เยี่ยนจ้าวเกอเผชิญกับกับการพิจารณาของกษัตริย์เถา ไม่ได้หลบเลี่ยง พยักหน้าอย่างสงบเยือกเย็น “ใต้เท้ากษัตริย์เถาอยู่ต่อหน้า เยี่ยนจ้าวเกอขอคารวะแล้ว ท่านปู่คือราชันพระศุกร์”
“ลูกของคนดัง คลื่นลูกหลังกลบคลื่นลูกหน้า” กษัตริย์เถาไม่ได้ถามไถ่ถึงชาติกำเนิดของเยี่ยนจ้าวเกอต่อ
นางเพียงพิจารณาร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก “ร่างแยกอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าแล้ว ร่างจริงของเจ้าเกรงว่าอีกไม่ไกลคงเลื่อนสู่ระดับเซียนแล้วกระมัง? หรือว่าก้าวเท้าก้าวสุดท้ายนั้นออกแล้ว?”
เยี่ยนจ้าวเกอตอบตรงๆ “ยังขาดก้าวสุดท้าย แต่ข้ามั่นใจว่าจะก้าวเท้าก้าวนั้นในเร็ววัน”
“เจ้ามาที่นี่เพราะเรื่องย้ายมรกตท่องฟ้าออกจากจักรวาลสำนักเต๋า นั่นหมายความว่าเจ้าหลอมเปลี่ยนควบคุมตำหนักโอสถได้ดีกว่าเดิม และจักรวาลที่เกิดจากตำหนักโอสถก็มีความมั่นคงมากกว่าเดิม” กษัตริย์เถามองเยี่ยนจ้าวเกอ พูดว่า “หรือเจ้าคิดอาศัยตำหนักโอสถ สร้างโลกใบหนึ่ง พร้อมกับก้าวเท้าก้าวสุดท้ายนั้น?”
“ใต้เท้ากษัตริย์เถาสายตาดุจดั่งคบเพลิง” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม “ข้ามีความคิดเช่นนี้เอง”
โอกาสเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ
ถ้าหากไม่มีการช่วยเหลือจากตำหนักโอสถ ด้วยขีดความสามารถของเยี่ยนจ้าวเกอ ยากจะอาศัยระดับปัจจุบันทำขึ้นมาได้
โชคในครั้งนี้มีประโยชน์ต่อการฝึกฝนคัมภีร์เบิกนภาของเขาอย่างใหญ่หลวง
ขณะเดียวกันยังมีส่วนช่วยต่อความรุดหน้าในการฝึกสามพิสุทธิ์ร่วมกันของเขา
เส้นทางที่เขาเลือกเดิน ยามฝึกฝนมีระดับความยากเหนือกว่าคนอื่นๆ อยู่แล้ว การทำลายอุปสรรคอย่างความแตกต่างระหว่างมนุษย์และเซียน ยิ่งเต็มไปด้วยความยากลำบากมากมาย
ในปัจจุบันโอกาสนี้ไม่ต่างอะไรกับโชคหล่นจากฟ้า ขอแค่ใช้ให้เหมาะสม ก็จะประหยัดเวลาและพลังสมาธิได้มากมาย
ทางลัดหายาก ไม่ใช่เพราะไม่อาจวิงวอนให้ได้มา แต่ว่าแฝงภัยซ่อนเร้นเอาไว้
ทว่าตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอกลับกำลังเจอทางลัดที่ไม่เพียงไร้อันตราย กลับมีประโยชน์ และมีส่วนช่วยต่อการฝึกฝนอันยาวไกลของตัวเอง
โอกาสแบบนี้ เรียกได้ว่าพันปียากพบพาน ถึงขั้นหมื่นปียากพบพาน
ครั้งกระโน้นเขาเสี่ยงอันตราย จัดการวิญญาณตำหนักโอสถ ปัจจุบันผลพวงแห่งความสำเร็จในที่สุดก็เริ่มสุกงอมทีละผลๆ
ถึงแม้คนที่อยู่รอบๆ จะมีคาดการณ์ในใจบ้างแล้ว พอได้ยินเยี่ยนจ้าวเกอยอมรับเรื่องนี้ ความรู้สึกก็ซับซ้อน ยิ่งรู้สึกได้ถึงความตื่นตระหนก
จักรพรรดิสัญญะเมฆผ่านมรสุมมาหลายร้อยปี ทราบถึงความไม่ธรรมดาของเยี่ยนจ้าวเกอมาแต่แรก ทว่าตอนนี้ยังคงทอดถอนใจ
มรกตท่องฟ้าที่ทุกคนอยู่ในตอนนี้ ตอนที่บุกเบิก เขาเป็นหนึ่งในผู้สถาปนา ได้พบยุคที่เปลี่ยนจากความมืดสู่แสงสว่างด้วยตัวเอง
ปัจจุบันโลกใบใหม่กำลังจะปรากฏขึ้นตรงหน้า
“คนรุ่นหลังน่ากลัวนัก ไม่เสียทีที่ได้ชื่อเซียนผู้ถูกเนรเทศ” กษัตริย์เถาพยักหน้า จากนั้นมองเยี่ยนจ้าวเกอ กล่าวอย่างสงบนิ่ง “ข้าทราบถึงความตั้งใจแรกของเจ้า ถือเป็นความปราถนาดี สำหรับมรกตท่องฟ้าแล้ว หากได้เข้าไปอยู่ในตำหนักโอสถ ล่องลอยอยู่ในมิติต่างแดน ปีศาจร้ายเส้นทางนอกรีตยากจะตามหาร่องรอยที่อยู่”
“แต่เหมือนอย่างตอนที่พวกเจ้าออกจากจักรวาลสำนักเต๋าในตอนแรก นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะกระทำอย่างไร้สุ้มไร้เสียง และสำเร็จได้ในครั้งเดียว ตอนนั้นจะต้องดึงดูดความสนใจของศัตรูแน่นอน”
กษัตริย์เถาส่ายหน้า “หากศัตรูบุกมาจู่โจมในตอนนั้น สำหรับพวกเจ้า สำหรับมรกตท่องฟ้า ล้วนไม่เป็นผลดี”
นางมองเยี่ยนจ้าวเกอ “ฝั่งเจ้ากับฝั่งข้าถึงแม้จะมีช่องว่าง แต่สุดท้ายถือเป็นสามพิสุทธิ์สายหลักเหมือนกัน พวกเจ้าได้รับตำหนักโอสถแห่งวังเทพมา ต้องระวังกว่าเดิม ไม่ให้มารร้ายเส้นทางนอกรีตได้เปรียบเมื่อถึงเวลา”
“การเข้าสู่ตำหนักโอสถ กลับอาจดึงดูดความต้องการและการไล่ล่าจากอีกฝ่ายมากกว่าเดิม” เยี่ยนจ้าวเกอว่า “แต่ขออภัยที่ข้าขอกล่าวตรงๆ มรกตท่องฟ้าหากรั้งอยู่ในจักรวาลนี้ต่อ ก็ถูกศัตรูแต่ละฝ่ายจับจ้องอยู่ดี”
“ความสัมพันธ์ของข้าและบิดา กับใต้เท้ากษัตริย์ลี้ลับและอาจารย์อารุ่นปู่หลง ไม่ใช่ความลับสำหรับคนอื่นๆ เพื่อตามหาพวกข้าและตำหนักโอสถ อีกฝ่ายย่อมจับตาดูมรกตท่องฟ้า”
“เรื่องราวเกิดขึ้นเพราะข้าส่งผลต่อพวกท่าน ข้าผู้แซ่เยี่ยนรู้สึกผิดจากใจจริง ทว่านอกจากวิธีในปัจจุบัน กลับนึกหาวิธีชดเชยอย่างอื่นไม่ออก”
เยี่ยนจ้าวเกอประสานมือให้แก่ผู้มีอำนาจสายเหนือพิสุทธิ์ที่อยู่รอบๆ กล่าววาจาอย่างเคร่งขรึม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี