ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 1299

ในจักรวาลสำนักเต๋า แสงเพลิงค่อยๆ สลายไป

แสงดาวกับแสงวิเศษพลังศรัทธาก็ออกห่างไปด้วยเช่นกัน

ทะเลเพลิงที่ครอบคลุมท้องฟ้าทางโลกซ้อนโลกและมรกตท่องฟ้า ก็เริ่มมีสภาวะคลื่นไหลกลับ

ณ เขตเสวียนเทียนทิศเหนือบนโลกซ้อนโลก ดินแดนทางเหนือสุด ‘ประมุขอุดร’ เงยหน้ามองแสงเพลิงที่สลายไปจากท้องฟ้า จุ๊ปากชมเชย “เพิ่งเลื่อนสู่ระดับเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลก็มีพลังขนาดนี้แล้วหรือ?”

ขณะที่กำลังนึกสนุก สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย กล่าวอย่างเป็นธรรมชาติ “ถูกพบเข้าแล้วจริงๆ”

วูบไหววูบหนึ่งกลางความว่างเปล่า ร่างของ ‘ประมุขอุดร’ หายไป

พริบตาต่อมา ที่เดิมมีแสงดาวสายหนึ่งกํบแสงเพลิงสายหนึ่งโผล่ขึ้น เกือบขัดขวางประมุขอุดรตัวปลอมนั้นไว้ได้

ร่างของ ‘ประมุขอุดร’ สั่นไหวอยู่ทั่วทุกที่บนโลกซ้อนโลก

แต่ทุกครั้งไม่รอให้เขาหยุดลง ก็มีแสงดาวกับแสงเพลิงไล่ตามมา

“มารไม้อิก ไปที่ใด!”

“รับมือยากจริงๆ” ตัวปลอมเงยหน้าถอนใจยืดยาว

จากนั้นสภาวะก็ทวีขึ้น!

“ยึดถือข้าเป็นจอมฉวยโอกาสเหมือนโถงเซียนหรือ?”

ปราณมารตัดสลับ ไม่เพียงแต่สั่นไหวโลกซ้อนโลก ยิ่งสั่นสะเทือนจักรวาลสำนักเต๋าทั้งจักรวาล

สภาวะเช่นนี้ย่อมสุดที่เซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลเส้นทางนอกรีตจะเทียบเคียงได้ ไม่ด้อยไปกว่าจักรพรรดิราชันฟ้าตำหนักสวรรค์โกวเฉินแม้แต่น้อย!

เป็นเพราะผู้มา คือหนึ่งในเทวมารสะท้านโลกที่เก่าแก่ที่สุดในนพยมโลก

มารไม้อิก หกสุดยอดมาร สิบสองเทพมารสวรรค์

มารเงา!

หกสุดยอดมารเกิดการสับเปลี่ยนดับสูญแล้วเกิดใหม่หลายครั้ง หลังจากถูกทำลายก็แสวงหาโอกาสคืนชีพอย่างต่อเนื่อง

มีเพียงสองข้อยกเว้น ก็คือมารจิตและมารเงา!

ตั้งแต่ถือกำเนิดขึ้นมา มารเงาคงอยู่มาโดยตลอด ยังอายุมากยิ่งกว่าจักรรพรดิราชันฟ้าตำหนักสวรรค์โกวเฉิน หรือยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่อย่างเทวกษัตริย์จ้าวที่อาศัยอยู่ในยุคสถาปนาเทพเจ้าเมื่อสองยุคสมัยก่อนเสียอีก!

ทว่าในตอนนี้ สิ่งที่มันเผชิญก็คือการโจมตีของสองเทวกษัตริย์แห่งสำนักเต๋าสายหลัก

ทั้งสองคือเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลในกลุ่มผู้สืบทอดกระแสตรงสามพิสุทธิ์สำนักเต๋า ซึ่งคนธรรมดาเทียบเคียงไม่ได้เช่นกัน

แสงดาวกับแสงเพลิงไม่ยอมลดละ พุ่งลงล้างพร้อมกัน ขับไล่ปราณมารหลายชั้น

มารเงาพลันเปลี่ยนร่าง ไม่ได้อยู่ในลักษณะของประมุขอุดรเมื่อก่อนหน้านี้อีก

ร่างของมันสูงใหญ่ขึ้น ศีรษะสั้นลง ทั่วร่างเผยกลิ่นอายเหมือนกับอัคคีสวรรค์ดวงดาวร้อนแรง

ถึงกับเปลี่ยนเป็นสั่วหมิงจาง

ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ มันนอกจากจะเปลี่ยนเป็นสั่วหมิงจาง พลังฝึกปรือยังเหมือนเท่ากับสั่วหมิงจางตัวจริง!

เพียงแต่ก็มีข้อยกเว้นที่พิเศษถึงขีดสุดบางส่วน ที่ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้

“ตัด!”

พร้อมกับที่สั่วหมิงจางเปล่งเสียงแปลกประหลาด การเปลี่ยนแปลงของมารเงาก็หยุดนิ่งอย่างฉับพลัน!

สิ่งที่ปรากฏขึ้นที่เดิม เป็นบุรุษวัยกลางคนที่หน้าตาเหมือนทั้งประมุขอุดรและสั่วหมิงจาง

ร่างมิได้ใหญ่เท่าสั่วหมิงจาง แต่ก็มิได้ต่ำเตี้ยเหมือนประมุขอุดรที่หลังงอแก่ชรา

ผมยาวครึ่งหนึ่ง เป็นสีขาว ไม่ได้เป็นคนแก่ผมขาวเหมือนก่อนหน้า กลับไม่ใช่คนหนุ่มผมดำเช่นกัน

อายุภายนอกของเขา ติดอยู่ระหว่างวัยหนุ่มกับวัยชรา

ในด้านรูปร่างหน้าตา มีจุดพิเศษของสั่วหมิงจางอยู่หลายส่วน และมีลักษณะของประมุขอุดรอยู่หลายส่วนเช่นกัน

ถึงขั้นที่พลังฝึกปรือยังติดอยู่ตรงกลางอย่างประดักประเดิด

ทุกอย่างเหมือนกับกำดำเนินถึงกลางทาง ก็ถูกตัดตอนให้หยุดกลางทางโดยไม่มีเค้ารางไม่มีการเปลี่ยนถ่าย

“แบบนี้หรือ? ลี้ลับอย่างไม่เคยพบเคยเจอมาก่อนจริงๆ” มารเงาสีหน้าจริงจังขึ้นหลายส่วน “ฝึกฝนวรยุทธ์สามพิสุทธิ์ย้อนหลัง? ไม่ถูกต้อง มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เหนือกว่าสามคัมภีร์ก่อนกำเนิดแรกเริ่มและสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนล้ำค่า…”

การเปลี่ยนแปลงที่อยู่เหนือความคาดหมายทำให้มารเงารับมือไม่ทัน

แสงดาวกับแสงเพลิงที่สภาวะยังไม่หมดสิ้น ยังคงพุ่งใส่ร่างของเขา ปราณสีดำปั่นป่วน เหมือนเลือดกระฉูดออกมาชั่วขณะ

หลังจากเล่นงานเจี่ยงเซิ่นและหยางเซ่อแล้ว ทะเลเพลิงก็ไม่สนใจอีก หุบกลับมาใหม่ เริ่มม้วนเข้าหาแสงวิเศษพลังศรัทธาหลายสายนั้น!

เหล่าเทวกษัตริย์จ้าวมิได้หลีกหนี

สั่วหมิงจางที่อยู่ตรงหน้าพอเลื่อนมาอยู่ในระดับเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลก็แข็งแกร่งอย่างแท้จริง แต่นี่ก็บอกให้รู้เช่นกันว่า เทวกษัตริย์ไร้ประมาณกำลังจะมา!

ขอแค่รอไม่กี่ชั่วอึดใจเท่านั้น…

พวกเขาเพิ่งคิดถึงตรงนี้ กลับเห็นในทะเลเพลิงทั่วฟ้า มีฝ่ามือข้างหนึ่งยื่นออกมาอย่างเลือนราง

ฝ่ามือกลายเป็นห่วง ครอบใส่ความว่างเปล่า เกิดตาข่ายเพลิง พลันจับแสงวิเศษพลังศรัทธาหลายสิบสายที่แข็งแกร่งถึงขีดสุดไว้

คนที่ถูกจับแตกตื่นตะลึงลาน คนที่ไม่ถูกจับถอยหนีโดยสัญชาตญาณ

จากนั้นเห็นในแสงเพลิงมีฝ่ามืออีกข้างบัดเดี๋ยวหายบัดเดี๋ยวโผล่ กำใส่อากาศ

พร้อมกับการกำนี้ กลางดวงดาวดารดาษในมิติต่างแดนไร้สิ้นสุด พลันมีหมู่ดาวทอแสง

ดวงดาวเหล่านี้หายไปจากจักรวาลดั้งเดิม จากนั้นโผล่ขึ้นกลางทะเลพลิง เชื่อมต่อรวมตัวกันใจกลางฝ่ามือที่กำอยู่นั้น

ดวงดาวที่แท้จริงดวงแล้วดวงเล่าต่างแฝงพลังอันน่ากลัวของการทำลายฟ้าบดขยี้ดิน ทุกๆ ดวงล้วนมหึมาจนโลกใบหนึ่งยากบรรจุไว้ได้

ทว่าตอนนี้ ทั้งหมดรวมตัวกันใจกลางฝ่ามือของสั่วหมิงจาง จากนั้นก็ยุบตัวลงอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นทวนที่ส่องแสงระยิบระยับเล่มหนึ่ง!

พลังงานที่เกิดจากการพังทลายและระเบิดของดวงดาวดวงหนึ่งก็สร้างความพรั่นพรึงแก่ผู้คนอยู่แล้ว

แต่ตอนนี้ กลุ่มดาวยุบตัวเข้าตรงกลาง หนักอึ้งน่ากลัวจนมิอาจบรรยายได้อีก

แม้นจะอยู่ในมิติต่างแดน จักรวาลสำนักเต๋าที่อยู่ใกล้ๆ ก็ยังสั่นสะเทือน!

จากนั้น ทวนนี้ก็ฟันใส่ตาข่ายเพลิงนั้น!

ในตาข่ายเพลิง เซียนสวรรค์สี่คนจากโถงเซียนกำลังร่วมมือกันทำลายตาข่ายเพลิง

ทว่าทวนจากการดับสูญของแสงดาวอันน่าพรั่นพรึงนั้นก็พุ่งใส่ศีรษะของพวกเขาแล้ว!

อย่างไร้สุ้มไร้เสียง แสงวิเศษล้วนดับไปจนหมดสิ้น

………………..