กลางจักรวาลสำนักเต๋าในตอนนี้ ไม่เพียงแต่สองเซียนลี้ลับสงบนิ่งอย่างเยว่เจิ้นเป่ยกับหยางเซ่อที่คล้ายหายไปเท่านั้น
แม้แต่ราชันพระเสาร์เจี่ยงเซิ่นที่เป็นเซียนกำเนิดสุญญตา ก็เหมือนสูญเสียร่องรอยการดำรงอยู่เช่นกัน
โลกซ้อนโลก มรกตท่องฟ้า ไปจนถึงโลกเบื้องล่างและมิติต่างแดนมากมายหมาวยไปหมดสิ้น
กลางจักรวาลเหมือนกับมีแค่บุรุษผมสั้นร่างสูงใหญ่ผู้นั้นดำรงอยู่อย่างแท้จริง
ขณะนี้ราชันพระอังคารสั่วหมิงจางเหมือนกับมองข้ามทุกสิ่งในจักรวาลแห่งนี้ จิตใจและสมาธิเหยียดยื่นครอบคลุมไปยังที่ไกลอย่างต่เนื่อง
เจี่ยงเซิ่นที่อยู่ด้านข้างไม่มีโทสะต่อการกระทำของสั่วหมิง
สีหน้าของเขาปรากฏความซับซ้อนอยู่บ้าง ขณะที่ถอนใจชมเชย ส่วนใหญ่เป็นความเสียดาย
“ในตอนที่พวกเราคนอื่้นๆ พยายามรวมสองปราณเป็นวายุ เขาก็ฝ่าภัยพิบัติสัจพิศวงไปแล้ว” เสียงของหยางเซ่อกษัตริย์เร้นลับดังขึ้นเลื่อนลอย “ทั้งๆ ที่หลอมเปลี่ยนปราณกาลีที่ผสานได้ยากกับปราณเซียนชนิดอื่นๆ มากที่สุดตอนสำเร็จเป็นเซียนจริงแท้ แต่กลับเร็วกว่าพวกเรา”
หยางเซ่อก้มหน้า กล่าวเสียงเบาพร้อมกับแย้มยิ้ม “ปัจจุบันข้ากับเฉินเสวียนจงยังติดอยู่กับการทำให้ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด พี่ร่วมเส้นทางเจี่ยงท่านเพิ่งสำเร็จระดับนี้ เขากลับก้าวข้ามภัยพิบัติปฐมลี้ลับมาไม่รู้กี่ปี อยากจะรู้จริงๆ ว่าจะไปถึงระดับไหน”
เจี่ยงเซิ่นไม่พูด แต่เห็นด้วยกับคำพูดของหยางเซ่อถึงขีดสุด
เขา เกาหานราชันพระอังคาร หลิงชิงราชันพระจันทร์ เจี่ยนซุ่นหวาราชันพระราหู ล้วนเป็นผู้ที่อยู่มาก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ แต่ว่าเลื่อนสู่ระดับเซียนลี้ลับช้ากว่าสั่วหมิงจาง
ในตอนที่เก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่บุกเบิกโลกซ้อนโลกพร้อมกัน ถึงระดับพลังฝึกปรือต่างเป็นเซียนจริงแท้ แต่ทั้งหมดล้วนเป็นคนที่โดดเด่นล้ำเลิศ กอปรด้วยพรสวรรค์มากล้น
ทว่าขีดความสามารถของสั่วหมิงจาง แม้จะเป็นโลกที่มรรคายุทธ์รุ่งเรืองก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ เจี่ยงเซิ่นก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน
และเป็นเพราะสาเหตุนี้ ขณะนี้เขายิ่งเสียดายกว่าเดิม
“สหายร่วมเส้นทางสั่ว คำกล่าวเมื่อครู่เป็นวาจาจากใจจริงของข้า ไม่ใช่กล่าวแทนใต้เท้า” เจี่ยงเซิ่นเอ่ยเสียงเบา “ทว่าท่านสมควรเห็นใจใต้เท้าถึงจะถูก ไฉนต้องสร้างความลำบากแก่เขา?”
การสั่นไหวของมิติเวลากลางจักรวาลที่เกิดขึ้นเพราะสั่วหมิงจางพลันเริ่มมีวี่แววว่าจะสงบลง
แสงดาวยิ่งใหญ่หกสายสว่างขึ้นพร้อมกัน งดงามจนมิอาจงดงามมากไปกว่านี้ เหมือนกับมาจากสวรรค์ชั้นเก้า
ดาวหกดวงนี้พอปรากฏ จักรวาลพลันหายจากสภาพเมื่อครู่ สั่วหมิงจางมิได้เป็นความจริงเพียงหนึ่งเดียวอีก
แสงดาวกระจัดกระจาย ในจักรวาลสำนักเต๋าเสมือนปรากฏฟ้าดินของมนุษย์
มีกลิ่นอายอันคมกล้าน่ากลัวของศาตราวุธกระจายไปทั่ว ยังน่าตื่นตระหยกยิ่งการสู้รบทั้งหมดดที่เยี่ยนจ้าวเกอเคยประสบมา
เหมือนกับคนและเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการสงครามตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในทุกยุคสมัย ตอนนี้มารวมกันอยู่ที่นี่
พลังอันน่ากลัวดุร้ายที่ไม่เคยมีมาก่อนปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคน
แต่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว ถูกเก็บไว้ไม่ปรากฏอีก
ขณะนี้กษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยรู้สึกว่าตัวเองกลับไปอยู่ในสภาพก่อนที่จะเปิดประตูเซียน ยังอยู่บนโลกมนุษย์
กลางแผ่นฟ้าและผืนดิน เขาหลุดออกจากสวรรค์ ร่วงตกสู่พื้น
เจี่ยงเซิ่นกับหยางเซ่อเวลานี้ยังคงอยู่บนสวรรค์ ก้มมองพวกเขา
ด้านหลังพวกเขามีเจตจำนงยิ่งใหญ่ปรากฏ ถึงมองไม่เห็นร่าง แต่กลับเป็นเจ้าชีวิตแห่งฟ้าดิน
ท้องนภาเปิดออก ดาวทั้งหกเรียงตัวเหมือนกับดวงตา จ้องมองเยี่ยนจ้าวเกอกับเยว่เจิ้นเป่ยอย่างไม่ยินดียินร้าย
สายตานี้กระจายไปทั่วโลกซ้อนโลก มรกตท่องฟ้า รวมถึงโลกเบื้องล่างทุกใบเหมือนอยู่ใต้ดวงตา
เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำ “จักรพรรดิโกวเฉิน…”
เยี่ยนจ้าวเกอรู้จักผู้มาในครั้งนี้จริงๆ
เขาเคยเห็นตัวจริงในหอเก็บหนังสือวังเทพก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี