“อาจารย์อาหลงหล่อเลี้ยงกระบี่มาหลายพันปี พอออกจากการกักตัว ก็สาดแสงทั่วจักรวาล” ในตำหนักโอสถ กษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยถอนใจชมเชย
เยี่ยนจ้าวเกอร่างจริงทางหนึ่งควบคุมตำหนักโอสถ ทางหนึ่งเอ่ย “ถูกต้อง อาจารย์อารุ่นปู่หลงเปิดคม กระบี่แรกหลังจากเลื่อนสู่เซียนลี้ลับ เซียนกำเนิดสุญญตาส่วนใหญ่ยังต้องหลบ ไม่อย่างนั้นถ้าไม่ได้รับบาดเจ็บก็ต้องถูกเล่นงงานจนหน้าหงาย”
ในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่สนใจเรื่องที่หลงซิงเฉวียนด้อยกว่าเกาชิงเสวียนที่เป็นภรรยา ถึงขั้นแอบพูดกันเป็นเรื่องตลก
หลงซิงเฉวียนไม่สนใจ และเพราะปกติมักเกียจคร้านทำอะไรตามใจ เก็บตัวไม่ได้ออกไปไหน ยิ่งทำให้คนดูถูกมากกว่าเดิม
แต่ขอแค่ไตร่ตรองดูก็จะทราบทันทีว่า คนที่ไม่มีความกล้าไม่มีความสามารถ ในฐานะที่เป็นผู้สืบทอดสายหยกพิสุทธิ์ ครั้งกระโน้นไฉนจึงกระทำเรื่องอย่างการบุกมาดวลกระบี่ที่มรกตท่องฟ้า?
บอกว่าคนไม่รู้ไร้ความเกรงกลัวยังพอว่า ปัญหาคือตอนนั้นหลงซิงเฉวียนใช้วิชากระบี่สยบมรกตท่องฟ้า ทำให้พวกจางปู้ซวีกับอวิ๋นเจิงเต้าหยินยอดฝีมือสายเหนือพิสุทธิ์หลายคนต้องเสียหน้า จนกระทั่งเกาชิงเสวียนลงมือ เขาจึงค่อยพ่ายแพ้
ตามคำกล่าวของเยว่เจิ้่นเป่ย ปกติแล้วหลงซิงเฉวียนเกียจคร้าน แต่ว่าตอนที่เขามีกระบี่อยู่ในมือ ต่อสู้กับผู้คน ความบ้าคลั่งและการยึดติดต่อชัยชนะ ยังมีมากกว่าเยี่ยนซิงถางเสียอีก
แลกเปลี่ยนกระบวนท่ายังพอว่า แต่ถ้าสู้กับศัตรู ใต้กระบี่ถ้าไม่ตายก็บาดเจ็บ ไม่เคยปรานี
ก่อนหน้านี้เยี่ยนจ้าวเกอยังไม่ค่อยเห็นภาพ
ทว่าวันนี้พอได้เห็นจุดจบของเสวียนชางไท่จื่อ ทุกอย่างก็ไม่จำเป็นต้องพูดมากแล้ว
พลังของหลงซิงเฉวียน ในอดีตตอนที่ออกตามหาตำหนักโอสถ เยี่ยนจ้าวเกอได้เจอจักรพรรดิอวิ๋นเจิงเป็นครั้งแรก เคยชมเชยอีกฝ่ายว่า ในหมู่ยอดฝีมือระดับเซียนจริงแท้ที่ตนรู้จักในตอนนั้น อีกฝ่ายติดสามอันดับแรกได้
ในขณะนั้น ยอดฝีมือเซียนจริงแท้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสายตาของเยี่ยนจ้าวเกอ ไม่ใช่เฉินกานหวาที่เพิ่งเลื่อนสู่ระดับเซียน ไม่ใช่หลงเสวี่ยจี้ที่เผยความคมกล้า และไม่ใช่จักรพรรดินีเจี่ยงหมิงคงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง สร้างความตกตะลึงในยามลืมตา
เป็นอาจารย์อารุ่นปู่ที่หล่อเลี้ยงกระบี่มาหลายพันปีอย่างเงียบๆ และเป็นตัวตลกในสายตาของคนไม่กี่คน
หลงซิงเฉวียน หลงจักรพรรดิน้ำพุในตอนนั้น!
“ที่นี่มอบให้จ้าวเกอเจ้า ข้าจะไปช่วยแล้ว” ถึงจะไม่ลงรอยกับพวกกษัตริย์เถาและอวิ๋นเจิงเต้าหยินยอดฝีมือของมรกตท่องฟ้า แต่ตอนนี้ต้องรับศึกศัตรู เยว่เจิ้นเป่ยยังคงละวางความแค้นส่วนตัวชั่วคราว ออกจากตำหนักโอสถ
ในความว่างเปล่าของจักรวาลด้านอกตำหนักโอสถ หลงซิงเฉวียนเผชิญกับราชามังกรหวนเฉินอนุเทวะเผ่าปีศาจที่เทียบได้กับจ้าวสวรรค์ของสำนักเต๋า
ราชามังกรหวนเฉินตอนนี้ไม่ใจร้อนอีก เคลื่อนไหวทีละก้าวอย่างมั่นคง คิดใช้ระดับกดดันคน
หลงซิงเฉวียนในตอนนี้แม้ดวงตาจะเผยให้เห็นถึงความฮึกเหิมต้องการชัยชนะ แต่ว่าขณะลงมือ ยังคงรักษาเยือกเย็น แบ่งลำดับขั้นตอนชัดเจน
เขาทางหนึ่งต้านทานการสะกดที่เกิดจากเสียงมหามรรคายามอีกฝ่ายลงมือ ทางหนึ่งเปลี่ยนประกายกระบี่จากแข็งเป็นอ่อน ต่อสู้กับศัตรู
อีกด้านหนึ่ง กษัตริย์เถากับอวิ๋นเจิงเต้าหยินที่ออกมาจากมรกตท่องฟ้า กษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยที่ออกมาจากตำหนักโอสถ ต่อสู้กับเผ่าปีศาจที่เหลือเป็นพัลวัน
เผ่าปีศาจที่อยู่ที่นี่ นอกจากเสวียนชางไท่จื่อแล้ว ยังมีมืดดีไม่น้อย
แต่ว่าตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญความตกตะลึงอย่างฉับพลันหลังจากอวิ๋นเจิงเต้าหยินหล่อเลี้ยงกระบี่หลายพันปีเช่นกัน!
ถึงสภาวะจะด้อยกว่าหลงซิงเฉวียน ทว่ายามอวิ๋นเจิงเต้าหยินออกกระบี่ ผู้ขวางทางล้วนมอดม้วย!
เซียนปีศาจที่ผสานปราณเซียนเป็นวายุ เทียบได้กับระดับเซียนลี้ลับของสำนักเต๋า ถูกอวิ๋นเจิงเต้าหยินฟันขาดเป็นสองท่อน
ประกายกระบี่สภาวะไม่หยุดลง กอปรเป็นสภาวะทำลายล้าง พัดกระพือคลื่นคลั่งคาวโลหิตลูกหนึ่ง!
ราชามังกรหวนเฉินถูกกดันจนไร้หนทาง ผละจากหลงซิงเฉวียนชั่วคราว ถูกกดดันให้รับกระบี่นี้แทนเผ่าปีศาจตนอื่นอีกครั้ง
อีกด้านหนึ่ง หลงซิงเฉวียนพุ่งประกายกระบี่ถั่งโถมมา ฉวยโอกาสโต้ตอบราชามังกรหวนเฉิน
อวิ๋นเจิงเต้าหยินสาดประกายกระบี่ออก วางค่ายกลกระบี่หลายค่าย อาศัยสภาวะกักขังราชามังกรหวนเฉินกับหลงซิงเฉวียนไว้ด้านใน
เขาโบกมือวูบหนึ่ง ลำแสงสายหนึ่งห่อหุ้มหลงเสวี่ยจี้กับเกาเสวี่ยโพสองพี่น้องให้พุ่งเข้าหาเยว่เจิ้นเป่ยที่อยู่อีกด้าน จากนั้นเยว่เจิ้นเป่ยก็ส่งพวกเขาไปยังตำหนักโอสถ
ถึงแม้ว่าเสียงมหามรรคาที่อนุเทวะเผ่าปีศาจกระตุ้นขึ้นมาจะทำให้พวกหลงเสวี่ยจี้ที่อยู่ในระดับเซียนจริงแท้ได้รับการสะกด แต่การส่งนี้ยังพาพวกเขาเข้าไปในตำหนักโอสถได้อย่างปลอดภัย
เสียงมังกรที่เดือดดาลดังขึ้น ราชามังหวนเฉินใกล้จะฉีกค่ายกลกระบี่ทะลวงออกมาได้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี