบว่าสมควรเป็นทวนพระอังคารบอกสั่วหมิงจาง แต่เห็นได้ชัดว่าทวนพระอังคารไม่ทราบรายละเอียด จึงตอบว่า “หากกล่าวให้ถูกต้อง ท่านปู่กับท่านย่ามิได้ทำให้วรยุทธ์นี้สำเร็จอย่างแท้จริง ต่อมามันเกิดมาพร้อมกับบิดา หลังจากตั้งครรภ์อยู่ในเมฆแปลงกำเนิด ก็สร้างเค้าโครงสุดท้ายสำเร็จ จากนั้นก็ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกัน”
“ภายหลัง พร้อมกับที่บิดาฝึกวรยุทธ์ ระดับของตัวเองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ศึกษาหลักการของฟ้าดิน พลังของวรยุทธ์ชนิดนี้ก็เปลี่ยนจากแบบจำลองในตอนแรกสุดก็เกิดเป็นรูปเป็นร่าง”
“กระนั้นหากจะพัฒนาให้สมบูรณ์อย่างแท้จริง ยังมีเส้นทางที่ต้องเดิน พัฒนาพร้อมกับบิดาข้า”
เยี่ยนจ้าวเกอมิได้ปิดบังสั่วหมิงจาง บอกเล่าอย่างละเอียด
“คัมภีร์เบิกนภากับกระบี่ลงทัณฑ์เซียนประสานหัวหาง มีแปลงกำเนิดค่อยปรับ หลังจากตัดหัวตัดหาง ก็ให้กำเนิดการเปลี่ยนแปลงไร้ขอบเขต เหมือนกับการเปลี่ยนแปลงในธรรมชาติ มีแต่ไปด้านหน้า ไร้สิ่งใดขวางกั้น” สั่วหมิงจางพยักหน้าเล็กน้อย “เหมือนตรงกันข้ามกับข้าอยู่บ้าง…”
“แนวคิดในอดีตของเยี่ยนซิงถางกับตี๋ชิงเหลียนสองสหายร่วมเส้นทางกลายเป็นจริง น่ายินดียิ่งนัก”
“น่าเสียดายตอนนี้มิอาจพูดกับพวกเขาด้วยตัวเอง” เขาถอนใจออกมาเล็กน้อย “บิดาเจ้าตอนนี้อยู่ไหน ให้ข้าดูวรยุทธ์นี้ได้หรือไม่?”
คำกล่าวนี้พอกล่าวออกมา ออกจะไม่เหมาะสมไปบ้าง
แม้สั่วหมิงจางจะมีพลังฝึกปรือและวัยวุฒิเหนือกว่าเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูก ถึงขั้นที่มีพลังเหนือกว่าเยี่ยนซิงถางสองสามีภรรยาในตอนนั้น แต่คำขอแบบนี้ก็ไร้มารยาทมาก
กระนั้น สีหน้าของสั่วหมิงจางไม่ได้ฉายแววทะนงตน กลับค่อนข้างจริงจัง
“ในตอนที่ปู่ของเจ้ามีแนวคิดนี้ เคยมาสนทนากับข้า ความคิดบางอย่างในตอนนั้นของเขา อาจจะส่งผลดีต่อบิดาเจ้า”
ในเก้านพเคราะห์คุนหลุน สั่วหมิงจางกับเยี่ยนซิงถางมีความสัมพันธ์ธรรมดา มิอาจนับได้ว่าสนิทสนมกัน
ทว่าสองฝ่ายล้วนเป็นอัจฉริยะผู้ล้ำเลิศ สั่วหมิงจางยังฝักใฝ่ในหลักการวรยุทธ์เป็นพิเศษ เคยสนทนากับเยี่ยนซิงถางไม่น้อย
แนวคิดในตอนแรกเกี่ยวกับดาบกฎเกณฑ์ของเยี่ยนซิงถางสามีภรรยา นอกจากเฉินเสวียนจงที่เป็นสหายสนิทในเก้านพเคราะห์แล้ว ก็มีแค่สั่วหมิงจางที่ทราบอยู่บ้าง
ถึงเขาจะไม่ได้เห็นเยี่ยนตี๋สู้กับคนมาก่อน แต่หลังจากได้ยินทวนพระอังคารเล่าให้ฟังสองสามประโยค แล้วยืนยันกับเรื่องราวที่ทราบในตอนนั้น ก็พอจะเดาออกคร่าวๆ แล้ว
ปัจจุบันพอเห็นว่าวรยุทธ์อย่างดาบกฎเกณฑ์ในที่สุดก็เปลี่ยนจากแนวคิดเป็นความจริง สั่วหมิงจางก็รู้สึกยินดี
น่าเสียดายที่สหายเก่าซึ่งพูดถึงแนวคิดในวันนั้น ได้ตายไปพันปีแล้ว
อีกด้านหนึ่ง กษัตริย์ดาราเฉินเสวียนจงยืนนิ่งอยู่ที่นั่น ไม่พูดไม่จา แต่ดูเหมือนจะมีท่าทางจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอยู่บ้าง
ในเก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่ พวกเขาสองคนเป็นคนที่รักสันโดษทั้งคู่
สั่วหมิงจางเพียงแต่ไปมาหาสู่กับราชันพระพฤหัสบดีเซ่าจวินหวงมากเท่านั้น กับคนอื่นจำกัดแต่การสนทนาแลกเปลี่ยนมรรคายุทธ์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี